วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559
เขียน 15/5/25 07:36 (15 พฤษภาคม พุทธศักราช 2568 (คริสตศักราช 2025) เวลา 07 นาฬิกา 36 นาที)
ท่าสลับฟันปลา (รับด้านนอก)
ฝ่ายรุก
เดินเข้ามาชกด้วยหมัดซ้าย ตรงไปที่ใบหน้าของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
ใช้มือซ้ายปัดหมัดฝ่ายรุกที่ข้อมือ ส่วนมือขวากระแทกไปที่หัวไหล่ด้านนอก ของฝ่ายรุก
ท่าปักษาแหวกรัง (รับด้านใน)
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้า มือซ้ายตั้งมั่นพร้อมที่จะชกหมัด
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าขวา ทแยงเฉียงด้านขวาสืบเท้าเข้าวงใน ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าขวา ใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้พ้นใบหน้า มือขวากระแทกไปที่หัวไหล่ด้านในของฝ่ายรุกทันที
ท่าปักษาแหวกรัง
ท่าปักษาแหวกรัง
ท่าชวาซัดหอก
ฝ่ายรุก
เดินมวยชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่บริเวณหน้าของฝ่ายรับ มือขวาตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
รีบก้าวเท้าซ้ายเฉียงออกวงนอก ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าซ้าย โดยพุ่งตัวเข้าหาคู่ต่อสู้ แขนขวายกขึ้นปัดหมัดฝ่ายรุกให้เบนออกพ้นตัว แขนซ้ายยกศอกกระแทกเข้าชายโครงของฝ่ายรุก
ท่าอิเหนาแทงกริช
ท่าอิเหนาแทงกริช
ท่าอิเหนาแทงกริช
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่บริเวณหน้า ของฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
รีบก้าวเท้าขวาทแยงเข้าวงใน ทิ้งน้ำหนักลงบนเท้าขวา ยกแขนซ้ายขึ้นปัดหมัดให้พ้นตัว แขนขวางอศอก เพื่อส่งศอกกระแทกที่ชายโครงของฝ่ายรุก
ท่ายกเขาพระสุเมรุ
ท่ายกเขาพระสุเมรุ ท่ายอเขาพระสุเมรุ
ฝ่ายรุก
เดินมวยชกด้วยหมัดขวา ตรงเข้าบริเวณหน้าของฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
รีบก้มศีรษะให้หมัดผ่านศีรษะไป พร้อมกับสืบเท้าขวาไปข้างหน้าเล็กน้อย ให้ได้จังหวะหมัด แล้วชกหมัดขวา เข้าสู่ปลายคาง ของฝ่ายรุกทันที
ท่าตาเถรค้ำฝัก
ฝ่ายรุก
เดินมวยชกด้วยหมัดขวาตรงเข้าบริเวณหน้าของฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
รีบสืบเท้าขวาไปข้างหน้าเข้าวงในของฝ่ายรุก ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าขวา พร้อมกับงอแขนซ้ายยกขึ้นตรงหน้า ปัดกระแทกขึ้น ให้หมัดฝ่ายรุกพ้นศีรษะไป มือขวาชกเข้าสู่ปลายคางของฝ่ายรุกทันที ท่าตาเถรค้ำฝัก
ท่าตาเถรค้ำฝัก
ท่ามอญยันหลัก
ฝ่ายรุก
เดินมวยชกด้วยหมัดซ้ายตรงเข้าบริเวณหน้าของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
รีบยกแขนทั้งสองขึ้นป้องกันหน้า พร้อมกับยกเท้าขวาถีบเข้าที่ยอดอกหรือท้องของฝ่ายรุก ให้กระเด็นไป ท่ามอญยันหลัก
ท่ามอญยันหลัก
ท่าปัดลูกทอย
ท่าปัดลูกทอย ท่าปักลูกทอย
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าเตะเหวี่ยงด้วยเท้าซ้ายเป้าหมายคือ ศีรษะฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
รีบสืบเท้าเข้าหาครึ่งก้าว พร้อมกับหมุนตัว เอาเท้าขวาเป็นแกน หันหน้าเข้าหาทิศทางที่เท้าเตะมา ยกศอกขวาตั้งขึ้นระดับหน้าแข้ง มือซ้ายตั้งการ์ดปิดระดับต้นคอให้มั่น เพื่อป้องกันพลาดถูกใบหน้า
ท่าจระเข้ฟาดหาง
ท่าจระเข้ฟาดหาง ท่าจระเข้ฟาดหาง
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงสุดแรง จนตัวเสียหลักถลันเข้าไปข้างหน้า
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าซ้ายทแยงออกวงนอก เอี้ยวตัวให้หมัดผ่านทางไหล่ขวา ในระยะ ๑ คืบ แล้วใช้เท้าซ้ายเป็นหลัก หมุนให้ส้นเท้ากระแทกที่ศีรษะ ของฝ่ายรุก
ท่านาคาบิดหาง
ท่านาคาบิดหาง ท่านาคาบิดหาง
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าหา พร้อมเตะเหวี่ยงด้วยเท้าขวา มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
รีบพลิกตัวหันหน้าไปทางเท้าที่กำลังเตะมา น้ำหนักตัวทิ้งบนเท้าซ้าย เท้าขวาอยู่ในหลักยืนมวย แบบสิงหยาตร มือขวาตั้งฝ่ามือปะทะปลายเท้า มือซ้ายแบหงาย ตะปบส้นเท้า แล้วใช้มือที่จับปลายเท้า พลิกบิดออกด้านนอก มือซ้ายจับส้นเท้าฝ่ายรุก ดึงเข้าหาตัว พร้อมกับใช้เข่ากระแทกไปที่น่อง
ท่าหักงวงไอยรา
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าหาพร้อมยกเท้าเข้าเตะกราดบริเวณชายโครง มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าซ้ายเข้าหาฝ่ายรุกในระยะเกือบชิดตัวอย่างรวดเร็ว หันหน้าเข้าหาทิศทาง ที่ฝ่ายรุกเตะมา กระแทกศอกขวาสู่บริเวณโคนขาฝ่ายรุก พร้อมแขนซ้ายโอบจับตรงบริเวณน่อง ยกขาให้สูง เพื่อให้เสียหลัก ป้องกันฝ่ายรุกใช้ศอกถองที่ศีรษะ ท่าหักงวงไอยรา
ท่าหักงวงไอยรา
ท่าวิรุฬหกกลับ
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าหา พร้อมทั้งยกเท้าเตะกราดตรงบริเวณชายโครง
ฝ่ายรับ
รีบพลิกตัวทแยงหันหน้าสู่ทิศทางที่เท้าเตะมา ใช้เท้าซ้ายเป็นหลักยืนให้มั่น ยกเท้าขวากระแทกด้วยส้นเท้าที่ต้นขาให้สะท้อนกลับไป มือทั้งสองตั้งให้มั่น เพื่อป้องกันพลาดถูกชายโครง ท่าวิรุฬหกกลับ
ท่าวิรุฬหกกลับ
ท่าหักคอเอราวัณ
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าหา ชกด้วยหมัดขวาตรงบริเวณหน้าของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า ใช้หมัดทั้งสองจับที่ต้นคอฝ่ายรุก จากนั้นก็กระแทกเข่าขวาไปที่หน้า ของฝ่ายรุก ท่าหักคอเอราวัณ
ท่าหักคอเอราวัณ
ท่าดับชวาลา
ท่าดับชวาลา ท่าดับชวาลา
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้าของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าซ้ายทแยงเฉียงออกวงนอก ทิ้งน้ำหนักตัวบนเท้าซ้าย ใช้มือซ้ายกดแขนขวา ของฝ่ายรุกให้เบนและลงต่ำ รีบชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้า ให้เป็นจังหวะเดียวกับมือซ้ายที่กดลงนั้นอย่างรวดเร็ว
ท่าขุนยักษ์จับลิง
ท่าขุนยักษ์จับลิง ท่าขุนยักษ์จับลิง
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกหมัดซ้ายตรงเข้าที่บริเวณหน้าของฝ่ายรับ พร้อมกับเตะเท้าขวา ตรงบริเวณชายโครง ตามด้วยศอกขวาอย่างรวดเร็ว
ฝ่ายรับ
รีบก้าวเท้าซ้ายสืบเข้าหาตัว ก้าวเท้าขวา ยกแขนทั้งสองข้างปัดการเตะที่แข้งขวาของฝ่ายรุก พร้อมยกแขนซ้ายป้องกันศอกขวาของฝ่ายรุก แม่ไม้นี้เป็นการหลบหมัด หลบเตะ หลบศอก ในเวลาเดียวกัน
ท่าเอราวัณเสยงา
ฝ่ายรุก
ชกหมัดขวาตรงไปยังหน้าของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
เอี้ยวตัวหลบหมัดซ้ายไปทางซ้าย ใช้หมัดขวาปัดหมัดซ้ายของฝ่ายรุก พร้อมชกหมัดซ้ายเข้าที่คางของฝ่ายรุกอย่างรวดเร็ว
ท่าบาทาลูบพักตร์
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
รีบใช้เท้าขวาถีบไปที่บริเวณหน้าของฝ่ายรุกอย่างรวดเร็ว
ลูกไม้นี้ชิงจังหวะทำก่อน ท่าบาทาลูบพักตร์
ท่าบาทาลูบพักตร์
ท่าขุนยักษ์พานาง
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดตรงไปที่บริเวณหน้าของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าเฉียงออกวงนอก หลบหมัดที่ชกมา แล้วก้าวเท้าขวาประชิดตัว มือขวาโอบลำตัวฝ่ายรุกจับทุ่มด้วยสะโพก
ท่าพระรามน้าวศร
ท่าพระรามน้าวศร ท่าพระรามน้าวศร
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าประชิดตัว ยกศอกคู่หรือศอกเดี่ยวขึ้น กระแทกลงที่แสกหน้าหรือกระหม่อม ของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
งอเข่าก้มหัวลงเล็กน้อย เพื่อชะลอแรงกระแทก ยกแขนซ้ายขึ้นปกหน้าปะทะศอก ที่กระแทกลงมา พร้อมชกสวนออกไปด้วยหมัดขวา
ท่าไกรสรข้ามห้วย
ท่าไกรสรข้ามห้วย ท่าไกรสรข้ามห้วย
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าเตะด้วยเท้าสู่ปลายคางของฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
พลิกตัวหันหลังจากเท้าที่เตะมา พร้อมกับสอดเท้าซ้ายถีบเข้าที่หน้าตักของขาที่ยืนเป็นหลักของฝ่ายรุกทันที
ท่ากวางเหลียวหลัง
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าหา มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
พุ่งตัวเข้าถีบเท้าขวาในลักษณะถีบข้างจนฝ่ายรุกเอียงเสียหลัก แล้วลดขาที่ถีบลงไปข้างหน้า ยืนเป็นหลัก พลิกตัวตาม เตะด้วยส้นเท้าที่ยอดอก หรือปลายคาง ท่ากวางเหลียวหลัง
ท่ากวางเหลียวหลัง
ท่าหิรัญม้วนแผ่นดิน
ฝ่ายรุก
เตะเหวี่ยงขาขวาหมายที่ซอกคอฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
เท้าขวาประชิดเข้าหาเท้าที่เตะมา รีบยกแขนขวาท่อนล่างขึ้นรับการเตะของฝ่ายรุก พร้อมกลับหลังหันใช้ศอกกลับตีคางหรือบริเวณใบหน้าของฝ่ายรุกทันที ท่าหิรัญม้วนแผ่นดิน
ท่าหิรัญม้วนแผ่นดิน
ท่านาคมุดบาดาล
ท่านาคมุดบาดาล ท่านาคมุดบาดาล
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าเตะด้วยเท้าขวาหมายซอกคอฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
ก้มตัวหลบลอดใต้เท้าขวาของฝ่ายรุกที่เตะมา แล้วรีบสอดเท้าขวา ถีบขาพับซ้ายของฝ่ายรุก ทันที
ท่าหนุมานถวายแหวน
ท่าหนุมานถวายแหวน ท่าหนุมานถวายแหวน
ฝ่ายรุก
เดินมวยชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่หน้าของฝ่ายรับ
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าขวามาด้านข้าง พร้อมกับใช้หมัดซ้ายปัดหมัดขวาของฝ่ายรุก ย่อตัวลงหลบหมัดตรงฝ่ายรุก สวนกลับด้วยหมัดทั้งสอง เสยเข้าที่คางของฝ่ายรุก
ท่าญวนทอดแห
ท่าญวนทอดแห ท่าญวนทอดแห
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าถีบด้วยเท้าขวาไปที่หน้าของฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าขวาทแยงเฉียงออกวงนอก ใช้แขนขวาปัดขาเบนแรงถีบ แล้วใช้เท้าขวาเป็นหลัก พลิกตัวเตะสวนขึ้นด้วยเท้าซ้ายเข้าที่พับในของฝ่ายรุกทันที
ท่าทะแยค้ำเสา
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าเตะด้วยเท้าขวาที่ซอกคอฝ่ายรับ มือทั้งสองตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
ก้าวขาเฉียงไปทางขวาเล็กน้อย ตั้งแขนซ้ายกันเท้าที่เตะมา ย่อตัวลงพลิกตัวเล็กน้อย ถีบด้วยเท้าซ้ายไปที่ขาซ้ายที่ยืนเป็นหลัก ของฝ่ายรุกให้หงายหลังล้มลง ท่าทะแยค้ำเสา
ท่าทะแยค้ำเสา
ท่าหงส์ปีกหัก
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้าของฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าซ้ายเข้าประชิดตัว แล้วใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้เบนออก กระแทกศอกขวาเข้าที่หัวไหล่ขวาของคู่ต่อสู้ ท่าฟงส์ปีกหัก
ท่าหงส์ปีกหัก
ท่าฝานลูกบวบ
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้าฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าขวาทแยงเข้าวงใน ใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้เบนออก พร้อมกับใช้ศอกเสยเข้าที่ปลายคางของฝ่ายรุกทันที ท่าฝานลูกบวบ
ท่าฝานลูกบวบ
ท่าสักพวงมาลัย
ท่าสักพวงมาลัย ท่าสักพวงมาลัย
ฝ่ายรุก
เดินมวยเข้าชกด้วยหมัดขวาตรงไปที่ใบหน้าของฝ่ายรับ มือซ้ายตั้งมั่น
ฝ่ายรับ
ก้าวเท้าขวาประชิดตัว ใช้แขนซ้ายปัดหมัดให้เบนออก กระแทกศอกขวาเข้าที่ยอดอกของคู่ต่อสู้
ท่าเถรกวาดลาน
ท่าเถรกวาดลาน ท่าเถรกวาดลาน
ฝ่ายรุก
เดินมวยเตะสูง หรือยืนในลักษณะเท้ายืนคู่
ฝ่ายรับ
เดินมวยเข้าหาในระยะที่เตะกวาดได้พร้อมกับก้มตัวลง ให้เท้าของฝ่ายรุกเตะผ่านศีรษะไป แล้วเตะกวาดไปที่เท้าซ้ายที่ยืนอยู่ของฝ่ายรุกอย่างสุดแรง ถ้ายืนจดมวย ให้เตะกวาดขาที่อยู่ข้างหน้า
เขียนครั้งแรก 17/9/23 11:34 (17 กันยายน พุทธศักราช 2566 (คริสตศักราช 2023) เวลา 11 นาฬิกา 34 นาที)
เขียนต่อ 16/12/23 09:48 (16 ธันวาคม พุทธศักราช 2566 (คริสตศักราช 2023) เวลา 09 นาฬิกา 48 นาที)
・( ตั้งแต่ 0:00 น. ) ยืนอย่างมั่นคงในท่าไขว่ห้างโดยกางขาออกแล้วเหยียดปลายนิ้วออก
・( 0:13 ~) ยกมือซ้ายขึ้นแล้วพับมือไว้ด้านหน้าโอบิ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันไม่ได้อยู่ใกล้ร่างกายของคุณมากเกินไป
・( 0:16 ~) ขยับไปด้านข้างของร่างกายพร้อมกำหมัดแน่น ให้เท้าของคุณขนานกันเพื่อที่คุณจะได้ไปยังซันเซ็นทาจิถัดไปได้
・( 0:19 ~) ระวังอย่าให้รักแร้ว่างเปล่า
・( 0:27 ~) มาดันแรงขับตรงไปข้างหน้าจากจุดที่ถูกดึงกันดีกว่า
・( 0:31 ~) อย่าลืมหมุนขาหน้าให้มั่นคงเมื่อก้าวไปข้างหน้า
・( 0:32 ~) ขยับขาไปข้างหน้าโดยวาดครึ่งวงกลม
・( 0:56 ~) เมื่อขยับเท้า ให้พิจารณาความกว้างของเท้าด้านหลังเมื่อโน้มตัวไปข้างหน้า ระวังอย่าเสียจุดยืนสามเกมของคุณ
(การเคลื่อนไหวจะทำซ้ำต่อไป แต่อย่าผ่อนคลายและกำหมัดให้แน่น)
・( 1:52 ~) เมื่อลดมือลง ให้ออกแรงกดที่ปลายนิ้วแล้วยืดออกให้มั่นคง
・( 1:57 ~) ดึงที่จับให้สูงเพื่อป้องกันด้านข้างของคุณ
・( 2:14 ~) เมื่อดึงเท้า ให้วาดครึ่งวงกลมขณะดึงเท้า
・( 2:17 ~) ระวังอย่าให้ข้อศอกของแขนทั้งสองข้างเปิดออกด้านนอก
・( 2:26 ~) ขณะอยู่ในซันเซ็นดาชิ ให้ประสานมือกันต่อหน้าคุณแล้วกลับไปที่น็อตดาชิ
・( 0:14 ~) ยืนบนทั้งสี่โดยให้เท้าของคุณเฉียงไปข้างหน้าไปทางขวา อย่าลืมยืดหลังของคุณ
・( 0:16 ~) วางมือไว้ด้านหน้าหน้าอกแล้วลูบลูกบอล โดยกดหลังเท้าเข้าหากันอย่างมั่นคง
・( 0:20 ~) จับกำปั้นแล้ววางให้ขนานกับต้นขา
・( 0:22 ~) ระวังการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลของ Seiken
・( 0:24 ~) หยุดไว้ก่อนดีกว่า
・( 0:30 ~) ก้าวเท้าไปข้างหน้าเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
・( 0:38 ~) เมื่อยืนทั้งสี่ขา ระวังอย่าขยับในขณะที่ร่างกายส่วนบนเคลื่อนไหว
(แม้ว่าการเคลื่อนไหวซ้ำแล้วซ้ำอีกและการยืนบนขาทั้งสี่ข้างจะเป็นเรื่องยากก็ตาม ให้ตั้งท่าที่มั่นคงเพื่อไม่ให้ศีรษะขยับขึ้นลง)
・( 0:56 ~) ใช้มือขวาเป็นหมัดปกติ แล้วจับโดยให้หลังมือคว่ำลงบนมือซ้าย
・( 0:59 ~) ย้ายจากการเคลื่อนไหวช้าๆ ก่อนหน้านี้ไปสู่การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เพิ่มความคม.
・( 1:00 ~) อย่าลืมตีคู่ต่อสู้โดยตรงโดยไม่ให้ข้อศอกกางออก
・( 1:05 ~) อย่าลืมยืดดาบในมือซ้ายจนสุดจนถึงปลายนิ้ว
・( 1:07 ~ ) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้หยุดการเคลื่อนไหวในการชำระเงิน แต่ละครั้งอย่างมั่นคงและหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง
・( 1:20 ~) ใช้กำลังในมือมากพอ ซึ่งจะช่วยปกป้องแถวบนและล่างเพื่อให้คุณสามารถรับการโจมตีได้
・( 1:26 ~) อย่าลืมหมุนข้อมือสักครู่
・( ตั้งแต่ 13:30 น. ) การดำเนินการดำเนินต่อไป มีสติในการหยุดการเคลื่อนไหวของคุณเพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหวต่อเนื่องกัน
・( 1:52 ~) อย่ายืดขาหลังจนสุด
・( 1:56 ~) ลดมือลงจากเหนือศีรษะเพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวของมือเล็กเกินไป
・( 0:07 ~) แสดง Chudan Uke โดยหมุนมือทั้งสองข้างไปด้านหน้าหน้าอก ขาหน้าหันเข้าด้านใน
・( 0:12 ~) ใช้มือที่วาดไว้โจมตีและรับอย่างรวดเร็ว
・( 0:14 ~) ขยับเท้าหน้าซึ่งหันเข้าด้านใน โดยให้นิ้วเท้าอยู่ข้างหน้า และขยับเท้าหลังไปข้างหน้าในลักษณะครึ่งวงกลม
・( 0:18 ~) ระวังอย่าละเลยการเคลื่อนไหวแบบผลักและรับ
・( 0:29 ~) ในขณะเดียวกันก็หมุนฝ่ามือไปข้างหน้า ให้ดึงเท้าหน้าไปด้านหลังอย่างรวดเร็วแล้วเคลื่อนไปข้างหน้าโดยใช้ด้านหลังเป็นเท้าเลื่อน
・( 0:37 ~) จับมือของคุณไว้ข้างหน้าอย่างช้าๆ และแรง
・( 0:38 ~) งอเข่าของขาหลังเล็กน้อยแล้วหันนิ้วเท้าออก
・( 0:40 ~) สำหรับท่าเตะด้านล่าง อย่าลืมยกเท้าให้มั่นคงก่อนเตะ
・( 1:02 ~) อย่าลืมจับคอเสื้อของคู่ต่อสู้อย่างแน่นหนาขณะออกแรงซ้ำ ๆ
・( 1:04 ~) งอข้อศอกขวาเล็กน้อยแล้วหมุนเท้าหลักเพื่อเตะต่ำ
・( 1:16 ~) ระวังอย่าเสียการทรงตัวเมื่อเตะลูกล่าง ใช้แรงยกขาเพื่อหมุนลำตัว
・( 1:27 ~) ในระหว่างการเตะตรงกลาง การขยับศีรษะขึ้นลงจะง่ายกว่า ดังนั้นอย่าลืมให้สะโพกอยู่กับที่อย่างมั่นคง
・( 1:28 ~) เหยียดมือซ้ายไปจนสุดปลายนิ้วแล้ววางไว้บนแขนขวา
・( 1:33 ~) ระวังอย่าเปิดข้อศอก
・( 1:35 ~) ใช้มือซ้ายวางมือขวาเป็นครึ่งวงกลม โดยใช้ข้อศอกเป็นจุดศูนย์กลาง
・( 0:11 ~) แสดง Chudan Uke โดยหมุนมือทั้งสองข้างไปด้านหน้าหน้าอก ขาหน้าหันเข้าด้านใน
・( 0:16 ~) ใช้มือที่วาดไว้โจมตีและรับอย่างรวดเร็ว
・( 0:18 ~) ขยับเท้าหน้าซึ่งหันเข้าด้านใน โดยให้นิ้วเท้าอยู่ข้างหน้า และขยับเท้าหลังไปข้างหน้าในลักษณะครึ่งวงกลม
ส่วนเริ่มต้นจะเหมือนกับ Thirteen Hands (Seisan)
・( 0:31 ~) แบมือออกให้กว้างจากด้านหน้าหน้าอกไปด้านข้าง (ไม่ใช่ด้านข้างโดยตรง แต่เป็นแนวทแยงด้านหน้าคุณ)
・( 0:39 ~) ระวังอย่าเปิดข้อศอก
・( 0:48 ~) อย่าลืมวางดาบมือขนานกับพื้นและเหยียดปลายนิ้วออกจนสุด ระวังอย่าถือดาบไว้ใกล้ตัว
・( 0:51 ~) ขยับขาโดยหันร่างกายไปข้างหน้า ลองนึกถึงความกว้างของเท้าของคุณเมื่อคุณมองย้อนกลับไป
・( 1:36 ~) จุดศูนย์ถ่วงจะอยู่ที่ขาหลัง แต่อย่าให้หลังโค้ง
・( 1:40 ~) เมื่อเคลื่อนไหว อย่าลืมขยับเท้าหน้าไปข้างหน้าในแนวทแยงมุม
・( 1:47 ~) การแทงด้วยสองมือขณะมองย้อนกลับไป เล็งไปที่ส่วนตรงกลางและอย่าปล่อยแขนไปจนสุด
・( 1:51 ~) คุณสามารถทำให้มันคมชัดยิ่งขึ้นได้โดยหันหน้าไปทางด้านหน้าจนกว่าคุณจะหันหลังกลับ
・( 1:52 ~) การเคลื่อนไหวเดียวกันจะดำเนินต่อไปในทุกทิศทาง แต่ระวังอย่าหยุดการเคลื่อนไหว
・( 2:04 ~) หลังจากนี้ คุณจะขยับไปยืนบนขาทั้งสี่ข้าง ดังนั้นควรระวังความกว้างของเท้าด้วย
・( 2:09 ~) เมื่อก้าวไปข้างหน้า ให้ลดสะโพกลงแล้วก้าวไปข้างหน้า
・( 2:31 ~) การเตะ การสำลัก และการรับการเคลื่อนไหวยังคงดำเนินต่อไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายไม่เปลี่ยนแปลง
・( 3:07 ~) วางเท้าขวาบนมือซ้ายแล้วหมุนหนึ่งครั้ง แน่นอนว่าคุณต้องการเสียการทรงตัว แต่อย่าปล่อยให้เท้าแคบหรือกว้างเกินไปหลังการหมุน
・( 0:11 ~) แสดง Chudan Uke โดยหมุนมือทั้งสองข้างไปด้านหน้าหน้าอก ขาหน้าหันเข้าด้านใน
・( 0:16 ~) ใช้มือที่วาดไว้โจมตีและรับอย่างรวดเร็ว
・( 0:18 ~) ขยับเท้าหน้าซึ่งหันเข้าด้านใน โดยให้นิ้วเท้าอยู่ข้างหน้า และขยับเท้าหลังไปข้างหน้าในลักษณะครึ่งวงกลม
ส่วนเริ่มต้นจะเหมือนกับ Thirteen Hands (Seisan)
・( 0:31 ~) แบมือออกให้กว้างจากด้านหน้าหน้าอกไปด้านข้าง (ไม่ใช่ด้านข้างโดยตรง แต่เป็นแนวทแยงด้านหน้าคุณ)
・( 0:39 ~) ระวังอย่าเปิดข้อศอก
・( 0:48 ~) อย่าลืมวางดาบมือขนานกับพื้นและเหยียดปลายนิ้วออกจนสุด ระวังอย่าถือดาบไว้ใกล้ตัว
・( 0:51 ~) ขยับขาโดยหันร่างกายไปข้างหน้า ลองนึกถึงความกว้างของเท้าของคุณเมื่อคุณมองย้อนกลับไป
・( 1:36 ~) จุดศูนย์ถ่วงจะอยู่ที่ขาหลัง แต่อย่าให้หลังโค้ง
・( 1:40 ~) เมื่อเคลื่อนไหว อย่าลืมขยับเท้าหน้าไปข้างหน้าในแนวทแยงมุม
・( 1:47 ~) การแทงด้วยสองมือขณะมองย้อนกลับไป เล็งไปที่ส่วนตรงกลางและอย่าปล่อยแขนไปจนสุด
・( 1:51 ~) คุณสามารถทำให้มันคมชัดยิ่งขึ้นได้โดยหันหน้าไปทางด้านหน้าจนกว่าคุณจะหันหลังกลับ
・( 1:52 ~) การเคลื่อนไหวเดียวกันจะดำเนินต่อไปในทุกทิศทาง แต่ระวังอย่าหยุดการเคลื่อนไหว
・( 2:04 ~) หลังจากนี้ คุณจะขยับไปยืนบนขาทั้งสี่ข้าง ดังนั้นควรระวังความกว้างของเท้าด้วย
・( 2:09 ~) เมื่อก้าวไปข้างหน้า ให้ลดสะโพกลงแล้วก้าวไปข้างหน้า
・( 2:31 ~) การเตะ การสำลัก และการรับการเคลื่อนไหวยังคงดำเนินต่อไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายไม่เปลี่ยนแปลง
・( 3:07 ~) วางเท้าขวาบนมือซ้ายแล้วหมุนหนึ่งครั้ง แน่นอนว่าคุณต้องการเสียการทรงตัว แต่อย่าปล่อยให้เท้าแคบหรือกว้างเกินไปหลังการหมุน
・( 0:10 ~) เมื่อคุณก้าวออกมา ให้วาดครึ่งวงกลม
・( 0:12 ~) นำมือรับมาไว้ด้านหน้าแขนแล้วนำมาไว้ข้างตัว
・( 0:26 ~) ยกแขนขึ้นจากด้านหน้าท้องถึงใกล้คอ ในเวลานี้ ต้องยกข้อศอกให้แน่นเพื่อไม่ให้ข้อศอกหล่น
・( 0:28 ~) เมื่อลดแขนลง ให้ลดข้อศอกลงอย่างรวดเร็วและระวังอย่าให้กำปั้นหยุดไหล
・( 0:30 ~) อย่าลืมยืดดาบจนสุดปลายนิ้ว
・( 0:33 ~) ยกแขนขึ้นจนข้อศอกอยู่สูงระดับไหล่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันอยู่ใกล้ร่างกายของคุณและยกหน้าอกขึ้น
・( 0:35 ~) เมื่อลดแขนลง แทนที่จะลดแขนลงตรงๆ ให้พยายามวาดส่วนโค้งเพื่อให้ลำตัวขนานกับตัวคุณเล็กน้อย
・( 0:36 ~) เมื่อขยับเท้า ให้พิจารณาความกว้างของเท้าเมื่อสิ้นสุดการเคลื่อนไหว ระวังเพราะอาจเสียสมดุลได้ง่ายเมื่อมองย้อนกลับไป
・( 0:42 ~) เมื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ระวังอย่าขยับศีรษะขึ้นหรือลงในขณะที่รักษาจุดศูนย์ถ่วงลง
・( 0:54 ~) จับส่วนบนให้แน่นโดยให้ข้อศอกอยู่สูงระดับไหล่
・( 0:55 ~) หลังจากออกแรงต่อเนื่องหนึ่งรอบ ให้หยุดอย่างมั่นคงเพื่อใช้เวลาสักครู่
(ระวังอย่าหยุดเพราะการกระทำเดิมดำเนินต่อไปในสามทิศทาง)
・( 1:00 ~) เพิ่มความเร็วในการหมุนจากชั้นบนเพื่อปรับปรุงความคมชัด
・( 1:03 ~) ก้มไปข้างหน้าให้ลึกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเตะกลางตัวเพื่อแทง
・( 1:07 ~) หยุดการเคลื่อนไหวเมื่อคุณยกขาขึ้น
・( 0:10 ~) ถอยหลังและรับลูกบอลให้อยู่นอกด้านหน้า
・( 0:12 ~) เมื่อชก ให้ดึงขาหน้าเล็กน้อยเพื่อสร้างท่างอไปข้างหน้าที่สวยงาม
・( 0:13 ~) จ่ายน้อยลงขณะหมุน ยิ่งหมุนเร็วเท่าไรก็ยิ่งดูดีขึ้นและคมชัดขึ้นเท่านั้น แต่ระวังอย่าให้เสียการทรงตัว
・( 0:19 ~) เมื่อเตะสองครั้ง ไหล่ของคุณมักจะสั่นเพื่อเพิ่มแรงผลักดัน แต่พยายามทำให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ จะดูดีขึ้นมากหากคุณหยุดการเคลื่อนไหวครู่หนึ่งหลังจากการเตะสองครั้ง
・( 0:21 ~) เมื่อทำท่ากาดันบาไร จุดศูนย์ถ่วงของเท้าแทบจะจดจ่ออยู่ที่เท้าหลัง ระวังอย่าส่ายหัวขึ้นหรือลงเมื่อเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงไปยังการเคลื่อนไหวครั้งถัดไป
・( 0:32 ~) การจ่ายที่ต่ำกว่าสามครั้งติดต่อกัน เสียการทรงตัวได้ง่ายเนื่องจากยังคงยืดขาหน้าและหยุดต่อไป คุณจะรู้สึกมั่นคงมากขึ้นหากทำเหมือนกับว่าคุณกำลังเตะพื้นเบาๆ แทนที่จะยื่นเท้าออกมา
・( 0:43 ~) เมื่อทำการสนับศอกสองครั้ง อย่าลืมกลับร่างกายให้มั่นคง และระวังอย่าให้เคลื่อนไหวน้อยเกินไป
・( 0:48 ~) ยืดหลังและอย่าให้สะโพกสูงเกินไป
・( 0:50 ~) กรอเดินหน้าและถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญแต่ต้องมีสติในการตัดสินใจในแต่ละการเคลื่อนไหวจนจบ
・( 1:00 น. ~) เมื่อหมุนตัว คุณสามารถใช้แรงยกขาเพื่อหมุนด้วยแรงที่เหมาะสม
・( 0:03 ~) ก้าวไปข้างหน้าพร้อมก้มตัวเมื่อก้าว พยายามอย่าขยับร่างกายส่วนบนจนกว่าเท้าหน้าจะแตะพื้น
・( 0:05 ~) สำหรับอูเกะ ให้ยกข้อศอกให้สูงเท่ากับกะตะ
・( 0:10 ~) ยกแขนขึ้นไปด้านข้างแล้วเปลี่ยนท่าเป็นอุเกะต่อหน้าคุณทันที ในเวลานี้อย่าลืมยกแขนไปด้านข้าง
・( 0:15 ~) ต่อยจากด้านหน้าเป็นชุด เมื่อคุณพร้อมแล้ว ให้หายใจเข้าแล้วเคลื่อนเข้าสู่การโจมตีต่อเนื่อง
・( 0:16 ~) จากด้านหน้า งอไปข้างหน้าไปด้านข้างแล้วทำอูเคะกลาง หันตัวไปทางด้านข้างแล้วสร้างรูปร่างอูเคะที่มั่นคง
・( 0:19 ~) อูเกะดาบมือยังคงดำเนินต่อไป การยกส้นเท้าหน้าขึ้นช่วยให้ก้าวไปสู่การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น
・( 0:26 ~) หากต้องการใช้ดาบเท้า ให้ยกเท้าขึ้นหนึ่งครั้งแล้วเตะ หากพุ่งตรงไปยังจุดปะทะจากจุดที่ตีลูก จะไม่สามารถออกแรงใดๆ ได้ และจะดูไม่ดีด้วย
・( 0:31 ~) ยกแขนทั้งสองขึ้น ลดระดับลงแล้วต่อย ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับงอลำตัวเล็กน้อย ในเวลานี้หากงอขาซ้ายเล็กน้อยก็จะดูคมขึ้น
・( 0:35 ~) หากคุณหยุดมือที่ยกขึ้นชั่วคราวขณะทำท่าบารีล่างที่ด้านหน้าท้อง จะทำให้คุณมีความเฉียบคมยิ่งขึ้น
・( 0:49 ~) แรงขับบนและตรงกลาง เลื่อนจุดศูนย์ถ่วงไปข้างหน้า แต่ระวังอย่าเพิ่มแรงผลักดันให้กับร่างกายเมื่อกลับมา
・( 0:51 ~) ถอยหลังและชนเวทีกลาง เช่นเดียวกับตอนเริ่มต้น พยายามอย่าขยับร่างกายส่วนบนให้มากที่สุดจนกว่าเท้าหน้าจะแตะลง ที่นี่ถ้าคุณมีความเร็วเท่ากับ Uke คุณจะเฉียบแหลม
・( 0:01 ~) ลดสะโพกลงเล็กน้อยแล้วทำดันบาริด้านหน้าตอนล่าง
・( 0:04 ~) ระวังอย่าเปลี่ยนความสูงของสะโพกเมื่อโน้มตัวไปข้างหน้า
・( 0:06 ~) ขณะทำท่าถอยหลัง ให้ยกเท้าหลังไปข้างหน้าแล้วก้าวถอยหลัง เมื่อคุณยกขาหลังมาที่ขาหน้า ให้ร่างกายอยู่นิ่งๆ สักครู่หนึ่ง
・( 0:08 ~) ก้มหน้าก้มหน้าขณะมองย้อนกลับไป เป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แต่ต้องระวังตำแหน่งเท้าของคุณเพื่อไม่ให้เสียการทรงตัว
・( 0:14 ~) หลังจากวางจุดศูนย์ถ่วงไว้ที่เท้าหลังจนสุดแล้ว ให้รักษาความเร็วให้คงที่จนกว่าเท้าซ้ายจะแตะพื้น
・( 0:17 ~) เมื่อทำท่าต่อเนื่องขณะยืนบนขาทั้งสี่ข้าง ร่างกายของคุณมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นลง ดังนั้นควรระวังอย่าเปลี่ยนตำแหน่งสะโพก
・( 0:19 ~) จ่าย แทง และรับ การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง อย่า ลืมหยุดการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซากจำเจ
・( 0:30 ~) ขยับมือออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและจับไว้ให้แน่น
・( 0:35 ~) การเคลื่อนที่ไปข้างหน้ายังคงดำเนินต่อไป โปรดใช้ความระมัดระวังเนื่องจากกระบวนการชำระเงินมีแนวโน้มที่จะดำเนินไป
・( 0:36 ~) หมุนหนึ่งครั้งขึ้นไปบนอากาศและรับดาบ ในเวลานี้ ให้ยกส้นเท้าหน้าขึ้นเล็กน้อย
・( 0:40 ~) การรับดาบมือช้า ใช้แรงกดบนปลายนิ้วของคุณและใส่ใจกับการแสดงออกทางสีหน้าของคุณ
・( 0:11 ~) ก้าวไปข้างหน้าทันทีและนำเท้าหลังมาชิดกับเท้าหน้า สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งแรก อย่าลืมรักษาสมดุลไว้
・( 0:13 ~) Chudan Uke ซีรีส์คู่ขณะมองย้อนกลับไปดำเนินต่อไปสองครั้ง อย่าลืมโน้มตัวไปข้างหน้าและหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนความสูงของสะโพก
・( 0:16 ~) นำเท้าหน้าเข้าใกล้ตีนผีมากขึ้น ในเวลานี้ ให้เลื่อนจุดศูนย์ถ่วงไปที่ขาหลังแล้วขยับขาหน้า หากคุณก้าวเท้าหน้าออกไป ร่างกายจะแกว่งไปมาและดูแย่
・( 0:23 ~) เมื่อคุณยื่นมือออกข้างหน้า ให้ถือไว้สูงระดับไหล่เพื่อไม่ให้บดบังสายตา
・( 0:26 ~) ใช้มือดันตีตรงกลางเวที ระวังอย่าให้การเคลื่อนไหวของ Uke เล็กเกินไปเพราะจะทำให้คุณดูอ่อนแอ
・( 0:36 ~) หายใจเข้าแล้วค่อยๆ มองดูอีกฝ่าย
・( 0:38 ~) เมื่อเตะต่ำ ลองจินตนาการถึงการเล็งไปที่เข่าของคู่ต่อสู้แล้วเตะอย่างแรง
・( 0:43 ~) เมื่อสร้างตำแหน่งโจดัน อูเกะด้วยมือทั้งสอง ระวังอย่าก้าวเท้าหน้าออกไปเหมือนเมื่อก่อน
・( 0:46 ~) ลองนึกภาพการโจมตีสีข้างของคู่ต่อสู้ด้วยมือทั้งสองข้างที่ยกขึ้น ตีให้กว้างจากด้านข้าง
・( 0:52 ~) เตะพื้นอย่างแรงด้วยเท้าหน้าพร้อมกับ Gedanbarai
・( 0:56 ~) ใช้เท้าหลังปัดมือซ้ายเป็นรูปมือดาบ อย่าลืมทาแขนลิงอย่างรวดเร็วหลังจากกวาดขาแล้ว
・( 1:05 ~) เมื่อคุณก้าวออกมา ให้ดึงเข่าเข้าหาตัวแล้วเคลื่อนไปข้างหน้า
・( 1:12 ~) Uke เคลื่อนไหวขณะมองย้อนกลับไปด้านหน้า พยายามรับลูกเตะโดยหมุนให้กว้างจากด้านบน โดยจินตนาการว่าคุณกำลังชดใช้ลูกเตะของคู่ต่อสู้
・( 1:14 ~) ในทำนองเดียวกัน ยกแขนขึ้นหนึ่งครั้งแล้วรับบอลครั้งใหญ่
・( 0:28 ~) ไขว้ดาบต่อหน้าคุณ
・( 0:33 ~) เดินไปข้างหน้าพร้อมดึงมือไปด้านหลังและรับลูกบอลโดยวางมือซ้อนกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถหมุนตัวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องลงน้ำหนักทั้งหมดไว้ที่เท้าหน้า
・( 0:35 ~) เอนร่างกายเข้าด้านในเล็กน้อย ในเวลานี้ ปล่อยให้จุดศูนย์ถ่วงของคุณตกลึกลงไป
・( 0:38 ~) ย้ายไปด้านหลังแล้วจ่ายเงิน เมื่อเลี้ยวจะเคลื่อนที่เร็วในช่วงแรกและเมื่อลดความเร็วลงตรงกลางก็สามารถชะลอความเร็วลงและดูสวยงามได้
・( 0:44 ~) เมื่อดึงแขนขา เข่าของขาเดือยจะไม่ยืดออก และความสูงของศีรษะไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ควรระวังด้วยเนื่องจากมือขวาของคุณเปิดอยู่
・( 0:45 ~) เมื่อทำท่าดาบเท้าและหมัดหลัง ให้ดึงเท้ากลับลงมาอย่างรวดเร็วโดยให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่เท้าหลัง
・( 0:48 ~) ดึงที่จับให้ลึกแล้วพลิกตัวครึ่งหนึ่ง วางมือหน้าไว้ตรงจุดที่คุณต้องการจะจิ้ม
・( 0:49 ~) ระวังอย่าสั่นไหล่เมื่อทำท่าต่อเนื่อง นอกจากนี้ โปรดทราบว่าการทำให้การดึงเร็วขึ้น ความเร็วโดยรวมของแรงขับก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
・( 0:52 ~) มือรับดาบไปด้านหน้า เมื่อใช้ที่วางดาบมือ คุณจะดูสวยงามยิ่งขึ้นโดยการหมุนมือก่อนที่จะหยุด นอกจากนี้ เมื่อก้าวไปข้างหน้า ควรระมัดระวังในการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงเพื่อไม่ให้ร่างกายแกว่งไปมา
・( 0:58 ~) เอนศีรษะไปข้างหน้าเล็กน้อย และในขณะที่คุณเหยียดแขนไปข้างหน้า ค่อยๆ ยืดหลังและเงยหน้าขึ้น
・( 1:03 ~) อย่าลืมหยุดเตะลูกล่างแล้วดึงมือให้แน่น
・( 1:05 ~) เมื่อเตะพื้นอย่างแรง ให้ชกด้านหน้า ให้ตรงกับช่วงเวลานี้
・( 1:16 ~) หันมือของคุณให้กว้างจากด้านข้าง ค่อยๆ ยืดขาของคุณแล้วดึงไปทางเท้าหลักของคุณ การเคลื่อนไหวนี้สามารถทำได้โดยการวางจุดศูนย์ถ่วงไว้ด้านหลังคุณจนสุด
・( 0:10 ~) เมื่อคุณยกมือขึ้น เมื่ออยู่ในระดับสายตาแล้วให้มองตามนั้นแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
・( 0:13 ~) หยุดมือของคุณที่ด้านบน จากนั้นเปิดออกอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันก็หันกลับมามองด้านหน้าอีกครั้ง
・( 0:17 ~) ตัวรับดาบซ้ายและขวา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ออกแรงกดไปจนถึงปลายนิ้วของคุณ รวมถึงดาบมือที่อยู่ตรงหน้าท้องของคุณด้วย
・( 0:19 ~) เมื่อคุณยื่นมือออกข้างหน้า ให้ดึงที่จับให้แน่นแล้วยืดหลัง
・( 0:21 ~) Tsuke/Uke ขณะโน้มตัวไปข้างหน้าไปทางซ้ายและขวา เมื่อรับ Chudan Uke ต้องงอข้อศอกให้แน่นเพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวเล็กเกินไป
・( 0:23 ~) เมื่อคุณหันหลังกลับ ให้นำมือขวาที่คุณดึงกลับไปทางซ้ายก่อนที่จะแทง
・( 0:25 ~) ตัวรับดาบสามมือติดต่อกัน โดยการเพิ่มความเร็วในการดึง
・( 0:27 ~) เมื่อชกด้วยดาบ ให้ยกข้อศอกขึ้นให้แน่นเพื่อให้มือซ้ายขนานกับพื้น
・( 0:29 ~) หลังจากการเตะ การชำระเงินด่านล่าง&การรับด่านบน ในเวลานี้หากหยุดการเคลื่อนไหวหนึ่งครั้งก็จะดูคมชัดขึ้น
・( 0:32 ~) ระมัดระวังในการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงเพื่อไม่ให้ร่างกายของคุณเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือข้างหลังเมื่อคุณยกขาจากการงอไปข้างหน้า
・( 0:36 ~) เช่นเดียวกับเมื่อก่อน ระวังการหยุดการเคลื่อนไหวหลังจากการเตะ
・( 0:41 ~) เตะขณะทำแบ็คฟิสต์ นำมือที่จะออกหมัดหลังไปฝั่งตรงข้าม นอกจากนี้ ระวังอย่าให้ร่างกายของคุณล้มลงมากเกินไป เนื่องจากร่างกายของคุณมีแนวโน้มที่จะล้มลงเมื่อคุณเตะ
・( 0:44 ~) มือรับดาบทุกทิศทาง มองดูอีกฝ่ายแล้วขยับใบหน้าก่อน จากนั้นจึงขยับร่างกาย
・( 0:49 ~) หมัดหลังหลังเตะ ระวังการหยุดการเคลื่อนไหวในขณะที่ให้ความสนใจกับความสมดุลของคุณในขณะที่คุณนำเท้าหลังเข้ามาใกล้กับเท้าหน้ามากขึ้น มันดูไม่เหมือนการเคลื่อนไหวแบบไหลอีกต่อไป
・( 0:52 ~) การกระทำของการสัมผัสพื้น ให้สายตาของคุณตรงไปข้างหน้า ไม่ใช่ที่พื้น
・( 1:03 ~) หมุนรอบขาหน้า ไม่เป็นไรถ้าความเร็วในการหมุนไม่เร็ว แต่มาเพิ่มความเร็วด้วยการเร่งความเร็วในการเคลื่อนไหวครั้งแล้วครั้งเล่า
・( 1:16 ~) เมื่อเตะสองครั้ง ระวังอย่าเหวี่ยงไหล่ (ตัว) ไปทางซ้ายหรือขวามากเกินไป
・( 0:05 ~) ค่อยๆ ขยับขาไปข้างหน้าในลักษณะพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ขณะโน้มตัวไปข้างหน้า ให้ยื่นมือรับออกไปด้านนอกแล้วดันหน้าอกออก
・( 0:14 ~) เกียคุบุตสึ อย่าหมุนหมัดของคุณจนกว่าหมัดจะไปข้างหน้าจนสุด
(พฤติกรรมเดิมจะดำเนินต่อไป ข้อควรระวังจะเหมือนเดิม)
・( 0:55 ~) กำหมัดโดยให้ข้อที่สองของนิ้วชี้หันไปข้างหน้า ยกไปที่หน้าอก แล้วยกไปข้างหน้า
・( 1:02 ~) เปลี่ยนมือเป็นดาบ ออกแรงกดบนปลายนิ้วของคุณแล้วยืดออก
・( 1:03 ~) หมุนมือให้กว้างแล้วนำไปไว้ข้างใบหน้า ในเวลานี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไหล่และข้อศอกของคุณอยู่ในระดับความสูงเดียวกันและดันหน้าอกออก
・( 1:06 ~) ประสานมือของคุณไว้ข้างหน้าร่างกายแล้วยกให้สูงเท่ากับบาริชั้นล่าง ระวังอย่าขยับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายยกเว้นมือในเวลานี้
・( 1:10 ~) หมุนเท้าหน้าของคุณครึ่งหนึ่ง หมุนในขณะที่รักษาหลังให้ตรงเพื่อไม่ให้จุดศูนย์ถ่วงไม่ขยับ
・( 1:12 ~) เมื่อได้รับการโจมตี ให้พยายามรับมันผ่านทางด้านหน้าของร่างกาย เพื่อที่จะรับการโจมตีจากด้านหน้าได้ นำมือของคุณไว้ข้างหน้าลำตัวขณะดึงออก ระวังอย่าให้ร่างกายสั่น
(การเคลื่อนไหวแบบเดียวกันจะดำเนินต่อไป ระวังอย่าขยับขาไปข้างหน้าเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และหลีกเลี่ยงการขยับศีรษะขึ้นลง)
・( 1:16 ~) Chudan uke และโจมตีต่อเนื่องไปทางด้านข้าง ระดับความสมบูรณ์จะสูงขึ้นโดยการจับตัวดึงไว้อย่างแน่นหนาที่ด้านข้างของร่างกายในระหว่างการผลักติดต่อกัน
・( 1:17 ~) ถอยหลังและทำท่าเดิม แต่จะคมชัดกว่าถ้าคุณหยุดท่ารับและผลักอย่างมั่นคง
・( 1:20 ~) ค่อยๆ ยกขาหลังและมือจับไปข้างหน้าแล้วหมุนตัว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ออกแรงกดบนตีนผีของคุณเพื่อไม่ให้ความสูงของร่างกายเปลี่ยนแปลง
・( 1:25 ~) เมื่อเตะ ให้จับตามองตรงหน้าให้มั่นคงโดยไม่ละสายตา
・( 1:26 ~) อย่าลืมหยุดแรงผลักเมื่อมันพุ่งไปข้างหน้า
・( 1:41 ~) ระวังการดึงเท้าอย่างรวดเร็วหลังจากวางเท้าไว้บนมือหน้า หากดึงช้าก็จะดูไม่เป็นระเบียบ
・( 0:20 ~) เมื่อก้าวเท้าไปข้างหน้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ขยับเท้าเข้ามาใกล้เท้าหลักมากขึ้นก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า เอามือออกตรงหน้าหน้าผาก
・( 0:25 ~) ขยับสายตาก่อนถ่ายภาพกิจกรรมต่อไป ยกเท้าไปข้างหน้า และเมื่อมันถึงพื้นแล้วให้ยกมือไปข้างหน้า
・( 0:38 ~) รักษาร่างกายให้อยู่กึ่งกลางและจุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่ขาหน้า
・( 0:43 ~) การเคลื่อนไหวแบบกระตุก เตะ และกระตุกอย่างต่อเนื่อง ระวังดึงที่จับให้แน่น แทงทันทีที่เท้าของคุณแตะพื้นหลังจากการเตะ ทำให้เกิดความสามัคคีและความเฉียบคมในการเคลื่อนไหว
・( 0:52 ~) อย่าลืมหยุดวางข้อศอกบนคางแม้จะเพียงครู่เดียวก็ตาม
・( 1:03 ~) การแทงด้วยการงอดาบเพียงปลายนิ้ว ดึงมันไปที่ด้านข้างของใบหน้าของคุณ
・( 1:19 ~) เมื่อคุณยกขาขึ้น ให้รักษาจุดศูนย์ถ่วงไว้ข้างหน้าคุณ
・( 1:37 ~) ดาบมือล่างขณะคว่ำ แทนที่จะหมุนให้กว้างแล้วตี ให้ดึงแรงผลักไปด้านข้างลำตัวแทน
・( 1:41 ~) ยื่น uke กลางไปข้างหน้าต่อหน้าคุณ
・( 1:51 ~) ใช้ปลายนิ้วทั้งห้าแตะแถวล่าง จากนั้นตีอีกครั้งจากล่างขึ้นบน (แถวกลาง)
・( 2:09 ~) เตะพื้นอย่างแรงด้วยเท้าของคุณแล้วแทงดาบไปพร้อม ๆ กัน
・( 2:23 ~) ดันขณะก้าวไปข้างหน้า นี่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นลง ดังนั้นอย่าลืมย่อสะโพกลง
・( 2:29 ~) ชกหมัดตรงไปทางด้านหลัง โน้มตัวไปข้างหน้า แต่ระวังการลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หากล่าช้าการดำเนินการต่อไปจะล่าช้าและการไหลโดยรวมจะดูไม่ดี
・( 2:32 ~) วาดขอบเล็กๆ สำหรับเท้าหลังผ่านด้านหน้าของตีนผี นอกจากนี้ ให้หันลำตัวออกด้านนอกเล็กน้อย
・( 0:19 ~) เมื่อขยับเท้าไปข้างหน้า ให้ขยับเท้าเข้าใกล้เท้าหลักมากขึ้นก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า
・( 0:24 ~) Chudan Uke ด้วยมือทั้งสองข้าง ในตอนแรก ให้หันหลังหมัดไปข้างหน้า จากนั้นค่อยๆ หันหลังเท้าเข้าด้านใน
・( 0:34 ~) ขยับสายตาก่อนถ่ายภาพกิจกรรมต่อไป ยกเท้าไปข้างหน้า และเมื่อมันถึงพื้นแล้วให้ยกมือไปข้างหน้า
・( 0:43 ~) แผ่นลิงจากด้านล่าง ข้อศอกของคุณมีแนวโน้มที่จะซ่อนสายตาของคุณ แต่ให้ตาข้างหนึ่งอยู่ตรงหน้าคุณให้มั่นคง
・( 0:56 ~) หลังจากก้าวแล้ว ให้กลับทิศทางของดาบมือต่อเนื่องกัน และทำอูเกะระดับต่ำ การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วดำเนินต่อไป ก่อนที่จะถึงด้านล่าง ให้ยกมือขึ้นในแนวทแยงต่อหน้าคุณแล้วลองจับจากด้านบน
・( 0:58 ~) เมื่อก้าวเท้าไปข้างหน้า ระวังอย่าขยับศีรษะไปมาหรือขึ้นลง โดยให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่เท้าหน้า
・( 1:01 ~) ในขณะเดียวกันก็ลดเท้าลง ให้ดึงมือกลับแล้วรีบกวาดออกไป ในการกระทำนี้ หากดึงเร็ว ความคมจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
・( 1:12 ~) หากการเคลื่อนไหวหยุดหลังจากการแทงด้วยดาบมือ มันจะดูไม่เหมือนการเคลื่อนไหวที่ไหลลื่น
・( 1:15 ~) เมื่อก้าวไปข้างหน้า ให้ขยับเท้าเป็นครึ่งวงกลม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าอกของคุณอยู่ในตำแหน่งครึ่งอก
・( 1:18 ~) มือโจมตีบนเวทีด้านบน แทนที่จะเลี้ยวแล้วขับรถ ให้พยายามดันไปข้างหน้า
・( 1:25 ~) ระวังการทรงตัวเมื่อยกขาหลังเข้าใกล้ขาหน้ามากขึ้น ในเวลานี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้หยุดการเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงโดยจ่ายเงินหลังจากการเคลื่อนไหว เมื่อหยุดที่นี่ คุณจะสามารถสร้างการเคลื่อนไหวที่เหนียวแน่นได้
・( 1:51 ~) ดึงขาของคุณไปด้านหลังแล้วทำท่ายืนสี่ขา ต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้ยืนครึ่งขาทั้งสี่ข้างก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า
・( 1:57 ~) หมัดตรงโจมตีไปทางด้านหลัง โน้มตัวไปข้างหน้า แต่ระวังการลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หากล่าช้าการดำเนินการต่อไปจะล่าช้าและการไหลโดยรวมจะดูไม่ดี
・( 0:34 ~) วางดาบไว้ข้างหน้าคุณแล้วหย่อนลงด้านล่าง ในเวลานี้ให้ยกมือซ้ายขึ้น
・( 0:38 ~) เปลี่ยนมือที่ลดลงให้เป็นหมัดปกติโดยสลับขึ้นและลง และยกให้ขนานกับท้อง งอเข่าเล็กน้อย
・( ตั้งแต่ 00:40 น. ) ชำระเงินที่ด้านหน้าน้อยลง รักษาน้ำหนักส่วนใหญ่ไว้ที่ขาหลัง หันร่างกายของคุณออกไปด้านนอกเล็กน้อย
・( 0:42 ~) หมุนตัว90 องศา แล้วเต้นเบาๆ หมุนโดยการแกว่งตัวและขาของคุณ ในเวลานี้ระวังอย่าขยับศีรษะไปข้างหน้า ถอยหลัง ซ้าย ขวา หรือขึ้นและลง
・( 0:48 ~) วางหมัดหลังบนดาบและวางเท้าบนตีนผี เมื่อถึงจุดนี้ให้หยุดร่างกายของคุณ หากคุณออกแรงผลักพร้อมกับลดเท้าลง รูปร่างก็จะเข้ากัน
・( 0:51 ~) การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของเกดันบาไร เทโตะอูเกะ และแรงผลักดัน จับมือของคุณไว้บนร่างกายให้แน่นแล้วเคลื่อนตัวไปหาอูเกะ หากไม่มีแรงดึงการเคลื่อนไหวก็จะน้อย
・( 0:56 ~) แรงผลักดันขณะยกเท้าหลังเข้ามาใกล้กับเท้าหน้า ขณะที่เพิ่มความเร็วในการยกเท้าเข้าหากัน ให้จับเวลาให้หยุด
・( 1:06 ~) ดาบมือไม่ใช่อูเกะ แต่เป็นอุจิโคมิ ดึงมันออกมาแล้วรีบนำไปข้างหน้า
・( 1:08 ~) เมื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ให้เคลื่อนที่เป็นครึ่งวงกลมโดยให้เท้าข้างหนึ่งชิดกัน
・( 1:14 ~) หมุนจากที่วางเวทีด้านบนแล้วใช้ที่วางดาบมือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้จบลงด้วยการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลโดยการหยุดยามดาบ นอกจากนี้ อย่าลืมรักษาสมดุลและหลีกเลี่ยงการขยับศีรษะขึ้นและลง
・( 1:20 ~) เหมือนในตอนแรก ให้ชูกำปั้นขนานกับท้อง เท้าของคุณจะอยู่ในระดับความสูงเดียวกับการเคลื่อนไหวครั้งก่อน ดังนั้นให้หลังตรงและศีรษะอยู่ในตำแหน่งเดิม
・( 0:13 ~) ก้าวไปข้างหน้าและทำ Chudan Uke พร้อมกันและประสานเท้าเข้าด้วยกัน ในเวลานี้ ให้ยกมือขึ้นที่ด้านหน้าแขนแทนแถวกลาง
・( 0:14 ~) ในขณะเดียวกันก็หันหลังกลับ ขึ้นเวทีกลาง สำหรับชูดัน อูเกะครั้งที่ 2 ให้ดึงเท้าหน้าเล็กน้อย
・( 0:16 ~) สึเกะ/อุเกะขณะมองย้อนกลับไป เช่นเดียวกับเมื่อก่อน ให้ดึงเท้าเล็กน้อยเมื่อถึงเวทีกลาง
・( 0:18 ~) หันตัวไปทางด้านข้างโดยยืนทั้งสี่ข้าง หันหน้าจากด้านหน้าไปด้านข้างพร้อมกับยืดขาจากการยืนทั้งสี่ข้าง
・( 0:22 ~) Ura-fist โจมตี uke ระดับกลาง ต้องแน่ใจว่าได้หยุดอย่างมั่นคงเมื่อทำการ backfist
・( 0:26 ~) ยืนโดยให้เท้ากว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อหันหน้าไปทางด้านหน้า
・( 0:28 ~) ชุดแรงผลักและการจับไปทางด้านหน้า ดูไม่ดีถ้าร่างกายหลวม อย่าลืมหันลำตัวไปข้างหน้าเมื่อผลัก และหันไปด้านข้างเมื่อ uke
・( 0:33 ~) นอนลงโดยให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ด้านหลัง หลีกเลี่ยงการโก่งหลังขณะก้าวไปข้างหน้า
・( 0:42 ~) ตีด้วยมือขวาแล้วก้าวเข้ามาด้วยเท้า ขณะกดลง ให้ดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว และจับเวลาเท้าและมือให้หยุดพร้อมกัน
・( 0:48 ~) ในขณะที่ลดมือที่ยกขึ้น ให้ทำการโจมตีและแทงต่างๆ งอเข่าเล็กน้อยขณะลดมือลง หลีกเลี่ยงการออกแรงผลักจนร่างกายล้มไปข้างหน้า
・( 0:54 ~) วางแผ่นเท้าบนมือที่แสดงปีศาจ แล้ววางแผ่นรูปลิงไว้ คุณสามารถสร้างร่างกายที่เหนียวแน่นได้โดยการจัดจังหวะเวลาลดขากับจังหวะลดแขน
・( 0:58 ~) แทงไปขั้นบนและล่าง ศีรษะของพวกเขามีแนวโน้มที่จะแกว่งไปมาเมื่อดึงขาหน้า ระวังอย่าแกว่งโดยใช้เท้าหน้าเพื่อเตะและเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วง
・( 1:12 ~) การฟาดฟันขณะรับลูกเตะล่างของคู่ต่อสู้ แทนที่จะขยับมือขึ้นลง ให้ขยับเป็นวงกลม โดยจินตนาการว่าคุณกำลังยกเท้าขึ้น
・( 0:08 ~) หมุนมือเป็นวงกลมข้างหน้าและรับดาบในระดับใบหน้า นำเท้าของคุณไปทางเท้าหน้าเมื่อคุณก้าวออกไป
・( 0:16 ~) หมุนไปด้านหลังแล้วเต้นเบาๆ ในเวลานี้โดยการย้ายจุดศูนย์ถ่วงไปที่เท้าหน้าแล้วหมุน รูปร่างจะสวยขึ้นเพราะไม่จำเป็นต้องใช้ร่างกายสร้างโมเมนตัม
・( 0:18 ~) ขยับมือไปข้างหน้าและขึ้นจากด้านหน้าท้อง ให้ฝ่ามือหน้าหงายขึ้น
・( 0:20 ~) เมื่อเปลี่ยนจากการยืนทั้งสี่เป็นงอไปข้างหน้า ให้นำเท้าหน้าไปด้านหลังโดยใช้เท้าเลื่อน
・( 0:21 ~) เตะหน้า แทง และแทงต่อเนื่อง หยุดแรงผลักดันแรกด้วยการโน้มตัวไปข้างหน้า ระวังการดึงเมื่อใช้แรงขับต่อเนื่องกัน
・( 0:23 ~) การดัดงอด้านล่างและการดัดบน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความสูงของไหล่และข้อศอกของคุณตรงกับที่ยึดด้านบน
・( 0:25 ~) เมื่อถือดาบ ให้หลังตรงและจุดศูนย์ถ่วงอยู่ที่เท้าหลัง
・( 0:27 ~) หันมือทั้งสองข้างไปข้างหน้าแล้วจับไว้ด้านนอกร่างกาย
・( 0:33 ~) การเคลื่อนไหวดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้หยุดการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งอย่างมั่นคง หากไม่มีการหยุดการเคลื่อนไหวจะไหลลื่นและความคมจะลดลง หยุดมันอีกหน่อยเมื่อเราพลิกมัน
・( 0:42 ~) ถือดาบในแนวทแยง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลังของคุณตรงและเป็นเส้นตรงจากสะโพกถึงหัว
・( 0:43 ~) ก้าวไปอีกขั้นของดาบ ระงับการเคลื่อนไหวของร่างกายจนกระทั่งเท้าก้าวอยู่ข้างหน้าคุณ มาทำท่าทาง Uke ในเวลาเดียวกันกับที่เท้าสัมผัสกัน
・( 0:15 ~) ยกมือขึ้นต่อหน้า โดยจัดให้มืออยู่ตรงกลางลำตัวและยกมือขึ้นเหนือตัวคุณ
・( 0:18 ~) เมื่อหมุนมือและลดมือลง ให้ขยับมืออย่างรวดเร็วที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด และช้าๆ ตรงกลาง
・( 0:22 ~) ทันทีที่คุณประสานมือต่อหน้าคุณ ดาบก็จะวางอยู่ทางซ้ายและขวา
・( 0:26 ~) เมื่อยืนอยู่ข้างหน้า ให้กางเท้าให้กว้างกว่าความกว้างของไหล่เล็กน้อย
・( 0:30 ~) เมื่อออกแรง พยายามให้สูงเท่ากับไหล่
・( 0:31 ~) สึกิและชูดัน อูเกะ ติดต่อกัน เมื่อได้รับแล้วให้ถือไว้ใกล้ตัวก่อนรับ จากนั้นหยุดที่ uke สุดท้าย
・( 0:36 ~) การรับดาบมืออย่างต่อเนื่องยังคงดำเนินต่อไป ระวังอย่าเปลี่ยนตำแหน่งศีรษะและหลังตรง
・( 0:40 ~) ฟาดดาบพร้อมมองย้อนกลับไป หมุนมือจากใต้เอวแล้วตีลูกบอล
・( 0:52 ~) ระวังอย่ายกศีรษะขึ้นหรือก้มลงเมื่อดึงเท้า หมุนไปทางซ้ายอย่างรวดเร็วขณะชักมือออก
・( 0:55 ~) เตะต่อยตี ขณะโน้มตัวไปข้างหน้า ให้เอามือปิดปากมีเสียง
・( 1:04 ~) ดาบมือรับสี่ทิศทาง ด้วยการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงอย่างรวดเร็วจากขาหลังไปที่ขาหน้า คุณสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งศีรษะ
・( 1:11 ~) เมื่อได้รับ Chudan Uke ครั้งที่สอง อย่าลืมถือไว้ใกล้ตัวเพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวเล็กเกินไป
・( 1:13 ~) เมื่อออกแรงซ้ำๆ ระวังอย่าให้มือเป็นแนวโค้งต่อหน้าคุณ
・( 1:22 ~) หมุน 270 องศาแล้วชกซ้ำๆ ระวังอย่าให้เสียการทรงตัว เพราะจะกลายเป็นแรงผลักดันทันทีหลังการหมุน
・( 1:30 ~) เมื่อทำดาบขนานกับพื้น ให้ขยับดาบอย่างรวดเร็วและราบรื่นพร้อมค่อยๆ ดึงดาบเข้าด้านใน
・( 1:38 ~) หันมือของคุณจากด้านบนแล้วค่อยๆ ลดมือลงจนถึงความสูงของแม่พิมพ์
・( 1:51 ~) เมื่อเตะสองครั้ง ให้พยายามลดการสั่นของกะตะ
・( 0:08 ~) เมื่อทำท่ารับ ให้หลังตรงและรักษาจุดศูนย์ถ่วงไว้ที่เท้าหลัง
・( 0:13 ~) เมื่อแทงและรับด้วยมือเดียวกัน การเคลื่อนไหวมักจะน้อยลง เมื่อดึงมันเข้ามาใกล้ร่างกายก่อนรับ คุณจะรู้สึกมีพลังมากขึ้น
・( 0:21 ~) หยุดได้สักทีหลังถูกเตะ หากมีการหยุดเคลื่อนไหวต่อเนื่องรูปลักษณ์ภายนอกจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
・( 0:22 ~) เมื่อออกแรงซ้ำๆ ระวังหลังให้ตรงและดึงอย่างรวดเร็ว
・( 0:23 ~) ลดสะโพกลงและทำตามขั้นตอนล่างและขั้นตอนบน ฉันจะหยุดที่นี่เช่นกัน เมื่อออกแรงต่อเนื่องขณะยกสะโพก ให้พยายามจับคู่จังหวะของขาที่เหยียดออกจนสุดกับจังหวะของแรงผลัก
・( 0:33 ~) เมื่อเลี้ยวซ้าย ให้วางจุดศูนย์ถ่วงไว้ที่ขาหลังแล้วเลี้ยวไปด้านข้าง วิธีนี้จะป้องกันไม่ให้ร่างกายของคุณสั่น
・( 0:43 ~) อูเกะโดยถอยหลังครึ่งก้าวแล้วหันกลับหนึ่งครั้ง การเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงเป็นสิ่งสำคัญมากที่นี่ คุณสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียการทรงตัวได้โดยการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงไปที่เท้าหลังอย่างรวดเร็ว ระวังตำแหน่งเท้าของคุณด้วย
・( 0:50 ~) ลองนึกภาพการปิดปากอย่างรวดเร็วหลังจากการเตะ เว้นจังหวะการเคลื่อนไหวโดยวางเข่าบนเข่าพร้อมกับลดขาเตะลง
・( 0:59 ~) นี่ไม่ใช่การบิน ดังนั้นหลังจากลดขาขวาลงแล้ว ให้ยืดขาซ้ายอย่างรวดเร็ว หากช้าไปก็จะดูไม่ดี
・( 1:05 ~) โปรดใช้ความระมัดระวังเนื่องจากถาดกลางหมุนด้วยแรงเหวี่ยง ซึ่งจะทำให้เสียการทรงตัวได้ง่าย
・( 0:09 ~) วางเท้าชิดกัน
・( 0:13 ~) เมื่อหมุน180° ให้หมุนโดยนำเท้าหลังเข้าใกล้ตีนผีมากขึ้น นอกจากนี้ การใช้มือที่จับไว้หน้าท้องเพื่อตอบโต้เบาๆ จะทำให้คุณสามารถหมุนตัวได้เร็วขึ้น
・( 0:15 ~) หมุนกลับแล้วคว้าชั้นบนและชั้นล่าง หลังจากทำขั้นตอนบนแล้ว ให้ดึงมือเข้าหาตัวแล้วทำขั้นตอนล่าง พักหายใจก่อนที่จะเตะสองครั้งถัดไป
・( 0:16 ~) เมื่อเตะสองครั้ง ให้หันตัวไปทางด้านหน้า ระวังอย่าสัมผัสด้านซ้ายและด้านขวา เนื่องจากร่างกายของคุณมีแนวโน้มที่จะแกว่งเพื่อให้ได้แรงผลักดัน
・( 0:18 ~) เมื่อเตะลูกต่ำ ควรจินตนาการว่าคุณกำลังชกจากด้านข้างเพื่อรับลูกเตะต่ำหากเกิดการเตะ
・( 0:19 ~) เมื่อตีขณะโน้มตัวไปข้างหน้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจังหวะเวลาที่คุณเหยียดขาและจังหวะที่คุณยื่นมือออก
・( 0:22 ~) การเคลื่อนไหวของมือทั้งสองข้างหันไปข้างหน้า หันมือกลางไปด้านหน้าหน้าอกเพื่อให้มือไขว้กัน ระวังอย่าเปิดรักแร้
・( 0:23 ~) หมุนไปด้านข้างและหยุดเบา ๆ เมื่อดาบมาถึงหน้าอกของคุณ จากนั้นหยุดอีกเล็กน้อยเมื่อคุณลดมือลงเพื่อสร้างการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องกัน
・( 0:25 ~) เมื่องอร่างกาย หากคุณลงน้ำหนักที่ขาหลังมากเกินไป การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปจะช้าลง
(เป็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ระวังอย่าให้ศีรษะเคลื่อนขึ้นหรือลงบนแท่นที่กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า คุณสามารถทำให้คมชัดยิ่งขึ้นโดยจังหวะการเคลื่อนไหวของ Uke พร้อมกับจังหวะที่เท้าที่ก้าวไปข้างหน้ากระทบพื้น)
・( 0:32 ~) ตีด้วยศอกทั้งสองข้าง การหยุดเมื่อคุณตีด้วยมือขวาจะดูไม่ลื่นไหล
・( 0:34 ~) เมื่อแสดง uke ขณะหมุนตัว พลังของ uke จะเพิ่มขึ้นโดยทำให้การเคลื่อนที่ของตัวหมุนเร็วขึ้น
・( 0:35 ~) เมื่อยืนด้วยขาข้างเดียว ให้ยืนช้าๆ และหยุดเมื่อขาเหยียดตรง หากมีการหยุดจะมองเห็นการเคลื่อนไหวต่อเนื่องถัดไป
・( 0:43 ~) ถือดาบพร้อมมองย้อนกลับไป ทำท่า uke โดยให้หลังตรงและหันลำตัวไปข้างหน้า
・( 0:45 ~) เมื่อหมุน ให้ใช้แรงยกขาหลังขึ้นเพื่อหมุน หากคุณใช้ปฏิกิริยาของร่างกาย ไหล่ของคุณจะหันก่อนซึ่งดูไม่ดี
・( 0:14 ~) ยกเท้าขวาเข้ามาใกล้เท้าซ้ายแล้วขยับเป็นท่าสี่ขา
・( 0:16 ~) เปิดแขนแล้วยกขึ้นที่ด้านหน้าหน้าอกราวกับตักขึ้นมาจากใต้ลำตัว เพิ่มจังหวะด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วยกเว้นด้านหน้าหน้าอก
・( 0:23 ~) ระวังอย่าขยับขณะยืนทั้งสี่ขา
・( 0:27 ~) เมื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ให้วางจุดศูนย์ถ่วงไว้ที่ขาหน้า จากนั้นให้ขาหลังเข้าใกล้ขาหน้ามากขึ้น จากนั้นจึงก้าวออกไป ในเวลานี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าศีรษะของคุณไม่ขยับขึ้นหรือลง
・( 0:53 ~) เมื่อคุณดึงขาไปข้างหลัง ให้เตะพื้นด้วยขาหน้าแล้วยกขาเข้าหากัน ในเวลานี้ ให้หลังตรงและหลีกเลี่ยงการสั่นเพื่อให้ดูดีขึ้น
・( 0:56 ~) แรงขับขณะลง โดยทำท่าพระจันทร์พร้อมกับเท้าแตะพื้นก็จะมาบรรจบกัน นอกจากนี้อย่าเปิดรักแร้ขณะพักข้อศอก
・( 0:58 ~) ตัวรับกลางเวทีไปด้านข้าง อย่าลืมหันเท้าเข้าด้านใน ระวังอย่าเปิดร่างกายของคุณเข้าด้านในในเวลานี้
・( 1:02 ~) อย่าลืมประสานเท้าล่างของคุณให้ตรงกับจังหวะที่เท้าแตะพื้น นอกจากนี้ระวังอย่าให้ร่างกายขยับขึ้นลงขณะเดินลง
・( 1:20 ~) อุจิโคมิขณะก้าว+กำปั้นหลัง การเคลื่อนไหวมีแนวโน้มที่จะเล็กน้อย ดังนั้นโปรดระวังว่าเป็นการโจมตี
・( 1:28 ~) Chudan Uke, ชิโมดันเพย์ นี่เป็นการเคลื่อนไหวด้วยมือข้างเดียวกันด้วย ดังนั้นอย่าลืมดึงให้แน่นเพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวเล็กเกินไป
・( 1:50 ~) สึเกะ + อูเกะ ขณะเดินครึ่งก้าว คุณสามารถปรับปรุงความแข็งแกร่งและทัศนวิสัยของ uke ได้โดยการนำมือที่ยื่นเข้ามาใกล้ร่างกายแล้วดึงกลับ
・( 0:12 ~) ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าแล้วทำ Chudan Uke ตรวจสอบให้แน่ใจว่านิ้วเท้าทั้งสองข้างชี้ไปข้างหน้า
・( 0:15 ~) แบมือของคุณจากตรงกลางแล้วยกมือขึ้นในท่า ลองย้ายจุดศูนย์ถ่วงไปทางด้านหลังกัน
・( 0:22 ~) อย่าลืมดึงอย่างแน่นหนาเมื่อออกแรงดึงต่อเนื่อง คุณจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหลังจากการเตะ แต่การหยุดระหว่างการดึงจะทำให้การเคลื่อนไหวไม่ไหล
・( 0:30 ~) อย่าลืมกระชับรักแร้ให้แน่นเพื่อไม่ให้เปิดออก
・( 0:32 ~) หมุน180 องศา แล้วจ่ายส่วนล่าง การหมุนสามารถทำได้สวยงามยิ่งขึ้นโดยการดึงเร็วขึ้นเมื่อขยับเท้า หยุดพักโดยหยุดให้มั่นคงเมื่อก้าวต่ำลง
・( 0:37 ~) ก้าวจากการแทงดาบด้วยมือ หลังจากก้าวเข้ามาแล้ว ให้ยกส้นเท้าหน้าขึ้น ในเวลานี้ ให้เหยียดหลังและรักษาจุดศูนย์ถ่วงไว้ข้างหลัง
・( 0:47 ~) หมุน270° และรับที่ยึดด้านล่าง เมื่อหมุน ให้ลดจุดศูนย์ถ่วงลงเพื่อให้คุณยืนบนทั้งสี่ด้าน
・( 0:49 ~) ระวังอย่าขยับศีรษะขึ้นหรือลงเมื่อสับไปข้างหน้า
・( 0:54 ~) จ่ายส่วนล่างนานหน่อยเถอะ เรามาสรุปความเคลื่อนไหวจนถึงจุดนี้กันดีกว่า
・( 1:01 ~) เมื่อใช้ดาบมือ แทนที่จะหมุนดาบแล้วแทงเข้าไป ให้พยายามดึงดาบออกมาตรงๆ จากบริเวณใกล้คอของคุณ
・( 1:08 ~) แรงผลักดันจากการเตะ อย่าขยับมือที่คุณใช้รับลูกเตะ แต่ให้รีบดึงกลับทันทีที่เท้าลง
(การเคลื่อนไหวที่คุณทำจนถึงตอนนี้เป็นการเคลื่อนไหวซ้ำๆโปรดใช้ความระมัดระวังในการหยุดการเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง )
・( 1:32 ~) เมื่อทำท่า Low Thrust ให้โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย และทำ Side thrust ในลักษณะเดียวกัน ยกร่างกายขึ้นช้าๆ และกดหน้าอกให้แน่น
・( 1:35 ~) เมื่อทำการตีข้อศอก ให้หันลำตัวให้มั่นคงโดยให้ข้อศอกอยู่ข้างหน้า
・( 0:20 ~) ลดสะโพกลงเล็กน้อยแล้วทำ Chudan Uke ด้วยมือทั้งสองข้าง กระชับรักแร้ของคุณเล็กน้อยเพื่อรับมันออกไปด้านนอก
・( 0:25 ~) หากคุณแค่คืนมือเมื่อทำ Chudan Uke การเคลื่อนไหวจะน้อยลง หลังจากออกแรงแล้ว ให้ดึงมือไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนที่จะรับการโจมตี
・( 0:35 ~) การเคลื่อนไหวของมือจะรวดเร็ว ดังนั้นโปรดรออีกสักหน่อยก่อนที่จะไปยังการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ระวังอย่าให้ไหลโดยหยุด การเคลื่อนไหว ของมือแต่ละข้างทีละคน
・( 0:37 ~) เมื่อก้าวลง ควรเลื่อนขาหลัง ปรับจังหวะของที่วางดาบมือล่างให้ตรงกับเท้าของคุณแตะพื้น
・( 0:43 ~) การเตะลูกล่างหยุดชั่วขณะ ณ ตำแหน่งที่ถูกเตะ ใช้แรงผลักดันในการดึงขาเพื่อหมุนลำตัว
・( 0:51 ~) การโจมตีลดลงจากการแทงต่อเนื่อง เมื่อออกแรงดึงอย่างต่อเนื่อง ควรระวังความเร็วและความแม่นยำในการดึงของคุณ เกดันบาไรจะดำเนินการ โดยใช้มือดัน ดังนั้นอย่าลืมนำมันมาไว้ใกล้ตัวก่อนที่จะจ่าย หากคุณไม่ดึงกลับ การเคลื่อนไหวจะเป็นเพียงมือของคุณและมันจะดูเหมือนเป็นการตีเล็กน้อยและอ่อนแรง
・( 0:53 ~) หมุน180°หลังเตะล่าง หยุดเตะต่ำเมื่อคุณเตะมัน ใช้แรงดึงหลังเตะเพื่อหมุนตัวครึ่งรอบ และใช้แรงผลักดันในการหย่อนเท้าลงและหมุนตัวเพื่อหมุนอีกครึ่งรอบ หากคุณพยายามใช้เฉพาะโมเมนตัมของร่างกาย ร่างกายจะหันไปก่อนซึ่งจะดูไม่ดี
・( 1:10 ~) Chudan แทงจากการเตะ Chudan ผลักในเวลาเดียวกันกับที่เท้าเตะกระแทกพื้น จะสร้างโครงสร้างที่เหนียวแน่น
・( 1:13 ~) เมื่อคุณถอยหลังครึ่งก้าว ให้ค่อยๆ เคลื่อนจุดศูนย์ถ่วงไปข้างหลัง หากคุณเคลื่อนที่เร็วหรือช้าเกินไป หลังของคุณจะโค้งและศีรษะจะสั่น
・( ตั้งแต่ 0:00 น. ) ยืนอย่างมั่นคงในท่าไขว่ห้างโดยกางขาออกแล้วเหยียดปลายนิ้วออก
・( 0:13 ~) ยกมือซ้ายขึ้นแล้วประสานมือไว้ด้านหน้าโอบิ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันไม่ได้อยู่ใกล้ร่างกายของคุณมากเกินไป
・( 0:16 ~) ขยับไปด้านข้างของร่างกายพร้อมกำหมัดแน่น ให้เท้าของคุณขนานกันเพื่อที่คุณจะได้ไปยังซันเซ็นทาจิถัดไปได้
・( 0:19 ~) ระวังอย่าให้รักแร้ว่างเปล่า
・( 0:27 ~) มาดันแรงขับตรงไปข้างหน้าจากจุดที่ถูกดึงกันดีกว่า
・( 0:31 ~) อย่าลืมหมุนขาหน้าให้มั่นคงเมื่อก้าวไปข้างหน้า
・( 0:32 ~) ขยับขาไปข้างหน้าโดยวาดครึ่งวงกลม
・( 0:56 ~) เมื่อขยับเท้า ให้พิจารณาความกว้างของเท้าด้านหลังเมื่อโน้มตัวไปข้างหน้า ระวังอย่าเสียจุดยืนสามเกมของคุณ
(การเคลื่อนไหวจะทำซ้ำต่อไป แต่อย่าผ่อนคลายและกำหมัดให้แน่น)
・( 1:52 ~) เมื่อลดมือลง ให้ออกแรงกดที่ปลายนิ้วแล้วยืดออกให้มั่นคง
・( 1:57 ~) ดึงที่จับให้สูงเพื่อป้องกันด้านข้างของคุณ
・( 2:14 ~) เมื่อดึงเท้า ให้วาดครึ่งวงกลมขณะดึงเท้า
・( 2:17 ~) ระวังอย่าให้ข้อศอกของแขนทั้งสองข้างเปิดออกด้านนอก
・( 2:26 ~) ขณะอยู่ในซันเซ็นดาชิ ให้ประสานมือกันต่อหน้าคุณแล้วกลับไปที่น็อตดาชิ
・( 0:21 ~) ลดจุดศูนย์ถ่วงลงเล็กน้อยแล้วยกเท้าขวาเข้าใกล้เท้าซ้ายมากขึ้นขณะก้าวไปข้างหน้า เมื่อแสดงชูดันอูเกะด้วยมือทั้งสองข้าง ให้กระชับด้านข้างเล็กน้อยแล้วใช้อูเกะด้านนอก
・( 0:27 ~) เมื่อทำอูเกะตรงกลางหลังสึกิ ให้ดึงอูเคะที่มือขวาเข้าหาตัวเพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวเล็กเกินไป
・( 0:41 ~) เมื่อแบมือไปทางซ้ายและขวา ย่อลำตัวเล็กน้อย จากนั้นยืดตัวและเปิดหลัง
・( 0:46 ~) ขยับเท้าไปข้างหน้าในลักษณะครึ่งวงกลม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจังหวะที่เท้าหน้าแตะพื้นตรงกับจังหวะการดึงมือ
・( 0:51 ~) คุณสามารถเพิ่มความเร็วของอูเกะได้ด้วยการบิดตัวเล็กน้อยและแสดงชูดันอูเกะ
・( 0:55 ~) เมื่อหมุนร่างกาย180 องศาให้ขยับเท้าแล้วมองย้อนกลับไป หากหันกายไปรอบ ๆ คุณจะไม่สามารถคมได้
・( 1:04 ~) เมื่อหมุน90 องศา ให้หมุนขาหลังแล้วนำมารวมกันในเวลาเดียวกัน ถ้าปล่อยไว้แบบนั้นก็จะไม่สามารถยืนได้อย่างเหมาะสม
・( 1:15 ~) เช่นเคย โปรดระวังการขยับเท้าก่อนเมื่อหมุน
・( 1:27 ~) Uke เคลื่อนไหวพร้อมถอยหลังครึ่งก้าว เริ่มต้นด้วยการวางน้ำหนักไว้ที่เท้าหน้า จากนั้นจึงถ่ายน้ำหนักไปที่เท้าหลังขณะที่คุณก้าวถอยหลัง ระวังเพราะถ้าจุดศูนย์ถ่วงของคุณเปลี่ยน ร่างกายของคุณจะกลายเป็นแนวทแยง
・( 1:35 ~) เมื่อหมุนไปทางขวา ให้หมุนมือประมาณ45 องศาแล้วเคลื่อนที่ต่อไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่ดูเหมือนเคลื่อนไหวลื่นไหล
・( 1:42 ~) แรงผลักดันขณะมองย้อนกลับไป อย่าลืมตัดสินใจเลือกความกว้างของสะพานอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เสียการทรงตัว การเคลื่อนไหวแบบเดียวกันจะดำเนินต่อไปหลายครั้ง ดังนั้นควรระวังในการหยุดการเคลื่อนไหวและทำอย่างรวดเร็ว
・( 1:50 ~) ถือดาบในท่าสี่ขาโดยดึงขาไปด้านหลัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตรงกับจังหวะเวลาที่คุณดึงขาจนสิ้นสุดการรับ
・( 1:54 ~) เมื่อเดินไปข้างหน้าโดยยืนทั้งสี่ขา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าศีรษะไม่ขยับขึ้นหรือลง หลังจากนี้คุณจะต้องยืนด้วยขาทั้งสี่ข้างต่อไป ดังนั้น ควรระมัดระวังในการยืน
・( 2:37 ~) อูเคะกลางคนสุดท้าย นี่เป็นส่วนที่ชี้ขาด ดังนั้นโปรดใช้เวลาของคุณ
・( 2:58 ~) เตะสองครั้งโดยหมุนหนึ่งครั้ง นี่ก็เป็นจุดเด่นของกะตะนี้เช่นกัน ดังนั้นควรคำนึงถึงการทรงตัว ส่วนสูง และความเร็ว และหยุดอย่างมั่นคงโดยอูเกะในท่าสี่ขา
・(0:03~) อย่าลืมยืดดาบจนสุดปลายนิ้ว
・(0:07~) อย่าลืมเหยียดเข่าของขาหลังออกจนสุด
・(0:15~) การเคลื่อนไหวช้าๆ อาจเป็นเรื่องยาก แต่ระวังอย่าเปลี่ยนความสูงของศีรษะ
・(0:25~) นี่คือจุดพักสำหรับการเคลื่อนไหวสาม + วิญญาณ (เสียง) ที่ตามมา ดังนั้นมาควบคุมการหายใจกันเถอะ
・(0:28~) ใช้เวลาสักครู่โดยวางมือลงประมาณ 1-2 วินาที
・(0:30~) เสน่ห์ประเภทนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้หยุดการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งอย่างมั่นคงในการเคลื่อนไหวสามครั้ง (หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล!)
・(0:33~) แม้ว่าความสูงจะมีความสำคัญในการเตะ แต่ควรระวังอย่างอเข่าหรือสูญเสียกำลัง
・(0:37~) หลังจากหันศีรษะแล้ว ให้ไปยังขั้นตอนถัดไป (ขณะกำลังหมุนตัวอยู่✖️)
・(0:42~) เมื่อใช้แขนลิง ต้องยืนทั้งสี่ข้าง
・(0:43~) อย่าวางเท้าล่างไว้ใกล้เท้าหน้ามากเกินไป หลังตรง และหลีกเลี่ยงการโค้งงอ
・(0:46~) วิญญาณที่สอง (เสียง) นี่คือจุดอุทธรณ์ของคุณ ดังนั้นอย่าลืมหยุดการเคลื่อนไหวอย่างแน่นหนา
・(0:51~) การก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นจุดที่ความสูงของศีรษะมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเหยียดเข่า
・(0:54~) การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของการเตะ การกวาด การแทง การรับ หลีกเลี่ยงการงอขาหลังเมื่อผลัก
・(0:57~) เหมือนในตอนแรก อย่าลืมยืดดาบไปที่ปลายนิ้ว ตอนจบมันยาก แต่ต้องยืนด้วยขาทั้งสี่ข้าง!
・(1:02~) ค่อยๆ กลับไปสู่ท่าธรรมชาติและรักษาท่าตามธรรมชาติไว้เป็นเวลา 3 วินาทีหลังจากท่ากะตะสิ้นสุดลง
ขณะที่ทรุดตัวลงที่มุมหน้าด้านหน้าหรือขวา (ซ้าย) ให้ก้าวเข้าไปในอกของ Uke โดยเคลื่อนไปข้างหน้า หรือดึง Uke ออกมาโดยถอยหลัง จมร่างกาย แล้วใช้แขนขวา (ซ้าย) ซึ่งก็คือมือตกปลาของคุณ เพื่อก้าวเข้าไปในกระเป๋าของ Uke เทคนิคในการคว้าหรือจับไหล่ขวาของ Uke ให้เข้าที่ จากนั้นร่างกายของ Uke จะถูกยกขึ้นไปบนหลังของเขาจากนั้นเขาก็ถูกดึง ด้วย มือที่ดึงแล้วโยนไปทางมือดึง โดยทั่วไป ด้ามจับจะยึดไว้รอบต้นแขน ของอูเกะ หากคุณคว้าปลอกหน้าและใช้สปริงที่หัวเข่า คุณสามารถเหวี่ยงมันได้ด้วยมือเดียว (แขนข้างเดียว) หากคุณทำท่าได้ถูกต้อง
หากคุณไม่สามารถจับไหล่ข้างเดียวได้ โปรดติดต่ออุจิมากิโมริ
ใน นิตยสาร `` Modern Judo '' ชื่อ `` ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคนิคชั้นหนึ่ง: Ippon Sei-nage '' Yasuyuki Munetaแนะนำ Ippon Sei-nage ซึ่งนักตกปลางอแขนขวาของคู่ต่อสู้ด้วยดาบในมือขวาของเขา แล้วจับแขนเสื้อขวาของคู่ต่อสู้ด้วย ข้างมือ [ 2]
เทคนิคแบบนาเกะแบบที่สอง ``เซโกะนาเกะ'' จริงๆ แล้วเป็นเทคนิคของอิปปง เซอิ-นาเกะ ที่ได้รับชื่อนี้เนื่องจากมีการประกาศใช้ก่อนที่จะมีการแก้ไขชื่อข้างต้น เขาจับหมัดขวาที่ยกขึ้นของ Uke ด้วยมือซ้าย จากนั้นจึงจับแขนขวาของ Uke แล้วโยนมันเข้าไปในเครื่องดักไอปปอน
เกียคุ อิปปง ซีโออินาเกะ (เกียคุอิปปอน ซีโออินาเกะ) จะ แสดงในกรณีของ ทีมที่ถนัดซ้ายโดยมือขวาจับคอเสื้อขวาของอูเกะด้วยมือซ้ายจับปลา จากนั้นมือขวาจับแขนเสื้อขวาของอูเกะ จากนั้นสลับมือและจับแขนขวาของอูเกะ ``อิปปอน เซอิคาเงะ นาเกะ'' ซึ่งคุณจับปลาแล้วหมุนตัวไปทางขวาหนึ่งครั้ง โดยขยับเท้าขวาไปด้านหน้า หรือขยับเท้าซ้ายไปด้านหลัง แล้วเหวี่ยงไปทางคนตก ปลา
ฮิดาริกาตะ เซโออิ [ 6]เป็นอิปปงเซอินาเกะโดยมือขวาของนักตกปลา จับคอเสื้อด้านหน้าซ้ายของอูเกะ แขนซ้ายจับหรือจับไหล่ซ้ายของอูเกะ และชาวประมง โยนมันไปทางคนตกปลา ในภาพยนตร์สารคดี ``แก่นแท้ของยูโด: มิฟูเนะ จูดัน'' คิวโซ มิฟุเนะแสดง เป็นหนึ่งใน ` ` เซคานาเกะ'' [7] ใน นิตยสาร `` Modern Judo '' ใน `` รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคนิคชั้นหนึ่ง: Ippon Sei-nage '' สี่ในห้ายูโดกะ Taiki Sakamoto, Ayumi Tanimoto , Shinya YoshinagaและAsuka Okaแนะนำประเภทนี้ อิปปอน เซนาเกะ[8 ]
เซโออิการิคืออิปปอน เซกะ-นาเกะ โดยผู้ดึงคว้าแขนเสื้อของคู่ต่อสู้ขณะใช้เทคนิค และใช้มือตกปลาเพื่อโจมตีไกมูโซที่ เข่าของคู่ต่อสู้ทางฝั่งของผู้ดึง พัฒนาโดยมาซาฮิโกะ คิมูระ เนื่องจากเป็นเทคนิคการขว้างโดยวางมือบนขา จึงไม่สามารถนำมาใช้ภายใต้ กฎ ของสหพันธ์ยูโดนานาชาติ ได้อีกต่อไป มันถูกตั้งชื่อโดยฮาจิเมะ อิโซไก [ 9]
ภาพรวม
แก้ไข
เทคนิคที่คุณ จับคอของคู่ต่อสู้ด้วยมือตกปลา จับส้นเท้าของคู่ต่อสู้จากด้านใน (หรือด้านนอก) ด้วย มือที่ดึงและในขณะที่หมอบลง ให้เลื่อนเท้าของคู่ต่อสู้แล้วโยนเหมือนกำลังดึงลง ถ้าจับขา ตักขึ้น หรือจับแล้วโยนเหมือนกดลง ก็จะกลายเป็นคุจิกิ ต่างจาก คุจิคิตารุและโซเทการิรูปร่างจะเหมือนกับ ``ล้ม'' หรือ ``ล้มลง'' มากกว่า ``ขว้างปา''
เทคนิคการสื่อสาร
แก้ไข
ติดต่อฉันจากความสามารถของฉัน
เขาหันส้นเท้าภายใต้หน้ากากของ ippon seikage
เขาหันส้นเท้าเพื่อตอบสนองต่ออิปปอน เซ นาเกะ
ส้นกลับจากเซอินาเกะ
ส้นเท้าหมุนจากแคร่ไหล่
ส้นเท้า กลับมาจากDeashigai
ส้นเท้ากลับมาจาก การขว้าง โทโมเอะ
ส้นเท้า กลับมาจากKouchikari
ส้นเท้าหมุนจากต้นขาด้านใน
การสื่อสารจากเทคนิคของคู่ต่อสู้
กลับจากรถคันใหญ่
ส้นเท้าพลิกจากการคุกเข่า
ฯลฯ
ปีนหน้าคู่ต่อสู้พร้อมทำลายจุดศูนย์ถ่วงของพวกเขา ในขณะที่ดึงที่จับไว้เหนือไหล่ของคุณ ให้วางมือที่ถือที่จับตกปลาไว้ระหว่างขาของคู่ต่อสู้แล้วยกขึ้นเพื่อให้วางบนไหล่ของคุณ หมุนร่างของคู่ต่อสู้ราวกับกำลังดึงที่จับแล้วปล่อยพวกเขาลงจากด้านหลัง มันแทบจะเหมือนกับ ท่าพกของนักดับเพลิงเทคนิคมวยปล้ำ (การโยนเครื่องบิน)
หากดึงเข้าเร็วเกินไป การเบรกจะไม่เพียงพอ หากก้มตัวแล้ววางไว้บนหลัง คุณจะไม่สามารถวางมันลงได้ และมันไม่ใช่ " เป้สะพาย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องงอเข่า มุ่งพลังงานไปที่หลังส่วนล่าง และยืดกล้ามเนื้อหลัง
ค่อนข้างเสี่ยงเมื่อใช้เป็นเทคนิคผสมกับเซอินาเกะ แต่ เข้ากันได้ดีกับเทคนิคเช่น ฟุตามิการิและคุจิกิไท
ก่อนหน้านี้มีนักกีฬาเพียงไม่กี่คนที่ใช้มันในญี่ปุ่น แต่ตั้งแต่ปี 1995 โยชิโอะ นากามูระ ซึ่งเป็นแชมป์โลกในรุ่น 86 กก. ได้เริ่มใช้มันอย่างแข็งขัน และหลังจากนั้น ก็ถูกใช้โดยนักกีฬารุ่นไลท์เวทและมิดเดิ้ลเวทเป็นหลักมันมี กลายเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นผู้เล่นใช้เทคนิคนี้ ใช้ได้ผลสำหรับคนทุกขนาดและง่ายต่อการจดจำ
ล้อบอล
แก้ไข
ทามากุรุมะ เป็น เทคนิคการขว้างที่ใช้ปฏิกิริยาตอบสนองของคู่ต่อสู้ ดึงมือซ้ายของผู้ดึงไว้เหนือไหล่ของคุณ ทันใดนั้น เขาก้มลงและใช้หลังมือขวาเลื่อนเข่าขวาของคู่ต่อสู้ลง กระตุ้นให้ปฏิกิริยาสะท้อนของคู่ต่อสู้กระโดดข้ามตัวเอง ทำให้คู่ต่อสู้กลิ้งไปข้างหน้า
เป็นเทคนิคประเภทหนึ่งที่ใช้เป็น เทคนิคการคืนสินค้า ให้กับ โคโนะอุจิการิ
เทคนิคในการ หลบโคนูจิการิของคู่ต่อสู้และส่งคืนในลักษณะที่คล้ายกับซูมิโอจิ หาก คุณอยู่ทางขวาทั้งคู่ให้ใช้เท้าขวาตัดเท้าขวาของตัวเอง โทริสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวนี้ หลบเท้าขวา แล้วโยนไปทางซ้าย[ 1]
Kouchi Gaeshi / Ko-uchi-gaeshi (0s~) - YouTube KODOKAN Channel
โทรุ โคจิ
แก้ไข
สุกาชิ โคอุจิ หลบคาริ โคอุจิคู่ต่อสู้ของเขา และบิดไปทางด้านขวาในลักษณะคล้ายกับ บูคาเกะเพื่อดึงเขาล้มลง
หากผู้เล่นทั้งสองคน อยู่ ทางด้านขวาคู่ ต่อสู้ (อุเกะ) จะเคลื่อนจุดศูนย์ถ่วงไปข้างหน้า และใช้เท้าขวาตัดขาขวาของตนเอง (โทริ) เพื่อแสดงโคโนะอุจิ-การิ โทริสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวนี้และหลบเลี่ยงด้วยเท้าขวา โทริไม่พลาดโอกาสที่อูเกะจะทรุดตัวไปข้างหน้าเนื่องจากขาที่กำลังเก็บเกี่ยวถูกหลบและจุดศูนย์ถ่วงเคลื่อนไปข้างหน้า โทริก็ดึงอูเกะลงมาพร้อมบิดตัวไปทางขวาหรือซ้าย กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณหลบKouchi-gariของคู่ต่อสู้และเนื่องจากคู่ต่อสู้ของคุณได้รับโมเมนตัมเมื่อเขาพยายาม Kouchi-gari ให้ใช้โมเมนตัมนั้นเพื่อหมุนคู่ต่อสู้แล้ว ขว้าง
กลไกของเทคนิคเหมือนกับอูคิตาคุ และรูปร่าง คล้ายกับอุจิมาตะ ซูกาชิ มาก เมื่อถือเป็นเทคนิคการคืนของโคนูจิคาริ ก็จะกลายเป็นเทคนิคสุดท้ายที่เรียกว่าโคโนะอุจิคาเอะ อย่างไรก็ตาม โคนุจิการิเป็นเทคนิคที่มีการเคลื่อนไหวน้อยและรวดเร็ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะกลับมาด้วยเทคนิคนี้
เทคนิคที่ มือตกปลาจับคอเสื้อ แล้วผู้ดึงก็ตักขาขึ้นหรือจับแล้วดันลง หากคุณจับส้นเท้าของคู่ต่อสู้ หมอบลง เลื่อนขาของคู่ต่อสู้แล้วโยนมันราวกับกำลังดึงมันลง (โดยไม่กดลง) มันจะกลายเป็นเรื่องอื้อฉาว จุดเริ่มต้นของเทคนิคนี้คือ ``เทคนิคที่โทริตัดขาข้างหนึ่งของอู เกะด้วยมือข้างเดียว แล้วทำให้ล้มลง''
คล้ายกับการเก็บเกี่ยวโดยใช้สองมือ รูปร่างจะเหมือนกับ ``ล้มลง'' หรือ ``ดันลง'' มากกว่า ``ขว้างปา'' มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบบกลิ้งไปด้านข้างแล้วเปลี่ยนเป็นเทคนิคการขว้าง ไปจนถึงแบบที่โยนลูกบอลไปด้านหลังตรงๆ ซึ่งเทียบเท่ากับ การส่งมอบมวยปล้ำซูโม่หรือ การตัก โคมาตะ และมี รูปแบบคล้าย กับ การดำน้ำขาเดียวของมวยปล้ำ
เทคนิคนี้ได้รับการยอมรับตั้งแต่เนิ่นๆ โดยJigoro Kanoผู้ก่อตั้งยูโดและKodokan ในปีพ.ศ. 2469ในหนังสือเทคนิคยูโด ``ชินชิกิ ยูโด'' ยาอิจิเบะคอนมิตสึแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับคุจิกิ-โทชิว่าเป็นเทคนิคที่ไม่น่าดึงดูด รวม
ในกีฬายูโดของญี่ปุ่นการชนะด้วยเทคนิคนี้ร่วมกับโซเทมาริ ไม่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีนัก และบางครั้งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ``ไม่สวยงาม'' และ ``เป็นวิธีที่ชั่วร้ายในการชนะ' ' อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา รูปแบบการใช้งานของ Kuchiki-tae ได้กลายเป็นกระแสหลักของยูโดของโลก และมีการแข่งขันหลายรายการที่แตกต่างจากแนวคิดของญี่ปุ่นในการขว้างปาที่สวยงาม เนื่องจากสถานการณ์เหล่านี้ ผู้เล่นชาวญี่ปุ่นจึงตอบสนองได้ยากและเป็นสาเหตุของการสูญเสียมากมาย
ในปี 2009 มีการพูดคุยถึงการกำหนดให้เป็นเทคนิคต้องห้าม[3]และภายในสิ้นปี การใช้งานก็ถูกจำกัดอย่างมากเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกฎ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่ คุมิเตะ (ยูโด)
เทคนิคพื้นฐานคือการใช้มือทั้งสองข้างตัดหลังเข่าของคู่ต่อสู้ ใช้ไหล่ดันเข่า ทำลายจุดศูนย์ถ่วง และกระแทกคู่ต่อสู้ไปข้างหลัง แม้ว่าคุณจะจับขาข้างหนึ่งของคู่ต่อสู้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วกระแทกเขาล้ม มันก็ยังคงเป็นการโจมตีแบบสองมือ อย่างไรก็ตาม หากคุณจับขาของคู่ต่อสู้ทั้งสอง (ข้างเดียว) ด้วยมือทั้งสองข้าง ยกขึ้นแล้วโยนลง ถือเป็นการขว้างแบบตัก
เนื่องจากลักษณะของเทคนิค จึงเป็นไปได้ที่จะคาดหวังว่าอิปปอนจะชนะทันที ดังนั้นบางครั้งจะเห็นได้ว่านักกีฬาที่เกือบจะสูญเสียการแข่งขันมุ่งเป้าไปที่โซเทมาริก่อนหมดเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ ตามกฎในญี่ปุ่น การใช้มือทั้งสองข้างคว้าขาในการแข่งขันสำหรับนักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่านั้นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้การบาดมือสองมือในการแข่งขันอย่างเป็นทางการสำหรับกลุ่มอายุเหล่านั้นได้
นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มที่จะเน้นการต่อสู้และแสวงหาเทคนิคอันงดงาม กล่าวกันว่าฟุเทการิเป็นหนึ่งในเทคนิคตัวแทนที่ไม่สวยงามเช่นเดียวกับคุจิคิตะ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ไม่เกิดขึ้นในการแข่งขันระดับนานาชาติ และเรามักจะเห็นนักกีฬาที่ปฏิเสธคุมิเตะโดยสิ้นเชิง และใช้กลยุทธ์ในการเล็งไปที่โซเทการิแทน
นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าตรงกันข้ามกับสไตล์ที่แนะนำในญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ ``รับไอปปอนด้วยเทคนิคการต่อสู้และการขว้าง'' ในต่างประเทศสไตล์ของ ``รับคะแนนและชนะด้วยการชนะ'' พัฒนาและเกิดขึ้นภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกันกับยูโด มีความคิดเห็นมากมาย ว่า
รูปแบบพื้นฐานของ Futegari เกือบจะเหมือนกับการพุ่งขาสองขาในการเข้าสกัดและมวยปล้ำดังนั้นจึงเหมือนกับการ ``น็อคดาวน์'' หรือ ``ดันลง'' แทนที่จะเป็น ``ขว้าง'' ซึ่งคล้ายกับคุจิคิโตชิและเกเกเก . กลายเป็น.
ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ง่ายที่สุดสำหรับนักกีฬาที่เปลี่ยนจากกีฬาอื่นมาเรียนรู้
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคนี้ ได้แก่ Rafał Kubackiจากโปแลนด์ แชมป์โลกโอเพ่นปี 1993 และ 1997 และKate Howey จากอังกฤษ แชมป์โลก 66 กก. ปี 1997
มือด้านนอก
แก้ไข
Somoroteเป็น somorote ที่ใครคนหนึ่งคว้าขาของ Uke ด้วยมือทั้งสองข้างจากด้านข้างของ Uke แล้วกระแทกเขาล้มลง[ 3]
เทคนิคที่คู่ต่อสู้ (อุเกะ) คว้าเข็มขัดหน้าของคู่ต่อสู้ (อุเกะ) จากด้านหลัง เหยียดขาของเขา ใช้มันเป็นจุดศูนย์กลาง และเหวี่ยงคู่ต่อสู้ไปข้างหลัง ในกรณีของกูมิฝั่งขวา โทริคว้าโอบิด้านหน้าของอูเกะด้วยมือขวาแล้วดึงเข้าด้วยกัน จากนั้น ให้ใช้มือซ้ายโอบรอบเอวของ Uke จากด้านหน้าไปด้านข้าง กดลำตัวแนบชิดเขา แล้วคว้าชุดชั้นในของ Uke โทริโค้งหลังแล้วเหวี่ยงไปข้างหลังพร้อมกับยกอูเกะขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง
นอกจากนี้ยังมีวิธีวางแขนซ้ายไว้ใกล้คอของอูเกะแล้วสอดสะโพกแล้วเหวี่ยงไปข้างหลังเหมือนอิริมิ นาเกะ[ 1]
วิธี ยูโดคาวาอิชิใช้วิธีการโอบิโอชิ โดยให้แขนขวาผ่านจากด้านหลังอูเกะโดยไม่จับโอบิ และลำตัวที่อยู่ใกล้กับโอบิของอูเกะจะถูกจับไว้ในแขนทั้งสองข้างด้วยมือทั้งสองข้างประสานกัน โยนมันเหมือนมือปราบด้านข้าง[ 2 ] .
มันถูกถอดออกจากเทคนิค Gokyo ใน ปี พ.ศ. 2463 (ไทโช 9) [3] [ 4] ในปีพ.ศ. 2469 ยาอิจิเบะ คาเนมิตสึ เขียน ในหนังสือเทคนิคยูโด ``ชินชิกิ ยูโด'' ว่าเขาละเว้นโอบิโอจิ โดยกล่าวว่าเป็นเทคนิคที่มีพื้นฐานอยู่บนทฤษฎีและไม่เหมาะสำหรับการใช้งานจริง หรือเทคนิคที่ขาดเสน่ห์ [ 5 ] ในปี 1982เมื่อมีการก่อตั้งเทคนิคการขว้างชื่อเทคนิค Kodokan ขึ้นมา ก็รวมโอบิ-โอจิเข้าไปด้วย
เทคนิคนี้คล้ายกับรูปแบบพื้นฐานของ คิคุนาเกะซึ่งใช้มือทั้งสองข้างจับลำตัวส่วนล่างไว้ แต่ข้อแตกต่างคือต้องใช้โอบิด้านหน้า
เป็นเทคนิคที่ใช้มือตกปลาจับโอบีหรือหลังลึกของคู่ต่อสู้จากไหล่และอีกข้างคว้ากางเกงชั้นในหรือรักแร้ของคู่ต่อสู้พร้อมกับโค้งตัวของคู่ต่อสู้ไปด้านหลังแล้วเหวี่ยงคู่ต่อสู้ไปด้านข้างมันคือ เทคนิคคล้ายกับรถลาก
มันมีชื่อเสียงเพราะ Habareri ผู้ชนะเลิศเหรียญทองรุ่น 78 กก. ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงมอสโกได้ใช้มันอย่างกว้างขวาง และเมื่อเวลาผ่านไปมันก็ถูกเรียกว่า ``Habareri'' กล่าวกันว่าเทคนิคนี้ได้รับการแก้ไขจากเทคนิคที่เรียกว่าgadabreva (ด้านข้างลง) ที่ใช้ใน ศิลปะ การ ต่อสู้ แบบจอร์เจียนChidaoba เพื่อให้เข้ากับกฎของยูโด [1] หลังจากนั้นชื่อเรียกขาน ``โอบิ โทริเคชิ'' ถูกนำมาใช้สำหรับเทคนิคการเปลี่ยน ชินซัตสึมิ ซะ ฮิคิโคมิ-กาเอชิด้วย โอบิ และกลายเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของ IJF ตามกฎสากล ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป จะไม่สามารถดึงเข็มขัดกลับคืนได้โดยการคว้ากางเกงชั้นในหรือขาของคู่ต่อสู้อีกต่อไป
Obi-tori-gaeshi ถูก จัดอยู่ในประเภทUkiwakiและKiki -nageในKodokan แต่ ในเดือนเมษายน 2017 ได้มีการเพิ่มชื่อเทคนิค Kodokan ให้เป็นเทคนิค ``Obi-dori-gaeshi'' ในเดือนเมษายน2017
เทคนิคที่ไม่คว้ารักแร้ ชุดชั้นใน หรือขาของคู่ต่อสู้ การจับเข็มขัดพยุงหลังของคู่ต่อสู้ และไม่เตะคู่ต่อสู้ด้วยขาของตัวเอง บางครั้งจัดเป็นโอบิ-โทเคกะเอชิ [4] [5 ] [ 6 ]
มีเทคนิคบางอย่างที่ไม่รวมอยู่ใน Obi-tori-gaeshi นี้ แต่เรียกว่า ``Obi-tori-gaeshi'' ฮิกิคิงกาเอชิถือโอบิเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ``โอบิ โทโดริกาเอชิ'' นี่ไม่ใช่เทคนิคแบบแมนนวล แต่เป็นเทคนิคการเสียสละที่แท้จริง ชื่ออย่างเป็นทางการของ IJF และ Kodokan คือ ``Obi-dori-gaeshi'' เป็นการอ้างอิงถึงชื่อสามัญของเทคนิคนี้ ``Obi-dori-gaeshi''
เทคนิคโอบิโทริ-กาเอชิยังได้รับการพัฒนาโดยใช้คู่ต่อสู้ที่ล้มลงเพื่อใช้เทคนิคการควบคุมโดยตรง และยูโกะ เนซากิก็เก่งในรูปแบบนี้ และรูปแบบที่เธอมักใช้เพื่อเชื่อมโยงเธอกับเคซางัต สึก็เรียกอีกอย่างว่า ``โอบิโทริ-กาเอชิ .'' [7] . นอกจากนี้ยังมีการกวาดที่เรียกว่า ``โอบิโทริ-กาเอชิ'' เช่น อาซาโนะ-กาเอชิ และทาเท-กาเอชิ
รูปแบบพื้นฐานคือการก้าวไปข้างหน้า (นิ้วเท้า) จากวิธีมาตรฐานแล้วก้าวเข้าไปในหน้าอกของคู่ต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวไปข้างหน้า หรือดึงคู่ต่อสู้ออกโดยการเคลื่อนไหวไปข้างหลัง จมร่างกายของคุณราวกับดำดิ่งลงไปในนั้น และทำเช่นนั้น (เช่น การขี่หลัง ) เทคนิคที่คุณอุ้มคู่ต่อสู้ไว้บนหลังโดยวางข้อศอกของนักตกปลาไว้ใต้รักแร้ของคู่ต่อสู้แล้วเหวี่ยงไหล่ (อุ้มคู่ต่อสู้) โดยใช้มือจับ มันเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีชื่อเสียงที่สุดในยูโด โดยทั่วไปกล่าวกันว่าเป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับการขว้างสิ่งของขนาดเล็กใส่คู่ต่อสู้ที่ใหญ่กว่า
เทคนิคนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในวิธีที่ นักตกปลาใช้ แม้ว่าจะมีความแตกต่างระหว่างเทคนิคการใช้มือและเทคนิคเกี่ยวกับเอวแต่ก็คล้ายกับเทคนิคสึริโคมิ-โกชิมาก แต่เซโกะ-นาเกะจะพุ่งไปข้างหน้าด้วยความช่วยเหลือของผู้ดึง (คอจะยกขึ้นด้วยมือตกปลา จากนั้นจึง ปลอกแขนถูกดึงโดยใช้ตัวดึง) ข้อแตกต่าง ระหว่างการตกปลากับการตกปลาคือคุณใช้มือตกปลาโยนมันไปด้านข้าง (ใช้ที่จับเพื่อดึงปลอกออกราวกับว่าทำท่า `` ทรงบันไซ '' จากนั้นใช้มือของคุณ มือตกปลาเพื่อดึงคอออก) .
สำหรับเทคนิคขั้นสูงกว่านั้น ยังมีเคนาเกะด้วย โดยให้เท้าของนักตกปลาก้าวออกไปนอกคู่ต่อสู้ และเข่าของคู่ต่อสู้จะถูกดันขึ้นด้วยขาข้างนั้นในขณะที่ขว้าง มันคล้ายกับทา โอโทชิ[3]
อีกเทคนิคหนึ่งคือการใช้มือขวาจับคอเสื้อซ้ายของคู่ต่อสู้ วางเขาไว้บนหลัง ใช้มือซ้ายดึงกางเกงใน ของคู่ต่อสู้ ฯลฯ ยกเขาขึ้นแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้าในแนวทแยง ในกรณีที่มีการต่อสู้สี่ครั้ง มันใช้งานง่าย[ 4] ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2013 เป็นต้นมา กฎของ IJF ห้ามการจับขาโดยสิ้นเชิง ซึ่งทำให้ใช้งานได้ยาก
จากการต่อสู้ทั้งสี่ครั้ง ยังมีเทคนิคที่คุณใช้มือขวาจับปลาของคู่ต่อสู้ด้วยมือขวา จับคอขวาของคู่ต่อสู้ด้วยมือตกปลาซ้าย แล้วโยนไปที่ข้างมือ มันคล้ายกับ Gyaku-Ippon Sei-nageแต่อันนี้ ใช้มือตกปลาเพื่อคว้าคอของคู่ต่อสู้[5 ]
ไหล่คอหนึ่ง
แก้ไข
ภาพประกอบของปกเสื้อและแขนเสื้อ 1 ชุดจากปกเสื้อ 1 ชุดและแขนเสื้อ 1 ชุด
คาตะเอริ เซโออิ คือ คา ตาเอริ นาเกะ โดยมือซ้ายจับแขนเสื้อขวาหรือปกเสื้อขวาของคู่ต่อสู้ มือขวาจับคอเสื้อด้านในขวาของคู่ต่อสู้ และขว้างโดยอุ้มคู่ต่อสู้ไว้ด้านหลัง ในภาพยนตร์สารคดี ``แก่นแท้ของยูโด: มิฟูเนะ จูดัน'' คิวโซ มิฟูเนะแสดง ตัวอย่างแรกของ ``เซอิคาเงะ'' [7]
แบกกลับ
แก้ไข
กยาคุเซโออิคือ เคโกะนาเกะ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น ``เทคนิคในการขว้างเคโกะนาเกะอย่างราบรื่นไปในทิศทางตรงกันข้าม'' ในช่วงเวลาหนึ่งหลังจากที่เคโกะนาเกะของเกาหลีได้รับความนิยม [ ต้องการอ้างอิง] ภายใต้กฎปัจจุบันมันเป็นเทคนิคต้องห้ามที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง[8 ] เทคนิคนี้พบเห็นได้ทั่วไปในการแข่งขันระดับนานาชาติตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2550 และมักทำในรูปแบบการต่อสู้สี่ครั้ง[ 9] เทคนิคนี้จัดอยู่ในประเภทเคโคกุ-นาเกะ และถูกเรียกว่า ``เกียคุเซอิคาเงะ'' [10]แต่ ด้วยการแก้ไขกฎในปี 2021 ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคและอยู่ภายใต้การสอนแทน[11]
ในกรณีมือซ้าย มือขวาจับคอขวาของคู่ต่อสู้ด้วยมือตกปลาซ้าย แล้วคว้าคอขวาของคู่ต่อสู้ (คอเดียว) หรือแขนเสื้อด้านหลังของฝั่งมือตกปลาของคู่ต่อสู้ แล้วหันตัวไปทาง ขา 12 ] ในกรณีของปกเสื้อตัวเดียว มักจะถือเป็นรูปแบบหนึ่งของเซนาเกะ เช่น คุมิเทะที่ไม่ปกติ เช่นเดียวกับเซนาเกะทั่วไป นอกจากนี้ ไม่เหมือนกับ Kaiten-Ippon-kokuและ Kaiten - koku-otoshi ตรง ที่ kei-nage มักจะถูกโยนไปที่ด้านข้าง ของเครื่องดึง แต่จะคล้ายกับ วิธีการขว้างของ Michiaki Kamochi ซึ่งใช้ที่จับกับนักตกปลาและ ของโยนก็โยนไปข้างชาวประมง ก็มีของให้โยนด้วย
แบกบนหลัง
แก้ไข
Seoima kikomi [13] Seoima kikomi คือการโยนภาพทะเลโดยให้กลุ่มมือขวายกหลังขึ้น จากนั้นบิดลำตัวไปทางซ้ายแล้วพันลำตัว
อิวาอิชิ โอจิ
แก้ไข
Ganseki Otoshiเป็นkeiko-nage โดยที่ Tori จับคอปกขวาของ Uke ด้วยมือขวา และจับปกด้านซ้ายของ Uke ด้วยมือซ้าย คล้ายกับการเต้นแบบย้อนกลับ ถ้าโทริมีแขนซ้ายอยู่ข้างหน้า เขาจะ ขว้างทวนเข็มนาฬิกา[ 14] [15]
จาก ท่าเซโกนาเกะหรืออิปปอน (ตำแหน่ง) ให้วางเข่าข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างไว้บนเสื่อทาทามิ ใช้เป็นจุดศูนย์กลาง แล้วเหวี่ยงลง
นอกจากนี้ ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายสำหรับนักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่าที่จะแสดงเทคนิคขณะคุกเข่าทั้งสองข้างเพื่อความปลอดภัยหรือเรียนรู้เทคนิคที่ซื่อสัตย์ต่อพื้นฐาน [ 1 ]
เคโคโรชิจากรูปแบบของอิปปอนคาเอะนั้นคล้ายกับ อุจิ มักโคมิ มาก แต่ความแตกต่างก็คือมันถูกโยนโดยการดึงลงหรือพันรอบคอ
Gyakuseiootoshiเป็นเทคนิคที่กลายเป็นเรื่องปกติในการแข่งขันระดับนานาชาติตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 และ Zenjuren กล่าวว่าเทคนิคนี้ ``ใช้เป็นหลักในการต่อสู้คุมิเตะทั้งสี่ครั้ง โดยจับปกหน้าของฝั่งนักตกปลาด้วยมือทั้งสองข้าง ``หมายถึงเทคนิคที่คล้ายกับเคนาเกะ ซึ่งลูกบอลจะถูกโยนไปข้างหลังด้วยการบิดตัว''
เขาจำแนกเทคนิคนี้ว่า ``เซโคคุ-นาเกะ'' และเรียกมันว่า `` กยา คุ เซคุนาเกะ '' [2]
ในกรณีของมือซ้าย ผู้ถนัดขวาจับคอเสื้อขวาของคู่ต่อสู้ด้วยมือซ้ายตกปลา จากนั้นคว้าคอขวาของคู่ต่อสู้ (เสื้อเดี่ยว) หรือแขนเสื้อด้านหลังของฝั่งมือตกปลาของคู่ต่อสู้ แล้วหันตัวไปทางขาขวา เทคนิคที่คู่ต่อสู้ถูกเหวี่ยงลงมาทางฝั่งนักตกปลาโดยหมุนไปทางขวาหนึ่งรอบโดยเคลื่อนไปข้างหน้าหรือถอยหลังด้วยเท้าซ้าย (หรือด้วยโมเมนตัมของการโน้มตัวไปข้างหน้าขณะคุกเข่าขณะเลี้ยวใหญ่ ) .
ต่อมาถือว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบหนึ่งของกระเป๋าเป้เกาหลี มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ไคเทนเซอิโอโทชิ
รูปแบบพื้นฐานคือผู้ที่ใช้เทคนิค (โทริ) ก้าวเท้าขวาเข้ามา และด้วยมือซ้ายจับต้นขาซ้าย (อุเกะ) ของคู่ต่อสู้จากด้านหน้า จับไว้ใต้แขนของเขา และกดลำตัวของเขา ต่อต้านเขา จากนั้น ให้ใช้มือขวาจับหลังเข่าขวาของ Uke แล้วอุ้มเขาขึ้น โค้งตัวและเหวี่ยงไปข้างหลัง
การเคลื่อนไหวจะคล้ายกับเทคนิคเช่น โอบิโอจิ
นอกจากนี้ คูไมต์แต่ละตัวยังอธิบายโดยใช้คูไมต์ที่ถูกต้องอีกด้วย ใน กลุ่มด้านซ้ายด้านซ้ายและด้านขวาจะกลับกัน หรือที่รู้จักในชื่อไซด์บัสเตอร์
เมื่อทำการขว้างโดยใช้แขนจับขาหรือหว่างขาของคู่ต่อสู้แล้วขว้าง โดยทั่วไปจะจัดเป็นการขว้างแบบสกู๊ป
รถลาก
แก้ไข
เทกุรุมะ เป็น เทคนิคการขว้างแบบแมนนวลที่รวมอยู่ในคิคุนาเกะ รูปแบบทั่วไปคือเมื่ออุเกะแสดงเทคนิคที่แสดงแผ่นหลังของเขา เช่นเซนาเงะหรืออุจิมาตะ จากด้านหลัง [1] เขาเอามือแตะ ที่เป้าด้วยมือซ้ายหรือคว้าบั้นท้ายของชุดชั้นในแล้วกดลง ร่างกายต่อต้านเขา จากนั้นเขาก็ตักมันขึ้นสูงโดยวางไว้ที่สะโพกหน้าซ้าย จากนั้นดึงมันลงด้วยมือขวาในลักษณะครึ่งวงกลมแล้วเหวี่ยงไปข้างหน้า
การเตะส่วนใหญ่ที่ตัดสินในการแข่งขันจะใช้รถลากนี้ และมักเรียกลูกบอลนี้ว่านักล้วงกระเป๋าโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยทั่วไป มักใช้เป็นการโจมตีโต้กลับเมื่อ คู่ต่อสู้ยกขาของตนในท่าครึ่งตัว เช่น ในไฮโคชิหรืออุจิมาตะหรือ เมื่อคู่ต่อสู้อยู่ด้านหลังคู่ต่อสู้ เช่น ในเค-นาเกะ-นาเกะ . นอกจากนี้ ก่อนที่จะมีการแก้ไขกฎที่กล่าวถึงด้านล่าง การขว้างลูกตักที่ตักเป้าจากด้านหน้าหรือด้านข้างมักพบเห็นในหมู่ผู้เล่นต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าคินซึเกะ , คาคานาเกะ[2]และเทอุจิมาตะ[ 3]
สแลมร่างกาย
แก้ไข
เทอุจิมาตะหรือที่รู้จักกันในชื่อบอดี้สแลมในมวยปล้ำอาชีพ
บทความหลัก: บอดี้สแลม
Body Slamคือรถลากที่ Tori วางมือระหว่างหว่างขา ของ Uke จากด้านหน้า ตักขึ้นแล้วหย่อนลงจากด้านหลัง ในวิธี คาวาอิชิ ของ ยูโดเทคนิคนี้เรียกว่า ``คิคุนาเกะ'' [4 ]
อิจิโซคุโดะ อายุ 9 ขวบกล่าวในหนังสือของเขาว่า ``เมื่อคุณถูกโจมตีบนถนน ให้เอนร่างกายส่วนบนไปข้างหน้า ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า จับขาของคู่ต่อสู้ด้วยเท้าซ้ายแล้วขว้าง ' '
มีบันทึก ว่าโชตะ ฮาบาเรริชนะอิปปอนโดยใช้ชื่อเทคนิคฮาบาเรริในการแข่งขันยูโดชิงแชมป์โลกปี 1981 เทคนิคของฮาบาเรริในการอุ้มคู่ต่อสู้โดยเอื้อมมือไปด้านหลัง คว้าเข็มขัดด้านหลัง วางมือไว้ที่เป้าจากด้านหน้า หรือการดึงชุดชั้นในขึ้นมา ถือเป็น ``คิคุ-นาเกะ'' ที่โคโดกัน ต่อมา ชื่ออย่างเป็นทางการของ IJF เปลี่ยน เป็น โอบิ โทริ-คาเอชิ [ 9] ในปี พ.ศ. 2560 Kodokan ได้สร้าง Obi-dorigae ใหม่และจำแนกไว้ที่นั่น[ 10]
เทคนิคที่คู่ต่อสู้ถูกเคลื่อนจากด้านหลังไปที่มุมหน้า จากนั้นเหยียดขาออก และคู่ต่อสู้ถูกเหวี่ยงลงราวกับกำลังดึงพวกเขาลง
เป็นเรื่องง่ายที่จะสับสนกับเซอินาเกะ แต่ รูปร่างของข้อศอก ที่ด้านข้างของนักตกปลาเมื่อขว้างจะแตกต่างกัน ถ้าขว้างโดยพับข้อศอกเหมือนเซนาเกะ จะจัดว่าเป็นเซนาเกะ นักตกปลาใช้ลำตัวที่หล่นราวกับว่าเขากำลังจับหัวของคู่ต่อสู้หรืออย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้มันตกลงไป
เป็นเทคนิคการคืนสินค้าสำหรับอุจิมาตะและเป็นเทคนิคประเภทหนึ่งสำหรับประเภทหลัง อุจิมาตะเป็นเทคนิคอันทรงพลังที่ทำให้ตีหนึ่งหมัดได้ง่าย แต่ต้องให้ผู้ที่ใช้มันเสียการทรงตัว ดังนั้น หากคุณสามารถหลบมันด้วยเทคนิคนี้ได้ มันก็ง่ายที่จะเอาชนะมัน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงปล่อยให้คู่ต่อสู้ โจมตี คู่ต่อสู้ จากนั้นจึงหลบและโต้กลับทันที[1 ]
สิ่งสำคัญคือการตัดสินว่าคู่ต่อสู้จะใช้อุจิมาตะเมื่อใด และมีหลายรูปแบบ แต่ในแต่ละกรณี ถือเป็นเทคนิคขั้นสูงมากและไม่สามารถใช้ในการแข่งขันได้ เว้นแต่คุณจะมีทักษะมาก หาก คุณไม่สามารถหมุนร่างกายของคู่ต่อสู้ได้และคู่ต่อสู้ยังคงโจมตีคุณด้วยเทคนิค (โดยเฉพาะไฮโคชิ ) มีความเสี่ยงที่คุณจะตกเป็นเหยื่อของพวกเขา ดังนั้น ต้องใช้ความกล้าหาญจำนวนหนึ่ง ต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการตัดสิน ต้นขาด้านในของคู่ต่อสู้และกำลังของขาข้างเดียวในการรับแรงโมเมนตัมของคู่ต่อสู้ด้วยขาข้างเดียว
นี่ คือความพิเศษของโยชิมิ โอซาว่า ดันที่ 10 หรือที่รู้จักในชื่อ ``อิมะ อุชิวาคามารุ'' Osawa กล่าวว่า ``เช่นเดียวกับรถไฟที่วิ่งผ่านกันและกันด้วยความเร็วที่ไม่อาจคาดเดาได้ ข้อกำหนดที่แท้จริงคือการกระโดดเข้ามาพร้อมกับเท้าขวาของคุณออกในเวลาเดียวกันกับที่คู่ต่อสู้ของคุณกระโดดเข้ามา ขนานกัน และให้เข่าชิดกันเพื่อหลีกเลี่ยง ปล่อยให้ขาของคุณเลื่อนเข้าไปในเป้า "เป็นเช่นนั้น" เขากล่าว
ประเภทของลายน้ำต้นขาด้านใน
แก้ไข
เมื่อคู่ต่อสู้ของคุณพยายามใช้อุจิมาตะ รูปแบบพื้นฐานคือการหลบขานั้นและใช้โมเมนตัมนั้นเพื่อหมุนคู่ต่อสู้ไปรอบๆ และขว้าง เนื่องจากคู่ต่อสู้ของคุณมีโมเมนตัมเมื่อเขาหรือเธอกระโดดขึ้นขาของเขา ลักษณะของขามีอยู่ 2 แบบ เหวี่ยง นอกจากนี้ ในการใช้งาน ยังมีรูปแบบที่เปลี่ยนเป็นทาโอโทชิหรืออุจิมาตะหลังจากสุคะสุ และ โคอิจิโระ มิทานิก็เชี่ยวชาญเทคนิคการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งนั้นสามารถทำได้ด้วยสี่ไอ แต่การขว้างด้วยคุมิเทะสี่อันนั้นง่ายกว่า ในการแข่งขันสามารถมองเห็นได้ทั้งสองกรณี แต่เนื่องจากเป็นเทคนิคสำหรับผู้เล่นขั้นสูงจึงไม่ค่อยได้ใช้และมักส่งผลให้เกิดอุจิมา ตะ
หมุน
วาดเท้าของคุณ หมุนคู่ต่อสู้แล้วขว้าง นี่เป็นวิธีที่ใช้มากที่สุด เมื่อคู่ต่อสู้พยายามแย่งต้นขาด้านใน ร่างกายของคุณก็จะถูกเหวี่ยงไปข้างหน้าเช่นกัน ดังนั้น หากคุณไม่ถอยเท้าไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว คุณก็มีแนวโน้มที่จะไม่มั่นคง
พึ่งพา
กระโดดขึ้นขาของคุณให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหมุนคู่ต่อสู้ไว้ใต้ขาของคุณ (ระหว่างขาของคุณ) เข้าสู่ตำแหน่งที่คุณไม่ได้นั่งคร่อมหรือพิงพวกเขา มิโดริ ทาคิทานิเก่งจังเลย
เปลี่ยนเป็นตกต่ำ
หลังจากหลบUchimataของคู่ต่อสู้ แล้ว ให้ใช้Taiotoshi [ต้องการ อ้างอิง ]
เปลี่ยนเป็นต้นขาด้านใน
หลบUchimataของฝ่ายตรงข้ามและตอบโต้ด้วยUchimata [ ต้องการอ้างอิง] นอกจากนี้ยังสามารถเรียกได้ว่า เป็นUchimatagaeshi ที่ไม่สม่ำเสมอ
เงื่อนไขลายน้ำ
แก้ไข
เงื่อนไขประการหนึ่งในกฎการตัดสินของ Kodokan คือ ``เมื่อคุณใช้เทคนิคหรือพลาดเทคนิคของคู่ต่อสู้แล้วกระแทกเขาหรือเธอล้มลงด้วยแรงหรือโมเมนตัมจำนวนมาก บนหลังของเขาหรือเธอโดยประมาณ'' ' วลี ``ไม่มีทักษะ'' ในที่นี้ยังรวมถึงความหมายของ ``sukasu'' ด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่จะตัดสินว่าผู้ใช้พลาด Uchimata หรือว่าเขาล้มลงเองเนื่องจากโมเมนตัมของเทคนิค ดังนั้นหากเขาตกลงไปที่ Uchimata ผลลัพธ์จะถูกรับรู้ไม่ว่าเขาจะ ``พลาด'' หรือไม่ก็ตาม หรือไม่.
โปรดทราบว่า ``ซุคาชิ'' ใช้สำหรับอุจิมาตะเท่านั้น และเมื่อ ``ซุคาชิ'' ถูกโยนโดยใช้เทคนิค ``ซูคาชิ'' เช่น `` ฮิโคโกชิ ' ' หรือ `` ไฮโคชิ' ' เทคนิคนั้นจะกลายเป็น เทคนิคการตัดสินใจ
ในกรณีของ กลุ่มมือขวารูปแบบพื้นฐานคือ การยกไหล่ซ้ายของ uke ขึ้นอย่างแรงด้วยมือขวาของคนตกปลา ดึงมือซ้ายของผู้จับที่ถือแขนเสื้อขวาของ uke ลง และ ดึงอูเคะลงแรงๆ ยุบอูเกะให้สูงขึ้นไปที่มุมขวาหน้า แล้วหย่อนขาซ้ายไปข้างหลังเทคนิคการโยนลูกบอลไปทางมุมซ้ายด้านหลัง หรือการโยน ให้คุกเข่าซ้ายแล้วส่งบอล บอลต่อหน้าผู้เล่นราวกับกระโดดข้ามขาที่งอ การพังทลายลงมีขนาดใหญ่มากจนร่างของ Uke ถูกระงับ และ Uke ไม่สามารถปิดกั้นได้โดยยื่นขาออกมา ในทางกลับกันอาจกล่าวได้ว่า เว้นแต่คุณจะหยุดพักได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณจะไม่สามารถขว้างได้ เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ไม่สามารถขว้างได้หากไม่มี เทคนิคการทำลายที่รุนแรง จึงรวมอยู่ในรูปแบบเนเกะเพื่อที่จะเชี่ยวชาญเทคนิคการทำลายล้าง ในการสาธิตกะตะ โทริจะถูกโยนลงบนเข่า แต่คุณสามารถโยนโทริโดยไม่ต้องคุกเข่าได้
นอกจากนี้ยังมีอุกิบาคุโดยให้คุณใช้มือซ้ายจับแขนเสื้อซ้ายของอูเกะ ใช้มือขวาจับโอบิหลังของอูเคะ วางเข่าขวาบนพื้น แล้วเหวี่ยงอุเกะไปที่มุมขวาด้านหลัง
นอกจากซูมิโอจิแล้ว ยังถือเป็นการ ขว้างแบบสุญญากาศ (การขว้างแบบสุญญากาศ) เนื่องจากเป็นการขว้างโดยไม่ต้องใช้มือหรือเท้าหรือวางบนเอว
โยนอากาศ
แก้ไข
คล้ายกับรูปแบบพื้นฐาน การขว้างทางอากาศเกี่ยวข้องกับการทำลายอูเกะด้วยมือทั้งสองข้าง ก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าของมือตกปลาและเท้าขวา และ ขว้างไปที่มุมขวาหน้าของอูเกะและมุมซ้ายด้านหลังของโทริ [ 1 ] `` Air Throw '' มักเรียกอีกชื่อหนึ่งของ Ukefuku หรือ Sumiochi แต่ในวิธีการของ Kawaishiของยูโด มันเป็นรูปแบบหนึ่งของ Ukefuku และถือเป็นเทคนิคดังกล่าว นี่เป็นเทคนิคที่วิจัยและพัฒนาโดยKeishichi Ishiguro ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของKawaishi Shuzonosuke จาก มหาวิทยาลัย Waseda เมื่ออิชิงุโระเป็นนักเรียนที่โรงเรียนมัธยมต้นคาชิวาซากิเก่าโชโซ นากาโนะ นักเรียนแดนคนที่สี่ในตอนนั้น ได้เข้ามาฝึกซ้อม ในเวลานั้น อิชิกุโระรู้สึกประทับใจกับเทคนิคการแกว่งและการขว้างที่นากาโนะทำอย่างตั้งใจ และศึกษาเทคนิคนี้โดยเลียนแบบ เทคนิคนี้เรียกว่า ``Sukiotoshi'', ``Tenage'' ฯลฯ แต่ต่อมาขณะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ เพื่อนร่วมงานคน มันรับการส่งเสริมได้และหนึ่ง[2] . สัญกรณ์อื่น: โยนอากาศ . อีก ชื่อคือมาซุมิโอโตชิ
ข้อศอกหล่น
แก้ไข
สำหรับฮิจิโอโตชิให้จับแขนเสื้อทั้งสองข้างของอูเกะด้วยมือทั้งสองข้าง ยกข้อศอกซ้ายของอูเกะด้วยมือขวาของคนตกปลา ดึงมือซ้ายของผู้จับที่ถือแขนเสื้อขวาของอูเกะลง แล้วดึงลงอย่างแรง และ ทรุดตัวลงที่มุมขวาหน้าของอุเกะ อุฟุกิ [3]ซ้าย
โทรุ โอกาโตะ
แก้ไข
โทรุ โอโซโตะ (โอโซโตะ สุกาชิ) คือ ความล้มเหลวใน การคืนเทคนิคให้โอโซโทการิ หลบ Otogari ของคู่ต่อสู้แล้ว โยน มันไปต่อหน้าคู่ต่อสู้[4]
นี่คือความพิเศษของ ชิโระ ไซโกะลูกศิษย์ของ จิโกโระ คาโนะผู้ก่อตั้ง โคโดกัง ผู้ชนะ การแข่งขัน ยิวยิตสู
เทคนิคที่คล้ายกันที่เรียกว่า ยามาโอจิ มีอยู่ ในเท็นจิน ชินโย-ริว ซึ่ง จิโกโระ คาโนะได้เรียนรู้
หนังสือที่เขียนโดย Tenjin Shinyo-ryu และ Iguchi Yoshimitsu กล่าวว่า ``Morcupine เป็นชื่อที่ Kodokan ตั้งให้ ใน Yoshin-ryu, Mayo-ryu และ Sekiguchi -ryuเรียกว่า Yamaochi''
ในปี ค.ศ. 1920 (ไทโช 9) เมื่อมีการจัดเทคนิค โคโดกัน เทคนิคดังกล่าวก็ถูกแยกออกจากการจำแนกประเภทชั่วคราวและกลายเป็นเทคนิคหลอกตา ในปีพ.ศ. 2469ในหนังสือเทคนิคยูโด ``ชินชิกิ ยูโด'' ยาอิจิเบะ คอนมิตสึเขียนว่าเขาละเว้นการตีพิมพ์เม่น โดยกล่าวว่าเป็นเทคนิคที่อิงตามทฤษฎีและไม่เหมาะสำหรับการใช้งานจริง หรือเทคนิคที่ขาดหายไป เสน่ห์[ 1 ] ในปี 1982เมื่อมีการตั้งชื่อเทคนิคของ Kodokan Judo ว่า Nagewa ก็ได้รวมเอาเม่นเข้าไปด้วย
เทคนิค การใช้เม่นของไซโกะ ชิโระ ทำให้ จิโกโระ คาโนะพูดว่า ``ไม่มีเม่นมาก่อนไซโง และจะไม่มีเม่นหลังจากไซโงะ''
ชื่อที่เป็นทางการของเทคนิคยูโดเป็นชื่อที่เป็นรูปเป็นร่างซึ่งอ่านคำอธิบายการเคลื่อนไหวและการเคลื่อนไหว แต่มีเพียงเม่นเท่านั้นที่ถูกเรียกด้วยชื่อนามธรรม
ในนวนิยายของสึเนโอะ โทมิตะ เรื่อง " สุกาตะ ซันชิโร " ( ค.ศ. 1942 ) ปรากฏว่าเป็น "การเคลื่อนไหวพิเศษ" ที่สมบูรณ์แบบโดยตัวละครหลัก ซันชิโระ ซึ่งจำลองมาจากชิโระ ไซ โง
เทคนิคการขว้างที่เกี่ยวข้องกับการจับปกเสื้อและแขนเสื้อ เหวี่ยงร่างกายส่วนบนไปข้างหน้าโดยให้ร่างกายส่วนบนอยู่ด้านหลัง และกวาดร่างกายส่วนล่างไปด้านหลังด้วยเท้า (เกือบจะเหมือนกับการแสดงเซอินาเงะและท่าฮาเกะโกชิที่ ในเวลาเดียวกัน) _ ถือไว้บนหลัง วางไว้ในแนวทแยงมุมบนหลังแล้วเหวี่ยงขา (หรือขณะถือ แกว่งขา) หรือโยนมันราวกับว่าคุณกำลังยืด กล้ามเนื้อเฉียงภายนอก
สำหรับฝั่งขวา
ผู้ดึงใช้แขนเสื้อขวา และนักตกปลาก็คว้าคอปกด้านขวาโดยให้นิ้วหัวแม่มือคว่ำลง และนิ้วทั้งสี่นอกเหนือจากนิ้วหัวแม่มือยื่นออกมา เป็นการขว้างที่เป็นการผสมผสานระหว่างเซอินาเกะ (หรือไทโอโตชิ ) และไฮโคชิ สำหรับสะโพก ให้สอดสะโพกด้านหลังขวาเหมือนไฮโคชิ และวางคู่ต่อสู้ไว้ด้านบน
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณกวาดขาขวาของคู่ต่อสู้ คุณจะต้องกวาดมันด้วยฝ่าเท้าขวาของคุณ
คล้ายกับไคนาเกะ ว่ากันว่าคนตัวเตี้ยได้เปรียบเมื่อขว้างคู่ต่อสู้ตัวสูง
อย่างไรก็ตาม ความสูงของไซโงะคือ 5 ชาคุ 1 อาทิตย์ (ประมาณ 153 ซม.) เมื่อก่อนแขวนคอเหมือนหยดศพ เมื่อคู่ต่อสู้ดึงขาขวาของเขา มันก็ห้อยอยู่ในแนวเดียวกับขานั้น นอกจากนี้นักตกปลาไม่จำเป็นต้องเอานิ้วโป้งไว้ด้านบน
ล่าสุด ฮิฟุมิ อาเบะ ยิงประตูได้ แต่ถือว่าสละร่างกาย
ทฤษฎีการปรับปรุงการโยนสี่ทาง
แก้ไข
ตามที่นักเขียน Akiho Jiromaru กล่าวไว้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับDaito-ryu Aikijujutsuมีทฤษฎีที่ว่าเม่นของ Shiro Saigo นั้นแตกต่างจากเม่นที่ Kodokan และ IJF เรียกกัน และเป็นเวอร์ชันปรับปรุงของShiho -nage ของ Daito-ryu ไซโกะโยริโมะ ซึ่งรับเลี้ยงไซโกะ ชิโระเป็นผู้สืบทอดของไดโตะริว มีทฤษฎีที่ว่า เม่นของชิโระ ไซโงะเป็นเทคนิคที่เขางอแขนของคู่ต่อสู้เข้าหาหู คล้ายกับชิโฮะ-นาเกะจากนั้นจึงแสดงโอโซโตะ-การิ เม่นชนิดนี้ถูกแสดงในละครโทรทัศน์เรื่อง `` Sugata Sanshiro '' ใน ปี 1978 ที่นำแสดงโดย Hiroshi Katsuno อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้แตกต่างจากคำอธิบายของเม่นที่เขียนโดย Tomita Tsunejiro ซึ่งเป็นพ่อของ Tsuneo Tomita และเป็นเพื่อนของ Shiro Saigo โดยที่คู่ต่อสู้บินสูงขึ้นไปในอากาศแล้วจับคอหลังซ้ายของคู่ต่อสู้ด้วยมือซ้าย[ 2 ] .
เทคนิคที่คู่ต่อสู้วางอยู่บนสะโพกด้านหลังขวาหรือซ้าย งอเข่าเป็นรูปด็อกเลก และขาที่งอนั้นใช้ในการเด้งออกจากขาของคู่ต่อสู้ในฝั่งเดียวกับขาที่งอ
กล่าวกันว่าถูกคิดค้นโดย โยชิทากะ ยามาชิตะซึ่งเป็นคนแรกที่ได้รับอันดับ 10 ดันที่โคโดกังแต่จริงๆ แล้วกล่าวกันว่ามีพื้นฐานมาจากเทคนิคที่เรียกว่าโอบิโทริ-โกชิ ซึ่งมีมา ตั้งแต่สมัยจูจุสึ ยุค . [1] ในสมัยฮากามะแขนสั้นหรือฮากามะสั้น โอบิด้านหน้าของคู่ต่อสู้จะถูกแขวนในลำดับเดียวกันหรือกลับด้าน แต่ต่อมาเมื่อแขนเสื้อยาวขึ้น เช่นเดียวกับชุดยูโด ก็เปลี่ยนไปเป็นรูปแบบที่แขนเสื้อและ ปลอกคอถูกถอดออกและโยนทิ้ง เชื่อกันว่า คำว่า ``โจโคชิ'' มาถูกเรียกว่า[1 ]
ในหนังสือเรียนหลายเล่มมักเขียนเป็น `` เทคนิคเกี่ยวกับเอวคล้ายกับอุจิมาตะ '' แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทคนิคนี้ มีประวัติของการเป็นต้นแบบของอุจิมาตะ (สำหรับรายละเอียด โปรด ดูหัวข้อต้น ขาด้านใน )
เขาดึงคู่ต่อสู้ขึ้นอย่างแรงราวกับจะทำให้เขาอยากเด้ง และขณะบุกเข้ามุมหน้า ก็สอดสะโพกไปข้างหน้า งอเข่าเล็กน้อยให้เป็นรูป "สุนัข" ยกคู่ต่อสู้ขึ้นเพื่อให้พวกเขาพักทั้งตัว และโยนพวกเขาลงต่อหน้าคุณ
หากคุณขว้างจากด้านข้างโดยใช้น่องจากด้านหลังเข่าแทนที่จะเป็นด้านข้างของขา คุณจะ ได้ ไวโกชิและถ้าคุณเกี่ยวมันไว้เหนือขาตรงข้ามของคู่ต่อสู้คุณจะได้อุจิมาตะ เมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคเหล่านี้ เอวกระโดดเป็นสไตล์ที่ ``สวย'' มากกว่า และแม้ว่าจะไม่ค่อยพบเห็นในการต่อสู้จริง แต่ก็เคยเป็นเทคนิคยอดนิยมที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ครึ่งหลังของสมัยเมจิจนถึงก่อน -สงคราม สมัย โชวะ เก็ น จิ โอกาตะ, ริกิ คุสุโนบุ , มาซาโนบุ ยามาโมโตะ , ซูเอโยชิ ทานากะ และคนอื่นๆ ที่ ชนะการแข่งขันประเภทพิเศษของAll-Japan Selection Tournamentล้วนมีทักษะในเทคนิคนี้[1] [2] [3]
เทคนิคพิเศษในการกลับไปสู่ไบโคโกชิคือบาโกโกชิกาเอชิ หากผู้เล่นคืนการกระโดด ระบบจะบันทึก "การกระโดดกลับ"
เอวกระโดดด้านนอกที่ยอดเยี่ยม
แก้ไข
โอโซโตะ ฮาเนโกชิ (Osoto Hanegoshi) ในกรณีของกลุ่มมือขวาคือเอวเด้งที่เหวี่ยงคู่ต่อสู้เข้ามุมด้านหลังขวาของคู่ต่อสู้ทำให้ดูเหมือนเป็นการขว้าง คัตสึโยชิ ทาคาดะ ซึ่งต่อมารับหน้าที่เป็นผู้สอนของโคโดกัง เก่งเรื่องนี้ และเขาตั้งชื่อหัวข้อนี้ว่า[ 4]
เทคนิคที่คู่ต่อสู้วางอยู่บนสะโพกด้านหลังขวาหรือซ้าย และใช้สิ่งนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง คู่ต่อสู้จะถูกเหวี่ยงไปข้างหลังโดยการแกว่งขาเพื่อให้คู่ต่อสู้ว่ายไปด้านข้าง
นอกจากนี้ ใน อุจิมาตะ เท้าจะเด้งจากระหว่างต้นขา (ด้านในของขา) ( สำหรับ บิโคโกชิ คุณสามารถใช้ เท้าเดียวกับของคุณ และ สำหรับ อุจิมาตะคุณสามารถใช้เท้าข้างใดข้างหนึ่งได้) ในขณะที่ฮาเอโกชิ คุณจะกระเด้ง จากด้านนอกของขา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุจิมาตะและฮาราอิโกชิสามารถขว้างด้วยรูปแบบเดียวกันได้ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือคุณจะเด้งขาจากด้านในของขาหรือกวาดขาจากด้านนอกของขา) จับปกด้านข้างด้วยการตกปลา มือแล้วดึง จับแขนเสื้อด้วยมือ ใช้การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า คู่ต่อสู้จะถูกแขวนไว้ที่มุมหน้า จากนั้นขาหลังจะวางชิดกับขาคู่ต่อสู้ และลูกบอลจะถูกโยนในลักษณะกวาด ถ้าคุณโยนมันให้สูงระดับเอว มันจะกลายเป็น เกวียนขนาดใหญ่และถ้าคุณโยนมันไปที่ขาแทนที่จะวางบนเอว มันก็จะกลายเป็น ล้อเลื่อน
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ โอโตการิส่งคืนพร้อมกับไฮโคชิ ด้วย
เทคนิคการชี้ขาดของซูโม่นิโชนาเกะเป็นเทคนิคที่คล้ายกับ โอโซโตะการิ ซึ่งเทียบเท่ากับไฮโคชิ
วลาดิมีร์ ปูตินประธานาธิบดีคนที่สองและสี่ของสหพันธรัฐรัสเซียมีชื่อเสียงจากความสามารถพิเศษของเขา
รูปร่างนาเกะ
แก้ไข
เทคนิคสะโพกที่สองใน รูปแบบนาเกะ .
พวกเขาเผชิญหน้ากันใน ระยะห่างประมาณ 2 ชาคุและอูเกะก็ก้าวออกไปด้วยเท้าขวาและพยายามข้ามเข้าสู่ตำแหน่งธรรมชาติที่ถูกต้อง โทริตอบสนองต่อสิ่งนี้ วางเท้าขวาในท่าที่เป็นธรรมชาติ แล้วก้าวถอยหลังด้วยเท้าซ้าย ต่อไป โทริดึงเท้าซ้ายเพื่อดึงอูเกะออกมา ในตอนนี้ ให้สอดมือขวาไว้ใต้รักแร้ซ้ายของ Uke ต่อไป เมื่อโทริถอยกลับ เขาจะดึงอูเกะด้วยมือทั้งสองข้างแล้วลอยไปที่มุมขวาหน้าเมื่อมองจากอูเกะ จากนั้นยกมันขึ้นด้วยขาขวา
รูปร่างนาเกะ
แก้ไข
เทคนิคสะโพกที่สองใน รูปแบบนาเกะ .
พวกเขาเผชิญหน้ากันใน ระยะห่างประมาณ 2 ชาคุและอูเกะก็ก้าวออกไปด้วยเท้าขวาและพยายามข้ามเข้าสู่ตำแหน่งธรรมชาติที่ถูกต้อง โทริตอบสนองต่อสิ่งนี้ วางเท้าขวาในท่าที่เป็นธรรมชาติ แล้วก้าวถอยหลังด้วยเท้าซ้าย ต่อไป โทริดึงเท้าซ้ายเพื่อดึงอูเกะออกมา ในตอนนี้ ให้สอดมือขวาไว้ใต้รักแร้ซ้ายของ Uke ต่อไป เมื่อโทริถอยกลับ เขาจะดึงอูเกะด้วยมือทั้งสองข้างแล้วลอยไปที่มุมขวาหน้าเมื่อมองจากอูเกะ จากนั้นยกมันขึ้นด้วยขาขวา
การชำระเงินแบบรอบด้าน
แก้ไข
Mawarikomi haraigoshi [ 1]คือการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติซึ่งSakujiro Yokoyama ทำได้ดี ในตำแหน่งมือขวา ก้าวเท้าซ้ายของคุณไปทางซ้ายของคู่ต่อสู้ ใช้เท้าซ้ายนั้นเป็นแกนเพื่อเพิ่มแรงผลักดันและหันร่างกายของคุณไปทางซ้ายอย่างแหลมคม กระแทกคู่ต่อสู้ของคุณตรงหน้าคุณ จากนั้นเหวี่ยงขาขวาออกไป ต่อหน้าคู่ต่อสู้แล้วเตะมันขึ้นมา 2[ มีการเคลื่อนไหวร่างกายคล้ายกันใน รถยนต์ขนาดใหญ่[1]และโคชิงุรุมะ[3]
เทคนิค พิเศษในการกลับคืน สู่ฮา เอ โกชิ คือเทคนิคการเดินเท้าฮาเอโกชิกาเอชิ หากบุคคลนั้นตอบโต้ ``เฮโกชิ'' จะถูกบันทึกไว้ มีหลายกรณีที่ส่งคืนพร้อมกับ โอโซโทการิ
การตัดลิ่ม
แก้ไข
คุซาบิการิ (คุซาบิการิ) เป็นเทคนิคการโต้กลับซึ่งเมื่อมีการพยายามโจมตีเช่นไฮโคชิ ขาเดือยของคู่ต่อสู้จะถูกตัดหรือกวาดจากภายในในลักษณะเดียวกับโออุจิการิ เทคนิคนี้เป็นสิ่งต้องห้ามในยูโด ต่างจาก คาวาซุคาเกะ ซึ่งเป็น เทคนิคต้องห้ามเช่นกันมันไม่รวมอยู่ในชื่อเทคนิคโคโดกันยูโดหรือชื่อเทคนิค IJF [5 ] บทลงโทษเป็นการเตือนหรือการแพ้ตามกฎของ Kodokan และการแพ้จากการทำฟาวล์ตามกฎสากล สามารถใช้ในSamboและBrazilian Jiu Jitsu ในยูโด อนุญาตให้ใช้คุซาบิโดมซึ่งเกี่ยวข้องกับการหยุดเท้าหมุนของคู่ต่อสู้จากภายในได้ มีประสิทธิภาพในการยกนิ้วเท้าของขาที่สอดจากภายใน[6] .
จากตำแหน่งตามธรรมชาติที่คุณจับคอด้านข้างของคู่ต่อสู้ด้วยมือตกปลาและแขนของคู่ต่อสู้ด้วยมือจับ นักตกปลาจะเคลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งที่คุณจับคอ ปลายแขนและของ กากบาทใน ลักษณะกากบาทแล้วโยนลูกบอลราวกับว่ากลิ้งไปรอบสะโพกของคุณ[1] โทชิฮิโกะ โคกะ ใช้งานอย่างแข็งขันซึ่งเปลี่ยนระดับน้ำหนักของเขาเป็น 78 กิโลกรัมหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่บาร์เซโลนา เป็นการขว้างที่คล้ายกับการขว้างคอในซูโม่หรือมวยปล้ำ อย่างไรก็ตามในยูโดจะวางไว้ที่เอว
คุณยังสามารถแสดง Koshiguruma ได้โดยจับคอเสื้อของคู่ต่อสู้ด้วยมือทั้งสองข้าง ในกรณีนี้ หากคู่ต่อสู้ไม่ได้ตั้งใจดันศีรษะเข้าไปในเสื่อทาทามิ ก็จะไม่ถือเป็นการละเมิดการป้องกันศีรษะ ว่ากันว่า มาซาฮิโระ ทาคามัตสึใช้มือตกปลาและตัวดึงในทิศทางตรงกันข้าม โดยจับคอด้วยตัวดึงและเหวี่ยงด้วยมือทั้งสองข้างในลักษณะล็อค
วิธีคาวาอิชิ
แก้ไข
รถเอว
แก้ไข
โคชิกุรุมะของ วิธี คาวาอิชิ ใน ยูโด คือโคชิกุรุมะที่ไม่รองรับ การเคลื่อนไหว ของร่างกาย เหมือนกับไมโคมิ ไวโกชิ ในกลุ่มมือขวา มือขวาไม่จับคอคู่ต่อสู้ แต่ยังคงอยู่ที่ข้างคอคู่ต่อสู้ ก้าวเท้าซ้ายไปทางซ้ายคู่ต่อสู้ ใช้เท้าซ้ายเป็นแกน ใช้เท้าซ้ายรับ โมเมนตัมแล้วหมุนตัวไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว เหวี่ยงออก ใส่สะโพก แล้วเหวี่ยงไปข้างหน้าโดยใช้สะโพกเป็นแกน ทันทีก่อนที่จะขว้าง จุดทั้งสี่ของเท้าทั้งสองของผู้เล่นและฝ่ายตรงข้ามจะเรียงกันเกือบเป็นเส้นตรงบนเสื่อทาทามิ[ 2]
คูบิโตะ
แก้ไข
วิธียูโดคุบินา เกะ ตามคาวาอิชิเป็นเทคนิคการขว้างโดยให้คอของคู่ต่อสู้จับด้วยแขนขวา และ น่องขวาวางชิดกับหน้าแข้งขวาของคู่ต่อสู้เหมือน ไทโอโตชิ ไม่จัดว่าเป็น เทคนิคการใช้มือเหมือน Taiotoshi แต่จัดเป็นเทคนิคสะโพกเช่น Koshiguruma [ 3] เอวไม่ลึกเหมือนทรงพื้นฐานของรถเอว ไม่ได้อยู่ในชื่อเทคนิคอย่างเป็นทางการของ Kodokan หรือ IJF
ก้าวลึกๆ ลอดมือผ่านต้นขา และใช้การเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเพื่อเคลื่อนคู่ต่อสู้ไปข้างหน้า พันมือรอบเอวจากรักแร้ และหย่อนสะโพกให้ลึก (งอเข่า ยืดออก และวางไว้ บนสะโพก) เทคนิคการขว้างโดยการยกสะโพกและยกลูกบอล หากคุณคว้าโอบิแล้วโยน คุณจะอยู่ใน ท่าตกปลา
มักใช้รูปแบบคุมิเตะ โดยดึงด้านหลังไปทางด้านหลังหรือผ่านแขน (จากด้านนอก) อย่างไรก็ตาม กล่าวกันว่าเป็นเทคนิคสะโพกขั้นพื้นฐานที่สุด และเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นที่จะใช้เป็นเทคนิคแบบพาสซีฟ และยังง่ายสำหรับผู้ขว้างที่จะเข้าใจความรู้สึกของการ ``สอดสะโพกลึกและวางคู่ต่อสู้ไว้ top'' จึงไม่ใช้เป็นเทคนิคการขว้าง มักสอนก่อน
มักใช้ใน ศิลปะการต่อสู้แบบผสมและศิลปะการต่อสู้ทางทหารโดยที่ ไม่สวมเครื่องแบบยูโด
บินเอว
แก้ไข
โทบิโกชิ (สะโพกบิน) คือการเคลื่อนไหวด้วยเอวขนาดใหญ่โดย หลบ อุจิมาตะหรือเทคนิคสะโพก ของคู่ต่อสู้ ด้วยการกระโดดข้ามสะโพกของคู่ต่อสู้ หลบ อุจิมาตะ และเทคนิคสะโพก ของคู่ต่อสู้ด้วยการกระโดดข้ามสะโพกขวาของคู่ต่อสู้แล้วใช้มือขวาเป็นมือดึงและใช้มือซ้ายเป็นมือตกปลา เพื่อโยนคู่ต่อสู้ด้วยสะโพกใหญ่ [1 ]
เทคนิคที่คล้ายกัน
แก้ไข
*ตัวหนาบ่งบอกถึงความแตกต่างจากโอโกชิ
เอวลอย
วางลูกบอลไว้บนสะโพกของคุณแบบตื้นๆและใช้สปริงที่หัวเข่าและหมุนสะโพกเพื่อโยน
ย้ายสะโพก
บล็อคเทคนิคของคู่ต่อสู้จับเอวของคู่ต่อสู้ แล้ววางมันด้วยตัวเอง เทคนิคการคืนสินค้า
เอวตกปลา
เอา มือโอบรอบเอวคว้า โอบิ วางไว้บนเอวแล้วโยน บางครั้งก็สวมโอบิไว้เหนือศีรษะ
คุมิเทะใช้มือตกปลาจับคอเสื้อด้านข้าง และใช้มือดึงจับแขนเสื้อ โดยทั่วไปจะประกอบโดยใช้วิธีมาตรฐานดังนี้ ในกรณี กลุ่มมือขวา คนดึง (มือซ้ายจับแขนเสื้อ) ยกแขนเสื้อเข้าหาคนตกปลา ใช้มือคนตกปลา (มือขวาจับคอเสื้อ) หักร่างของคู่ต่อสู้ต่อหน้าคู่ต่อสู้ ก้าวไปข้างหน้าด้วยการเคลื่อนไหวทวนเข็มนาฬิกาแล้วจมร่างกายและโยนมันลงบนไหล่ของคุณ ในกรณีของกลุ่มซ้าย มือตกปลาและมือดึงจะใช้ในทางกลับกัน (มือตกปลากลายเป็นมือดึง และมือดึงกลายเป็นมือตกปลา) และการเคลื่อนไหวของเทคนิคก็จะกลับกันเช่นกัน มีสองวิธีหลักในการใช้ฮิกิต์ (มือซ้ายจับแขนเสื้อ): วิธีแรกให้คุณเกี่ยวคู่ต่อสู้ขึ้นราวกับทำทรงบันไซ และอีกวิธีหนึ่งให้คุณพับมันขึ้นแล้วบังคับไปทางขวาเหมือนทางซ้าย -แฮนด์ kei-nage นั่นเอง ไม่ว่าในกรณีใดมันต้องใช้ทักษะในการควบคุมแขนเสื้อของคู่ต่อสู้และเป็นเทคนิคที่ยากมาก
นอกจากนี้ เนื่องจากมือซ้ายของคู่ต่อสู้ว่าง จึงเป็นเรื่องยากที่จะหยิบไอพอน เว้นแต่คุณจะวางแผนทิศทางและความสูงเพื่อไม่ให้เขาใช้มือซ้ายในการป้องกันได้ หากคุณไม่สามารถฆ่าแขนข้างหนึ่งของคู่ต่อสู้ด้วยการดึง คุณจะไม่สามารถสัมผัสร่างกายของคุณอย่างใกล้ชิด และเทคนิคนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ ในกรณีของ คุมิเทะจากซ้ายไปขวา ( การต่อสู้สี่ครั้ง ) ผู้ดึงของกันและกันจะดึงแขนเสื้อเข้าหากัน เพื่อให้คุณสามารถเล็งจากสถานะที่กำแน่นเต็มที่ แต่คุมิเทะจากขวาไปขวา และจากซ้ายไปซ้าย เมื่อเล็งไปที่สิ่งนี้ เทคนิคใน ( ไอ โยสึ ) จะทำเทคนิคได้ยากหากคู่ต่อสู้พิงคอเสื้อ ในกรณีนี้ จำเป็นต้องเล็งไปที่การจับก่อนที่คู่ต่อสู้จะคว้าปลอกคอ หรือตัดมือตกปลาของคู่ต่อสู้ล่วงหน้า
ลักษณะสำคัญของเทคนิคนี้คือ ทิศทางการหมุนของร่างกายจะตรงกันข้ามกับเทคนิคอื่นๆ เช่น เซอิคาเงะ นาเกะและไทเดจิ (ไทเมอิ-นาเกะ) ซึ่งการขว้างจะดำเนินการโดยใช้การหมุนด้านหน้า (หันหลังให้คู่ต่อสู้เห็น) . นี่คือสาเหตุที่เรียกว่าเกียคุซ่า และเป็นเทคนิคเกียคุซ่าทั่วไป (ต่อมา เทคนิค ย้อนกลับเช่น Gyakusei Nage, Kaitai Ippon Nage และ Kaitai คุณของร่างกายNeckotsu (หรือที่เรียกว่า Kokage ของเกาหลี) ปรากฏขึ้น) เมื่อคุณบุกไปในทิศทางตรงกันข้ามกับ Kumite คุณสามารถจับคู่ต่อสู้ได้ด้วยความประหลาดใจ และ เมื่อใช้เทคนิคการสัมผัสไคนาเกะหรือไทโอโตชิที่กล่าวมาข้างต้น สามารถใช้การผสมผสานด้านซ้ายและขวาได้และมีประสิทธิภาพ
ดังที่กล่าวข้างต้นเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ทักษะระดับสูงมาก แต่เมื่อเชี่ยวชาญแล้ว ก็สามารถทำได้จากคุมิเตะประเภทต่างๆ เช่น คุมิเทะที่มีเฉพาะปลอก ถือคุมิเทะทั้งสองชนิดและมิโซเดะคะตะเมริ คะ
ฮาชิโมโตะ สเปเชียล
แก้ไข
ฮาชิโมโตะพิเศษ (Hashimoto Special) เป็นเอวตกปลาแบบแขนเดียว จับแขนเสื้อขวาของคู่ต่อสู้ด้วยมือซ้าย แต่อย่าคว้าสิ่งใดด้วยมือขวา ความพิเศษของ โซอิจิ ฮาชิโมโตะ
ภาพยนตร์
[ความพิเศษของเขาคือฮาชิโมโตะสเปเชียล] - YouTube Fuji TV SPORTS Channel [1]
มารุยามะตอนพิเศษ
แก้ไข
Maruyama Special (Maruyama Special) เป็นรูปแบบหนึ่งของ Sode Tsurikomi Koshi ที่ Kenji Maruyamaเชี่ยวชาญ สลับมือที่ถือมือตกปลาไปที่ขาของฝ่ายตรงข้าม ชุดชั้นใน ชายเสื้อ เข็มขัดพยุงหลัง และด้านหลังแล้วเหวี่ยงเหมือนไหล่ นักกีฬาต่างชาติที่มีแขนยาวและความแข็งแกร่งหลายคนเก่งในเทคนิคการเปลี่ยนแปลงนี้ ต่อมากฎสากลห้ามมิให้ชายเสื้อด้านบนยื่นออกมาจากด้านในขา ชุดชั้นใน หรือโอบิ และแทบจะไม่ได้ใช้อีกต่อไป นอกจากนี้ โทริยังถูกตั้งข้อหา "ดำน้ำ" มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่อันตรายโดยที่โทริตกลงบนหัวของเขาเองบนเสื่อทาทามิ
ตัวอย่างจากการแข่งขัน
กรังด์ปรีซ์ เทลอาวีฟ 2019 ชาย 73 กก. รอบ 1
Ulugbek Otamrodov (อุซเบกิสถาน) (2:00 Wazaari Sode Tsurikomi-shi ) Din Yakov Jemaah (อิสราเอล) Video (2m22s ~) - YouTube
ในการแข่งขันจริง Otamrodov ชนะ Waza-ari ด้วย Maruyama Special แต่หนึ่งปีต่อมาในการสัมมนาผู้ตัดสิน IJF ปี 2020 มีการพิจารณาว่าการเสียฟาวล์ของ Otamrodov เกิดจากการที่เขาคว้าชายเสื้อด้านบนของขาและหัวดำน้ำก่อน [2 ] .
เป็นเทคนิคในการหยิบเข็มขัดหลังของคู่ต่อสู้ คาดไว้ที่เอวหลังของคู่ต่อสู้ แล้วเหวี่ยงเหมือนโอโกชิ นอกจากนี้ หากคุณเชื่อมต่อกับ เอวกระโดดหรืออุจิมาตะหรือใช้เทคนิคเหล่านี้ขณะถือโอบิมันจะดูเหมือนยากุระ นาเกะ การเคลื่อนไหว อันเป็น เอกลักษณ์ของซูโม่ คือ การขว้างสะโพก กฎดังกล่าวกำหนดข้อจำกัดบางประการไว้สำหรับคุมิเตะ ที่ถือโอ บิ [1]
รูปแบบพื้นฐานคือการมองข้ามไหล่ของคู่ต่อสู้แล้วคว้าเข็มขัดหลัง มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าโอสึริโกชิ
เอวตกปลาขนาดเล็ก
แก้ไข
คตสึริโกชิเป็นเทคนิคการตกปลาที่คุณลอดผ่านรักแร้ของคู่ต่อสู้แล้วคว้าเข็มขัดหลังของคู่ต่อสู้
เทคนิคการขว้าง ไปข้างหน้าและลง (ไปด้านข้าง) โดยการลดสะโพกลงไปข้างหน้า และใช้การเคลื่อนไหวแบบตักของสะโพก (การหมุนสะโพกโดยไม่วางบนสะโพก) และใช้มือดึงและมือตกปลา
มันคล้ายกับเซอินาเกะ มาก แม้ว่า จะมีความแตกต่างระหว่างเทคนิคสะโพกและเทคนิคมือ แต่ในขณะที่ เซอินาเกะใช้เครื่องดึง และพุ่ง ไปข้างหน้า (จับคอด้วย มือ ตกปลา และดึงแขนเสื้อด้วยมือโฮกิ) สึริโคมินาเกะ ขว้างไปข้างหน้า มือตกปลาใช้ แล้วโยนไป ด้านข้าง (ดึงแขนเสื้อออกด้วยตัวดึงราวกับทำไชโย แล้วใช้มือตกปลาดึงคอเสื้อขึ้น)
เดิมทีจิโกโระ คาโนะเก่งเรื่องอุกิโกชิแต่ชิโระ ไซโงะกระโดดไปข้างหน้าและสร้างเทคนิคเพื่อป้องกันสิ่งนี้ เพื่อเป็นการตอบสนอง คาโนะคิดค้น ฮาเอโก เพื่อตอบสนองต่อสิ่ง นี้ คาโนะจึงพัฒนาเทคนิคสึริโคเมะ-โกชิ[1]
เป็นเทคนิคสึริโคมิประเภทหนึ่ง เช่น เดียวกับ โซเดะ สึริโกมิ-โกชิไฮสึริโกมิ-อาชิ และชิ สึริโกมิ-อาชิ
นอกจากนี้ยังมีเอวสำหรับตกปลาแบบปกเดี่ยวด้วย แต่จะทำให้ไหล่ตึงมากกว่าการแขวนตามปกติ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องกระชับรักแร้ของนักตกปลาเมื่อยกขึ้น
ก้าวเบาๆ วางแขนชาวประมงไว้ใต้รักแร้ แล้วตามรักแร้ชาวประมง หมุนราวกับดึงเท้าไปข้างหลัง ดึงแขนเสื้อด้วยที่จับดึง แล้วใช้การหมุนรอบเอว (โดยไม่วางบนเอว) ). เทคนิคการขว้างทีเดียว[1] . เมื่อเริ่มจากกลุ่มมือขวา ขณะที่คู่ต่อสู้ (อุเกะ) ถูกผลักไปข้างหน้าไปทางขวา คุณ (โทริ) จะใช้มือขวาโอบแขนรอบหลังหรือโอบิของอูเกะ โดยให้ทั้งสองอยู่ใกล้กัน หลังจากนั้น เขาก็หมุนด้วย เท้าซ้ายและใช้การหมุนสะโพกและเข่าเพื่อเหวี่ยงคู่ต่อสู้ไปข้างหน้า ในตอนนั้นอย่าให้สะโพกลึกเกินไป
หากคุณโยนมันโดยให้สะโพกลึกและวางลงบนสะโพกก็จะกลายเป็นเอว ใหญ่[2]
เอวโอบี
แก้ไข
โอบิโกชิเป็นอุกิโกชิที่ถูกโยนโดยการจับโอบิด้านหน้าของอุเกะด้วยมือตกปลา[3 ]
โอบเอว
แก้ไข
ดาคิโคมิโกชิ (ดาคิโคมิโกชิ) เป็น เทคนิคการขว้างแบบขว้างคอโดยให้มือตกปลาจับคอของคู่ต่อสู้แล้วขว้างคู่ต่อสู้ในลักษณะลอยตัว วิธีที่ดีที่สุดคือชี้หลังมือตกปลาของคุณขึ้น และวางนิ้วหัวแม่มือไว้ที่คอของคู่ต่อสู้ ได้รับการตีพิมพ์ใน หนังสือ ``ยูโดสไตล์ใหม่'' ใน ปี พ.ศ. 2469 [4 ]
ในระหว่างการสาธิตกะตะ อูเกะเหวี่ยงหมัดขวาให้กว้างแล้วเหวี่ยงลงไปที่หัวของโทริ (ชกเขา) โทริก้าวเข้ามาด้วยหมัด หลบและต่อสู้กับฝั่งของคู่ต่อสู้ และในขณะเดียวกันก็ขว้างคู่ต่อสู้ด้วยสะโพกซ้ายที่ลอยอยู่ การหลบหมัดกลายเป็นเทคนิคการขว้าง[2 ]
อาจดูง่าย แต่เป็นเทคนิคที่ยากมาก
ย่อเข่าของคุณจากด้านหลัง วางลงบนฮิคากามิของคู่ต่อสู้เป็นจุดศูนย์กลาง และถอยกลับเพื่อทำลายท่าทางของคู่ต่อสู้
หลังจากนั้น เขาหยิบคู่ต่อสู้ขึ้นมาและใช้สปริงที่สะโพกและเข่าเพื่อยกเขาขึ้น คล้ายกับเทคนิคยูเรเนจหรือโฮเกจ และใช้การหมุนสะโพกของเขาเพื่อบิดและทำให้เขาล้มลงในอากาศ
หากคุณจับโอบิด้านหน้าของคู่ต่อสู้แล้วเหวี่ยงขาของคู่ต่อสู้เป็นจุดศูนย์กลาง มันก็จะกลาย เป็นโอ ชิ หากคุณอ่านเทคนิคที่หันหลังให้คู่ต่อสู้ เช่นเซย์นาเกะไฮโคชิและอุจิมาตะ แล้วใช้เทคนิคเหล่านี้เป็น ตัวสวนกลับก็จะทำคะแนนได้ง่ายมาก ผู้รับมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาถูกจับด้วยความประหลาดใจและกระแทกลงมาอย่างสุดกำลัง ในซูโม่การ แสดง คือการห้อยโหน จากด้านหลัง กล่าวอีกนัยหนึ่งรูปร่างจะคล้ายกับ หยดห้อย
ต้นทาง
แก้ไข
ด้านหลังหนังสือ ``Illustrated Guide to Judo'' ตีพิมพ์ในปี 1909
ตามหนังสือ ``General Judo Illustrated Guide'' ในอดีต Gogoshi เป็นเทคนิคที่ ``มือซ้ายผลักสะโพกซ้ายของคู่ต่อสู้ มือขวาผลักสะโพกขวา และด้านหลังสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดกับ ด้านหน้าซ้าย''[ 1 ]
เป็นเทคนิคประเภทหนึ่งที่ใช้ เป็น เทคนิค ตอบโต้ กับ เทคนิคสะโพก ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับ เทคนิคการขว้างโดยหันหลังให้คู่ต่อสู้ ( โคชิ วาซะ) เช่น สึริโคมิ-โกชิไฮ- โกชิ และโฮกิ-โกชิ
หากผู้เล่นทั้งสองอยู่ในกลุ่มมือขวา เมื่อคู่ต่อสู้ (อุเคะ) พยายามใช้เทคนิคเหล่านี้ คุณ (โทริ) หลบเทคนิคของคู่ต่อสู้ทางด้านขวา งอเข่า และคว้าโอบีด้วยมือซ้าย หลังจากนั้น ขณะเหยียดเข่าออก ยื่นหน้าท้องออกมา หยิบ (ยก) คู่ต่อสู้ สลับร่าง วางคู่ต่อสู้ไว้ที่สะโพกซ้าย และใช้เป็นจุดศูนย์กลางในการโยนไปข้างหน้า ในเวลานี้ หากคุณเปลี่ยนร่างกายโดยไม่จับคู่ต่อสู้ (ตกปลา) แล้วโยนมันโดยวางลงบนสะโพก มันจะ เป็นการโจมตีครั้งใหญ่[1]
เทคนิคที่เท้าขวาของคู่ต่อสู้วางรอบเข่าขวาของคู่ต่อสู้เป็นจุดศูนย์กลาง และคู่ต่อสู้ถูกหมุนและเหวี่ยงราวกับกำลังบิดตัว (ราวกับเปิดร่างของตัวเอง)
ร่างกายส่วนบนดึงคู่ต่อสู้เข้าหาคุณอย่างแน่นหนาเหมือนกับ ไฮโคชิหรืออุจิมาตะ และขาที่ถูกตัดของร่างกายส่วนล่างจะถูกนำไปใช้กับหน้าแข้งหรือข้อเท้าของคู่ต่อสู้
ความแตกต่างจากแฮโกชิ ก็คือ ใน แฮโกชิคู่ต่อสู้จะถูกวางไว้ทางด้านหลังขวาหรือซ้าย วางเท้าบนขาของคู่ต่อสู้ และเหวี่ยงเท้าไปข้างหลัง
หากคุณวางเท้าให้สูงระดับเอวจากต้นขาก็จะกลายเป็น รถคันใหญ่
ใน บรรดาเทคนิค การเดินเท้าธรรมดาหลายๆ เทคนิค มันเป็นเทคนิคที่มีชีวิตชีวาและฉูดฉาด เช่นเดียวกับ Uchimata ที่มีชีวิตชีวาและฉูดฉาด
เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น ความสามารถพิเศษของ Naoya Ogawaและเขาใช้เทคนิคนี้เอาชนะ All Japan Judo Championshipsรอบชิงชนะเลิศของในปี 1993 (Heisei 5) ในKonno JunToshihiko Koga
เป็น เทคนิค การกวาดเท้า แบบหนึ่ง
ตั้งเป้าในขณะที่เท้าคู่ต่อสู้ของคุณเริ่มก้าวไปข้างหน้า นั่นคือเมื่อเท้าหน้า (เท้าที่คู่ต่อสู้ก้าวเข้าไป) กำลังจะแตะเสื่อทาทามิและน้ำหนักของคุณอยู่บนนั้น และกวาดข้อเท้าของคู่ต่อสู้จากด้านนอกด้วย ฝ่าเท้าของคุณ หรือเมื่อคู่ต่อสู้ถอยกลับเขาจะกวาดข้อเท้าไปข้างหน้า[ ต้องการอ้างอิง ]
ในเวลาเดียวกัน ให้ใช้แขนบิดร่างกายส่วนบนของคู่ต่อสู้แล้วกระแทกไปด้านข้าง
เป็นการยากที่จะต่อต้านเดอาชิ-บาชิที่ตรงเวลาของผู้เล่นที่มีทักษะ และมาตรการตอบโต้สำหรับสิ่งนี้ก็คือให้ฝ่ายรับคำนึงถึง ซูราชิ-อาชิพื้นฐานอยู่เสมอและรักษาเท้าให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผู้เชี่ยวชาญของเทคนิคนี้ ได้แก่โยชิมิ มาซากิและเคอิจิ ซูซูกิ
สำหรับเทคนิคขั้นสูงกว่านั้น ยังมี ยาคุอาชิวาวะ ซึ่งคล้ายกับโอโซโทการิ ฮารุโกชิและอะชิกุรุมะ โดยที่ข้อเท้าของคู่ต่อสู้ถูกกวาดจากด้านข้างโดย ให้ ด้านนอกของ เท้า นอกจากนี้ เพื่อเป็นเทคนิคการโต้กลับมี สึบาเมะเกชิ ซึ่งคู่ต่อสู้ที่เข้ามาเพื่อเดชิกาเอชิจะผ่านเท้าของเขาแล้วทำเดชิกาเอชิด้วยตัวเขาเอง
คนอื่น
แก้ไข
Edmund HondaจากStreet Fighter IIมีเทคนิคที่เรียกว่า ``Deashi-gai'' ซึ่งเขาใช้มือทุบขาของคู่ต่อสู้ให้หลุด
เทคนิคที่คุณวางเท้าบนเข่าของขาจุดศูนย์ถ่วงของคู่ต่อสู้จากด้านหน้า และใช้เท้าของคุณเองเป็นจุดศูนย์กลางในการหมุนและขว้าง
ในทำนองเดียวกัน หากคุณตีข้อเท้าของคู่ต่อสู้จากด้านหน้า มัน จะกลายเป็น ชิสึริโกมิ-อะชิและถ้าคุณโยนมันราวกับกวาดขาของคู่ต่อสู้ (เข่า) ก็จะกลายเป็น วะอิชิริ-โคมิ-อะชิ
เดิมทีเป็นเทคนิคเบื้องต้นที่มีการสอนครั้งแรกในยูโด
รถต้นขา
แก้ไข
โมโมกุรุมะเป็นนักขว้างลูกเตะ โดยคุณจะวางเท้าบนจุดศูนย์ถ่วงของคู่ต่อสู้จากด้านหน้า แล้วหมุนโดยใช้เท้าของคุณเองเป็น จุดศูนย์กลาง
เป็นเทคนิคประเภทหนึ่งที่ใช้เป็นเทคนิคการคืนสินค้า หากผู้เล่นทั้งสองอยู่ในกลุ่มมือขวา เมื่อคู่ต่อสู้ (อุเคะ) โจมตีด้วยการเตะกระโดด คุณ (โทริ) ยื่นหน้าท้องออกมาเพื่อป้องกันเทคนิคของคู่ต่อสู้ และยกขาหลัก (ขาซ้าย) ของคู่ต่อสู้ขึ้น โยน ในแง่ของรูปแบบมันคล้ายกับเซ็นโซคุบาริ เทคนิคที่มีการเคลื่อนไหวคล้ายกัน ได้แก่ไฮโคชิ กะเอชิและอุจิมาตะ กะเอชิแต่วิธีจัดการกับร่างกายและจังหวะเวลาจะแตกต่างกัน
เป็นเทคนิคประเภทหนึ่งที่ใช้เป็น เทคนิคการคืนไฮโคชิ หากผู้เล่นทั้งสองคนอยู่ทางด้านขวา เมื่อคู่ต่อสู้ (อุเกะ) โจมตีด้วยไฮโคชิ คุณจะ (โทริ) ลดจุดศูนย์ถ่วงลงและยืนหยัด หลังจากนั้นให้เลื่อนจุดศูนย์ถ่วงไปที่ขาขวา (ขาที่ถูกโจมตี) วางขาเดือย (ขาซ้าย) ที่เป็นขาของอูเกะ แล้วเหวี่ยงไปทางด้านหลังโดยตรงด้วยน่องซ้ายของอูเกะ [ ต้องการอ้างอิง] . หรือวางตัวรับสัญญาณขณะตัดหญ้า[ 1]
รูปร่างคล้ายกับโซโตกาเกะขนาดเล็ก เทคนิคที่มีการเคลื่อนไหวคล้ายกัน ได้แก่ ไบโคชิกาเอชิและอุจิมาตะ กะเอชิแต่วิธีจัดการกับร่างกายและจังหวะเวลาจะแตกต่างกัน
แท้จริงแล้ว มันเป็นเทคนิคที่คุณจับคู่ต่อสู้ด้วยมือตกปลา กวาดขาพวกเขา แล้วโยน
ในความเป็นจริงเขากวาดขาของเขาเหมือน ชิซูโคมิ-อาชิ ในขณะที่หักคู่ต่อสู้เข้าที่มุมขวาหน้า
เทคนิคการ กวาดเท้าขณะจับปลาด้วยมือตกปลา
เมื่อคุณจับปลาด้วยมือตกปลาและปล่อยให้ขาลอยน้ำ มีสองวิธีในการกวาดขาของคุณ
รูปร่างที่กวาดขาไปทางด้านคนตกปลา เพื่อที่จะพังทลายลง คู่ต่อสู้จะสูญเสียการทรงตัว เท้าลอย หรือทั้งสองอย่าง และคู่ต่อสู้จะล้มลงด้วยการกวาดเท้า
รูปทรงที่กวาดเท้าไปทางด้านตัวดึง หมุนตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกา
เทคนิคการกวาดเท้า มีสี่ประเภท เช่นโทโมเอะ นาเกะ , ขาขวา/เท้าขวา , ขาขวา/ขาซ้าย , ขาซ้าย/ขาขวาและขาซ้าย/ขาซ้าย (หากคุณรวมทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน ของอัย 4 อัน และเคนกะ คุมิเทะ 4 อัน) 8 ลาย)
ในแง่ของวิธีใช้คุมิเทะนั้นชิซูริโคมาชิจะหมุนโดยใช้มือทั้งสองข้าง (มือตกปลา และตัวดึง) ในขณะที่เวทซูริโคมิอาชิจะหมุนด้วย มือข้างเดียว (มือตกปลา)และตัวดึงจะถูกลดระดับลงเพื่อเสร็จสิ้น มีความแตกต่าง .
ดังนั้น ตรงกันข้ามกับ ชิซูริ โคมิอาชิที่จะขว้างได้ง่ายกว่าเมื่อคุณดันเข้า (ไปข้างหน้า) หรือเมื่อคู่ต่อสู้ดึงกลับ (ถอยหลัง)
เป็นสึริโคมิวาซา ประเภทหนึ่ง เหมือนกับสึริโกมิโกชิและโซเดะ สึริโกมิโกชิที่ เหมือนกัน และ ยังเป็นเทคนิคประเภทอาตาริวาริอีกประเภทหนึ่งด้วย เช่น เดอาชิไกและเซน อาชิไก
เทคนิคที่คุณตัดขาด้านนอกของคู่ต่อสู้เข้ากับด้านในของขาของคุณเอง ด้วยการเคลื่อนไหวด้านหน้า ย้ายคู่ต่อสู้ของคุณไปที่มุมหลังขวา (ซ้าย) เพื่อให้น้ำหนักของคุณอยู่ที่ส้นเท้าทั้งสองข้าง จากนั้นใช้กำลังตัดพื้นที่เหนือส้นเท้าขวา (ซ้าย) เล็กน้อยในทิศทาง ของนิ้วเท้า
ทิศทางการหักและขาของผู้ตัดจะเหมือนกับ โอโซโตะการิแต่ขาที่ใช้ในการตัดจะตรงกันข้าม ดังนั้น ไม่เหมือนกับโอโซโตะคาริที่ต้องก้าวไปด้านข้างของร่างกายให้ไกล แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่กะทัดรัดจากด้านหน้า
นอกจากนี้ยังสามารถดูได้ว่าเป็น Deshi-wakeที่ทิศทางของการโจมตีกลับด้านและลักษณะของเทคนิคจะคล้ายคลึงกับสิ่งนี้ (รายละเอียดจะอธิบายภายหลัง)
หนังสือยูโดสำหรับผู้เริ่มต้นมักอธิบาย ``การตัดโดยใช้ส่วนโค้งของเท้าซ้าย'' แต่ที่แม่นยำกว่านั้น ต้องใช้การเคลื่อนไหวอย่างประณีตโดยการวางปลายฝ่าเท้าแนบกับส้นเท้าของคู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นเรื่องยาก แพง.
เทคนิคนี้มักจะตัดสินใจโดยการตัดเมื่อ คู่ต่อสู้ก้าวเข้ามาด้วยเท้าขวาของเขาหรือเธอ เช่น ล้ม ตัวลงหรืออุจิมาตะ
เทคนิคที่คล้ายกัน คือ โคโซโตะ-กาเกะซึ่งเกี่ยวข้องกับการลึกลงไปอีกและเหวี่ยงทั้งตัวไว้ใต้เข่า นอกจากนี้ แม้ว่ามันจะห้อยอยู่บนขาตรงข้ามของคู่ต่อสู้ ก็เรียกว่า โชโตกาเกะ[ ต้องการอ้างอิง ]
แบบฟอร์มนี้เกิดขึ้นเมื่อลูกบอลลึกเกินไประหว่างOsotogari [ ต้องการอ้างอิง ] แต่ มันเหมือนกับuranage มากกว่า [ ต้องการอ้างอิง ]
แม้ว่าโคโซโต มากิโคมิจะไม่ ได้ รับ การยอมรับว่าเป็นเทคนิคอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีรูป แบบคล้ายกับเทคนิคประเภทอาชิ-วาชิ (เด-อาชิ-ไก, โอ-อาชิ-ไก และวัตสึริ-ไก) Shitsuri-komi -ashi , Tsubame- gaeshi ) เพื่อติดอาวุธtsutsujuji-gatari ( ต้องการอ้างอิง )และเทคนิคสไตล์ sho-gai ของYukinari Nakamura ที่เกี่ยวข้องกับการล้มไปข้างหลัง (sho-soto-gari, sho -gaeshi) มี(โดยเฉพาะโซโต-การิตัวเล็กที่ดี), ukiwaza และ yaotoshi [ ต้องการอ้างอิง ]
สิ่งที่คล้าย กัน อื่น ๆ ได้แก่yokogake และ yokoochi [ ต้องการอ้างอิง]
Kosotoguruma ( kosotoguruma )มีเท้าเพิ่มเข้ามาที่เส้นชัยแต่ก็ มีส่วนรองรับด้วย
นอกจากนี้ยังมีช่องทางในการติดต่อShutsuri Komi Ashi [ ต้องการอ้างอิง ]
ในกีฬาซูโม่การตัดจะเทียบเท่ากับโชโตการิ
ความแตกต่างจาก Deashi Pay
แก้ไข
เป็นเทคนิคที่มักจะใช้ร่วมกับเดอาชิไก แต่สิ่งที่แตกต่างจากโชโตการิมีดังนี้ (อธิบายทางด้านขวา)
- - โคโซโทการิ การชำระเงินเปิดตัว
เท้าขวาของคู่ต่อสู้ ทันทีที่เท้าของคุณชนเสื่อทาทามิและลงน้ำหนักลงบนเสื่อทาทามิ ทันทีที่ เท้าของคุณกระทบเสื่อทาทามิและน้ำหนักของคุณเริ่มลดลง (คุณยังเอาชนะมันไม่ได้เต็มที่)
แขวน วางฝ่าเท้าซ้ายไว้บนส้นเท้าขวาของคู่ต่อสู้ วางฝ่าเท้าซ้ายไว้บนส้นเท้าขวาของคู่ต่อสู้
ล้มยังไง. กางขาของคุณและล้มลงตรงๆ จะถูกยกขึ้นและล้มลง
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เดชิงไกและโคโซโตไกมีความแตกต่างกันเล็กน้อย และแม้แต่ผู้ตัดสินอย่างเป็นทางการก็ตัดสินได้ยาก หนังสือยูโดเก่าเล่มหนึ่งอธิบายโคโซโตการิดังนี้
หนังสือเรียน เวลา วิธีการตัด
"ภาพประกอบคู่มือยูโดยอดนิยม" เมื่อฉันพยายามก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าและใช้ความพยายามมากขึ้น เหมือนเคียว
“การสอนยูโด” เมื่อน้ำหนักตัวของคู่ต่อสู้ไม่ได้อยู่ที่ปลายเท้าขวา แต่อยู่ที่ส้นเท้า งอนิ้วหัวแม่มือของคุณเป็นรูปเคียว
"คู่มือยูโด" ช่วงเวลาที่ขาหน้ายื่นออกมา ขาหลังจะล้าหลัง และน้ำหนักของร่างกายจะถูกส่งไปยังขาหน้า และขาหลังกำลังอุ้มสัตว์ไว้ ตีส่วนโค้งของเท้า
“คำอธิบายอุตสาหกรรมการจับสัตว์” ช่วงเวลาที่คู่ต่อสู้ของคุณก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าขวาและตอนนี้วางน้ำหนักของเขาไว้บนเท้านั้นและพยายามกระทืบมันบนเสื่อทาทามิ เหมือนเคียว
"ยูโดไทคัง" ทันทีที่คุณก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าขวาและวางน้ำหนักของร่างกายไว้ที่เท้าขวานั้น งอนิ้วหัวแม่มือของคุณเหมือนเคียว
“คำอธิบายคำสอนห้าประการ” ช่วงเวลาที่น้ำหนักตัวของคุณวางอยู่บนส้นเท้าของคู่ต่อสู้ โค้งเป็นรูปเคียว
“บทสรุป/ตำรายูโด”
วิธีที่ดีที่สุดคือใช้กรณีที่ในขณะที่คู่ต่อสู้ของคุณยื่นเท้าออกมา เขา/เธอไม่ได้วางน้ำหนักให้กับคุณมากพอ และแม้ว่าคุณจะบอกว่าเขา/เธอถูกตัดหญ้าแล้ว เขา/เธอก็กำลังจะ ลงน้ำหนักตัวคุณจนไม่สามารถยกขาหนีได้ อย่าเร็วเกินไปหรือสายเกินไป โค้งงอเหมือนเคียว
"หลักสูตรยูโด" เมื่อจุดศูนย์ถ่วงของคู่ต่อสู้อยู่ที่ส้นเท้าด้านหลังของเท้าที่ยื่นออกมาหรือที่ส้นเท้าด้านหลังของเท้าทั้งสองข้าง งอเหมือนเคียว
"โคโดกังยูโด" ขยับตัวของ uke ไปทางมุมขวาด้านหลังเพื่อให้วางอยู่บนส้นเท้าทั้งสองข้าง หมุนด้านในของเท้าเหมือนใบมีดเคียว
“สิบบรรยายเรื่องยูโด” เลื่อนตำแหน่ง uke ของคุณไปที่มุมขวาด้านหลังแล้วพัง
“แก่นแท้ของยูโด: วิถีและเทคนิค” ช่วงเวลาที่น้ำหนักของคุณบางส่วนอยู่บนขาโปน และจุดศูนย์ถ่วงของคุณยังคงไม่แน่นอน เป็นรูปเคียว
แบ่งโอกาสเป็นวงกว้าง
จังหวะที่อูเกะก้าวเท้าขวาและเริ่มวางน้ำหนักลงบนเท้าขวา
ทันทีที่อูเกะก้าวด้วยเท้าขวาแล้ววางน้ำหนักลงบนนั้น ส้นเท้าขวาหรือส้นเท้าทั้งสองข้างก็ทรุดลง
สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วน อย่างไรก็ตาม อย่างแรกนั้นเป็นเวลาเดียวกับเดอาชิไกทุกประการ ทำให้ยากต่อการตัดสิน ดังนั้น จากการพิจารณาที่ Kodokan ฉันทามติก็คือ ``โอกาสในการประยุกต์เทคนิค'' ของ Kotogari จึงเป็นอย่างหลัง
รูปแบบพื้นฐานของการขว้าง จะคล้ายกับ โชโตการิโดยคุณจะใช้ด้านในของขาเพื่อโจมตีด้านนอกของขาของคู่ต่อสู้ อาจกล่าวได้ว่าเป็น เพียง กลุ่ม[ citation need ] มีความแตกต่างจาก Kotogari ดังต่อไปนี้
โคโซโทการิ
ขั้นแรก อ้อมฝั่งของคู่ต่อสู้ หย่อนส้นเท้าของคู่ต่อสู้ แล้ววางเท้าของคุณไปด้านหลังขาของคู่ต่อสู้ (โดยส่วนใหญ่ คือด้านหลังของน่อง ข้อเท้า หรือเอ็นร้อยหวาย) จากด้านข้าง แล้วพยายามหนีบ จากด้านหลัง ( (เลื่อนขา) แล้วหย่อนลงตรงๆ
แขวนด้านนอกขนาดเล็ก
จากด้านหน้า คุณเกี่ยวขาหรือเท้าไว้ด้านหลังขาหรือเท้าของคู่ต่อสู้ จากนั้นวางลงบนส้นเท้าของคู่ต่อสู้ แล้วเหวี่ยงในลักษณะที่ทำให้คู่ต่อสู้ล้มลง
หากคุณพยายามโจมตีโออุจิการิมัน จะส่งผลให้ โออุจิกาเอชิ
สำหรับรายละเอียด โปรดดูที่ " โออุจิคาเอชิ "
แขวนอยู่ข้างนอก
แก้ไข
โซโตกาเกะ[1] คือโซโตกาเกะขนาดเล็ก ที่เอียงอูเกะไปด้านข้าง ยกไหล่ซ้ายของ Uke ขึ้นอย่างแรงโดยใช้มือขวาของมือตกปลา ดึงมือซ้ายของที่จับโดยจับแขนเสื้อขวาของ Uke ลง และทำให้ Uke ทรุดตัวลงทางด้านขวาของ Uke ด้วยการเคลื่อนไหวของมือทั้งสองข้างคล้ายกับ Ukibuki ยกขาซ้ายขึ้นแล้วเกี่ยวเข้ากับขาขวาของ Uke จากนั้นลดระดับ Uke ไปทางขวาของ Uke
เทคนิคที่คุณตัดขาของคู่ต่อสู้จากด้านในโดยใช้ขาของคุณเอง
เป็นเทคนิคที่ขาข้างหนึ่งซึ่งเป็นที่วางน้ำหนักอยู่จะถูกหนีบจากด้านในเข้าหาตัวคุณเพื่อดึงขาลง[ 1] ในกรณีของ การจัดกลุ่มด้วยมือขวา คู่ต่อสู้ (อูเกะ) จะถูกผลักไปด้านหลังหรือที่มุมขวาด้านหลังโดยตรง และส้นของเท้าขวาของอูเกะจะถูกหนีบเข้าหานิ้วเท้าใกล้กับส่วนโค้งของเท้าขวา (โทริ) ของคุณ และ คู่ต่อสู้ถูกผลักไปข้างหลัง หากคุณกำลังจะห้อยตัวขณะลดตัวลง ให้ใช้ด้านหลังดึงขาขวาของคู่ต่อสู้ออก เหวี่ยงตัวไปทางซ้าย และใช้ฝ่าเท้าขวาตัดขาขวาของคู่ต่อสู้จากด้านในไปทางนิ้วเท้า
เคล็ดลับในการป้องกันเทคนิคนี้คือการผ่อนคลายขา หากคุณใช้กำลัง พลังของคู่ต่อสู้จะถูกส่งไปยังร่างกายส่วนบนของคุณ ทำให้คุณล้มลงได้ง่ายขึ้น หากคุณปล่อยพลังออกไป พลังของคู่ต่อสู้จะถูกส่งไปที่ขาที่เกาะอยู่บนคุณเท่านั้น และคุณจะสามารถต้านทานมันได้อย่างง่ายดายและเอามันออกไปอีกครั้ง
มีหลายรูปแบบเนื่องจากง่ายต่อการสื่อสารกับ Ouchi-gari , Uchi-mata , Sei-nage ฯลฯ
คาโอรุ ยามากุจิ หรือที่รู้จักในชื่อ ซันชิโระ อนนะ เชี่ยวชาญเทคนิคนี้
Chonkake เป็นเทคนิคที่เป็น เอกลักษณ์ ของ ซูโม่ ที่ เทียบเท่ากับkonouchi-gari
ชำระเงินที่บ้าน
แก้ไข
โคอุจิบาไรคือโคอุชิบาริซึ่งขาข้างหนึ่งซึ่งเป็นที่วางน้ำหนักของคู่ต่อสู้จะถูกกวาดจากด้านในไปด้านนอกด้วยด้านในของขาของคุณเอง[ 2]
นักฆ่าสองมือ โคจิการิ
แก้ไข
เรียวเทโคโรชิ โคจิการินักฆ่าสองมือคว้าแขนเสื้อของคู่ต่อสู้ทั้งสองข้าง และทันทีที่เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าขวา เขาก็เกี่ยวเท้าขวาเข้ากับส้นเท้าขวาของคู่ต่อสู้ และในขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายคว้าตัว มือขวาของคู่ต่อสู้ที่สะดือของคู่ต่อสู้ และใช้มือขวาดันมือซ้ายของคู่ต่อสู้ขึ้นไปบนไหล่ขวาของคู่ต่อสู้ โคอุจิคาริดึงขาขวาของคู่ต่อสู้ที่ติดตะขอไว้ระหว่างขาแล้วดันร่างกายส่วนบนของคู่ต่อสู้ ความพิเศษของเคอิชิจิ อิชิงุโระ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าอิชิงุโระ โนะโค อุจิการิ[3]
รถโคจิ
แก้ไข
Kochigurumaเป็นรูปแบบหนึ่งของ Kouchigari ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่เป็นทางการและสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคนี้ได้ แต่เมื่อคุณห้อยขาและใช้เป็นจุดศูนย์กลางจะมีความขี้เล่นน้อยกว่าโคโซโทการิ , โคโซโทกาเกะ , โอโซโทการิ และ โอโซโตะโอโทชิซึ่ง ง่ายเรื่องเป็นต่อสู้คู่ทำให้ [ ต้องการการอ้างอิง ]
เทคนิคการคืนสินค้า
แก้ไข
ในบรรดา เทคนิคคาเอชิมีสองเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงสำหรับโคโนอุจิ-กาเอชิ: โคโนะ อุจิ-กาเอชิ และโคโนอุจิ-คาริกาเอชิ เทคนิคการตอบโต้อื่น ๆ ได้แก่ : อธิบาย การเคลื่อนไหว ทาง ด้านขวา
กลับมาพร้อมกับ เดอาชิไก - หลบขาขวาของคู่ต่อสู้ที่มาตัดหญ้าแล้วกวาดขานั้นด้วยเท้าซ้ายแล้วขว้าง
กลับด้วย เกวียนเข่า - หลังจากหลบขาขวาของคู่ต่อสู้ที่มาตัดหญ้าโดยลอยขาขวาแล้ว ให้วางขาขวาที่ยกไว้บนเข่าของขาเดือยของคู่ต่อสู้ (ขาซ้าย) แล้วบิดไปข้างหน้าเพื่อขว้าง
ตอบกลับ คุจิกิไท - จับขาขวาของผู้มาเกี่ยวด้วยมือซ้ายแล้วกดลง หากขาเดือยที่เหลือถูกตัดจากด้านในก็จะกลายเป็นโออุจิคาริ
กลับมาพร้อมกับ Kouchi-gari - รูปแบบที่คุณหลบขาของคู่ต่อสู้เช่น Tsubame- gaeshi แล้วกลับมาพร้อมกับ Kouchi-gari เป็นการตอบแทน
กลับมาพร้อมกับ Kouchi-gari - กลับมาพร้อมกับ Kouchi-gari ไปยัง Kouchi-gari ของคู่ต่อสู้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง โยนโคอุจิการิของคู่ต่อสู้โดยผลักกลับด้วยโคอุจิการิของคุณเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันเป็นเทคนิคที่ไม่ใช่การต่อยสวนกลับแต่เป็นการเตะโต้กลับใส่คาริ โคนูจิ
เป็น เทคนิค การกวาดเท้า แบบหนึ่ง
เทคนิคที่คุณลากคู่ต่อสู้ไปด้านข้างแล้วกวาดขาของพวกเขาออกก่อนที่จะขว้าง
หากคุณเหวี่ยงคู่ต่อสู้จากตำแหน่งไขว้ได้สำเร็จ จะมีช่วงเวลาที่ขาทั้งสองข้างของคู่ต่อสู้ลอยขึ้นไปในอากาศ และนี่คือเทคนิคที่คุณจับภาพช่วงเวลานั้นและกวาดขาของคู่ต่อสู้ราวกับกำลังส่ง พวกเขาปิด
หรือจะขว้างได้ง่ายกว่าถ้าคุณตั้งเป้าไปที่จังหวะที่เท้าทั้งสองประสานกัน
เนื่องจากคุณสามารถชำระเงินได้ทั้งทางซ้ายและขวา การชำระเงินจึงมีสองวิธี
ปฏิบัติตามทิศทางการเคลื่อนไหวหรือกวาดเท้าราวกับจะผลักมัน
หากคุณกวาดเท้าในลักษณะที่ทำให้ คุณสะดุดจากทิศทางการเคลื่อนไหว (ตรงกันข้าม) มันจะดูเหมือนโซโตการิตัวเล็กโซโตกาเกะตัวเล็ก หรือ จะกลายเป็นชิซูริโคมิ-อาชิ
เทคนิคนี้ช่วยให้คุณสามารถล้มคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กวาดขาข้างหนึ่งของพวกเขา ดังนั้นหากคุณเชี่ยวชาญ คุณสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ตัวใหญ่ได้ด้วยแรงเพียงเล็กน้อย
จะดียิ่งขึ้นไปอีกหากคุณหันเท้าให้เพียงพอและแปรงด้วยฝ่าเท้า
แม้แต่ในการแข่งขัน มีหลายกรณีที่ผู้เล่นที่มีความสามารถแตกต่างกันจะพ่ายแพ้โดยการส่งคู่ต่อสู้ ทำให้เกิดการพลิกคว่ำได้ง่าย
โคอุจิ คาริกาเอชิ
แก้ไข
โคจิการิกาเอชิเป็นเทคนิคการคืนตัวของโคจิการิ เมื่อคู่ต่อสู้ของคุณใช้เท้าขวาโจมตีขาขวาของคุณให้ใช้เท้า ขวา ปัดขาซ้ายของคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นขาหลักของพวกเขาออกไป[1]
เทคนิคประเภทโอโตการิŌtogari , Ōtootoshiและเทคนิคคาเอชิ ถึงŌtoguruma [1]ซึ่งเป็นเทคนิคประเภทหนึ่งที่จะนำมาใช้ในภายหลัง เทคนิคการขว้างคือเมื่อคู่ต่อสู้ไม่พังเพียงพอและบังคับให้ใช้โอโซโทการิ ฯลฯ กับคู่ต่อสู้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง โอโซโทการิของคู่ต่อสู้จะถูกผลักกลับพร้อมกับโอโซโทการิและพ่ายแพ้ มัน นี่เป็นเทคนิคที่ทำหน้าที่เป็นการเตะโต้กลับแทนที่จะเป็นการต่อยต่อฝ่ายตรงข้ามเช่น โอโซโทการิ
เช่นเดียวกับ Ōtogariคุณใช้ด้านนอกของขาเพื่อโจมตีด้านนอกของขาของคู่ต่อสู้ แต่ในขณะที่ Ōtogari ตัดขาข้างหนึ่ง แต่ อัน
ผมจะอธิบายโดยใช้เทคนิคที่ถูกต้อง
ใช้มือซ้ายจับใต้รักแร้ขวาของ uke และใช้มือขวาจับปลอกคอด้านหลังจากด้านซ้ายของ uke
ใช้เท้าซ้ายก้าวลึกเข้าไปในด้านนอกของขาขวาของ Uke จากนั้นผ่านระหว่างเท้าซ้ายกับขาขวาของ Uke แล้วเหยียดขาขวาออกไปทางด้านหลังขาของ Uke
จับคางของ Uke จากด้านล่างโดยให้ศอกขวาด้านในแล้วหันกลับมา
เมื่อปล่อยน้ำหนักบนขาขวาของ Uke แล้ว ให้วางน่องขวาบนน่องซ้ายของ Uke จากนั้นหมุน Uke ไปข้างหลังโดยตรงโดยใช้ขาขวาเป็นแกน แล้วดึงเขาลง
เทคนิคนี้มีโอกาสสูงที่จะตกลงมาจากด้านหลังศีรษะ ดังนั้นอูเกะจึงควร จับ อูเคมิอย่างเหมาะสม และโทริควรดึงที่จับให้เพียงพอก่อนที่อูเกะจะไปถึงเสื่อทาทามิ
เทคนิคที่คุณหันหลัง วางขาที่เหยียดออกระหว่างต้นขาและเอวเป็นจุดศูนย์กลาง และใช้การหมุนสะโพกเพื่อหมุนคู่ต่อสู้ไปรอบๆ แล้วขว้าง หากคุณวางเท้าบนข้อเท้าของคู่ต่อสู้แล้วเหวี่ยงมันอย่างบิดเบี้ยว มันจะกลายเป็น ลูกล้อ
มากิโคชิ
แก้ไข
มากิ โกชิ เป็นเทคนิคการขว้างโดยงอขา โดยให้เอวของคู่ต่อสู้อยู่ระหว่างนั้น และคู่ต่อสู้จะถูกเหวี่ยงเหมือนลูกล้อ ได้รับการตีพิมพ์ใน หนังสือ ``ยูโดสไตล์ใหม่'' ใน ปี พ.ศ. 2469 [1 ]
เปรียบเทียบกับฮารุโกชิ
แก้ไข
การเคลื่อนไหวจะคล้ายกับ ไฮโคชิแต่มีข้อแตกต่างดังต่อไปนี้
รถใหญ่
เขา หลังขาของเขาและไม่อนุญาตให้คู่ต่อสู้ของเขาพักบนสะโพกของเขา
ส่งผลให้ดูเหมือนแกว่งใส่คู่ต่อสู้
วางเท้าของคุณระหว่างต้นขาและเอว ของคู่ต่อสู้ เหยียดเท้าตรง ใช้เป็นจุดศูนย์กลาง และหมุนสะโพกเพื่อเหวี่ยง
เหตุผลที่ไดกุรุมะใช้ท่าถอยหลังก็เพราะว่าถ้าเขาใช้ท่าถอยหลัง เขาอาจจะสามารถเล่นโดยมีระยะห่างระหว่างตัวเขากับคู่ต่อสู้ได้ ทำให้ง่ายต่อการเข้าสู่เทคนิคต่างๆ
นี่เป็นหลักการเดียว กับ อุกิโกชิ ( อุกิโกชิ คือการเคลื่อนไหวถอยหลัง)
การชำระเงิน
เขาใช้ การเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเพื่อก้าวไปข้างหน้าและวางคู่ต่อสู้ไว้ที่สะโพก
วางเท้าบนเข่า ของคู่ต่อสู้ จากนั้นกวาดเท้าไปด้านหลังแล้วโยน
นอกจากนี้ยังมีความหมายในการทำให้เข้าสู่เทคนิคได้ง่ายขึ้น และนี่คือหลักการเดียวกับโอโกชิ ( ฮาเอโกชิและโอโกชิ เป็นเทคนิคนักรบแนวหน้าเดียวกัน)
ทั้งโอกุรุมะและฮาเรโกชิมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติซึ่งใช้ในไมโคมิฮาเรโกชิ วิดีโอแนะนำ Daisha บนช่อง YouTube KODOKAN เป็นเพียงการแนะนำการจัดการร่างกายนี้เท่านั้น
Oguruma / O-guruma - YouTube KODOKAN Channel
เป็นเทคนิคหนึ่งของการตัด ขา คู่ต่อสู้แล้วขว้าง[1 ] เทคนิคที่คุณตัดขาด้านนอกของคู่ต่อสู้ด้วยขาด้านนอกของคุณเองแล้วขว้าง ในเวลานี้ ให้ตัดขาที่ยกขึ้นเหมือนลูกตุ้ม โยนได้ง่ายกว่าโดยใช้ หลักการงัด เช่น การกระโดดเข้าไปในกระเป๋าของคู่ต่อสู้เมื่อตัดหญ้าและหมุนกระดานหกหรือใบพัด
ตัวอักษรขนาดใหญ่และเล็กในชื่อ เทคนิคการตัด (ชื่อเทคนิค) บ่งบอกถึงด้านนอกและด้านในของขาของคุณเอง และตัวอักษรด้านในและด้านนอกบ่งบอกถึงด้านนอกและด้านในของขาของคู่ต่อสู้ ดังนั้น หากคุณตัดด้านในของขาของคู่ต่อสู้ด้วยด้านนอกของขาของคุณเองมันจะเป็นโออุจิการิ ด้วยวิธีนี้ ชื่อของ เทคนิคการตัดจะถูกกำหนดโดยการรวมกันของขาด้านนอกและด้านในของกันและกัน (ไม่ว่าขาของกันและกันจะอยู่ด้านในหรือด้านนอกนั่นคือการรวมกันของด้านที่สัมผัสของขาของกันและกัน)
ต่อไปนี้จะอธิบายกรณีของชุดมือขวา (ในกรณีของ ชุดมือซ้ายด้านซ้ายและด้านขวาจะกลับกัน) ขณะก้าวขาซ้ายไปข้างหน้าไปทางซ้าย ให้ดึงตัวดึง (มือซ้ายจับแขนเสื้อ) ให้สูงแล้วใช้มือตกปลา (มือขวาจับคอเสื้อ) เพื่อดึงคู่ต่อสู้เข้าหาคุณเพื่อให้หน้าอกสัมผัสกัน จากนั้นดัน คู่ต่อสู้ที่อยู่ข้างหลังคุณหรือทางขวาของคุณ ถอยไปข้างหลัง จากนั้น เหวี่ยงขาขวาขึ้นจับขาขวาของคู่ต่อสู้ไว้รอบ น่องหรือเอ็นร้อยหวาย แล้วเหวี่ยงไปด้านหลังหรือไปทางขวาของคู่ต่อสู้โดยตรง
เนื่องจากธรรมชาติของเทคนิคนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่บุคคลนั้นจะหล่นจากด้านหลังศีรษะ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการสอนเทคนิคนี้ คู่ต่อสู้ จะต้องมีความเชี่ยวชาญใน อุเคมิเพียงพอเพื่อป้องกันการถูกกระทบกระแทก มีอุบัติเหตุเกิด ขึ้น ที่ผู้เล่นถูกตีที่ด้านหลังศีรษะและเสียชีวิตระหว่างฝึกซ้อม[2] [3]
โดยทั่วไป เทคนิคนี้มักใช้โดยนักกีฬารายใหญ่[1]แต่ ก็มีนักกีฬาน้ำหนักปานกลางเช่น มาซาฮิโกะ คิมูระและโชเฮ โอโนะ เก่งด้านโอโซโทการิด้วย
โอโซโตะโคชิ