When I turn to Loli
ผู้เขียน: ปฏิพัทธิ์ ปิ่นรัตน์
โลกที่แสนรุนแรง โลกที่แสนไร้สาระ โลกที่แสนปัญญาอ่อน
มนุษย์กล้าเรียกตัวเองว่า'สัตว์อัญประเสริฐ'กล้าบอกว่ามนุษย์ต่างจากเดรัจฉาน ทั้งที่เราวิวัฒนาการมาจากเดรัจฉาน อันที่จริงพวกทุกคนเราวิวัฒนาการมาจากอะไรที่ต่ำกว่านั้น อันที่จริงพวกเราทุกคนวิวัฒนาการมาจากอะไรต่ำๆ จุลินทรีย์ เชื้อรา แบคทีเรีย สาหร่าย อาร์เคีย โพรทิสต์ ไวรัส สารพันธุกรรม อาร์เอ็นเอ ดีเอ็นเอ โปรตีน กรดอะมิโน มหาสมุทรแห่งแรกสุดของโลกในวันเกิดของมหาสมุทรแห่งนั้นจะหาฟองน้ำได้ไม่ซักตัวด้วยซ้ำ การแบ่งแยกสูงต่ำ การรู้จักที่ต่ำที่สูง ล้วนเป็นแนวคิดอันปัญญาอ่อนและไร้สาระ บันไดหรือลิฟต์มีไว้เพื่อให้คนเดินถึงที่สูงๆได้มิใช่หรือ หากคนผู้หนึ่งมิปีนภูเขาทั้งที่อยากปีนภูเขาเพราะคิดว่าตัวเองนั้นต่ำคนผู้นั้นจะมองเห็นโลกที่กว้างขึ้นใหญ่ขึ้นหรือ? คนผู้นั้นคงเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่เห็นความจริงของโลก
สูงต่ำ ควรไม่ควร มารยาท กฎ กฎหมาย รวมถึงระบบอะไรต่างๆ ที่มนุษย์มักกล่าวอ้างว่าจะทำให้โลกนี้ดีขึ้นคนที่ฉลาดจะรู้ว่ามันเป็นแค่ตู้หนังสือไร้คุณภาพและหนังสือที่เก็บในตู้นั้นก็เละเทะ และกฎแลกฎหมายทั้งหมดที่ควรจะทำให้โลกนี้ดีขึ้น ไม่ใช้คนใช้กฎหมายที่ทำให้โลกนี้แย่ลง ตัวกฎหมายเองต่างหากที่ทำให้โลกนี้แย่ลง
มีชายหนุ่มหน้ารูปไข่ผมดำ ผมสั้นแต่ไว้ผมด้านหน้ามาถึงคิ้ว คิ้วเกือบใหญ่ คิ้วซ้ายแหว่ง สูง180เซนติเมตร มีปานที่คอและข้อมือซ้ายมองเห็นว่าโลกนี้แท้จริงไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่สวยงามแต่เป็นแอปเปิ้ลเน่าที่น่ารังเกียจเฟะทั้งลูก ชายหนุ่มผู้นั้นมีชื่อว่า จอห์นนี่ ดาร์กเนส ใส่ชุดสูทดำตลอดเวลา แต่แม้จะเห็นโลกเป็นแอปเปิ้ลเน่าเขาก็รู้เช่นกันว่ามนุษย์ไม่สามารถปรับปรุงด้วยตัวของตัวเองให้ดีขึ้นไปกว่าเดิมได้และถ้ามีคนบอกมนุษย์จะปฏิเสธ ไม่รับฟัง ไม่ยอมรับ และจะบอกว่าตัวเองนั้นถูกและดีโดยไม่คิดจะเก็บความรู้ เพราะมนุษย์มักยึดถือความคิดที่ว่า ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องให้รกสมอง รู้เท่าที่ควรรู้ แต่เอาเข้าจริง อุบัติเหตุ เหตุดราม่า การฆาตกรรม การพนัน หนี้สิ้น มิใช่ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากจากความไม่รู้ไม่คิดความไม่ระวังความไม่เคยคาดคิดว่สมันอาจเกิดขึ้นซักวันมิใช่หรือ? ในยามที่โลกทั้งใบติดเชื้อไวรัสก็อปปี้ดีเอ็นเอและกระจายออกมาเป็นไวรัสตัวใหม่กระจายติดไปเซลล์อื่นโลกทั้งใบก็เต็มไปด้วยไวรัส โลกทั้งใบก็ถูกไวรัสทำลาย แล้วโลกทั้งใบก็ตาย จอห์นนี่ ดาร์กเนสมองเห็นทั้งหมดนี้ แต่มนุษย์ยังไม่เห็น โลกนี้กลับเป็นอะไรแบบเดิมๆ เรื่องเดิมๆมีให้เห็นอยู่ในข่าวทุกวัน ดูข่าวทีวีแค่ช่องเดียวก็แทบจะรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนึ่งวันของทั้งประเทศแล้ว จอห์นนี่ ดาร์กเนสจึงตระเตรียมอะไรบางอย่างเอาไว้เพื่อเปิดตามนุษย์ จอห์นนี่ซื้อกรดไนตริกกับกรดซัลฟิวริกมาจากร้านขายสารเคมีจากนั้นเขาไปที่บ้านร้างหลังหนึ่ง เขาถอนหญ้าหักกิ่งไม้จำนวนมากไปใส่ไว้ในอ่างคอนกรีตในห้องน้ำของบ้านร้างหลังนั้นจากนั้นเขาก็เทกรดไนตริกกับกรดซัลฟิวริกลงไปบนหญ้ากับกิ่งไม้ที่อยู่ในอ่างคอนกรีตนั้นแล้วเขาก็รอเวลา จากตอนเช้ามืดไปจนถึงกลางคืน จอห์นนี่เปิดไฟฉายจากโทรศัพท์เข้าไปในห้องน้ำ เขาได้ไนโตรเซลลูโลสซึ่งเขาจะใช้เป็นระเบิด จอห์นนี่เก็บไนโตรเซลลูโลสไว้ในถังโลหะที่เขาเตรียมมาแล้วปิดฝาถังไว้
เที่ยงคืนของอีกวันจอห์นนี่ ดาร์กเนสในสภาพปลอมตัวเป็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลแดงเป็นลอนยาวถึงกลางคอใส่เสื้อคอเต่าสีแดงเสื้อคลุมสีขาวมาถึงห้างทองแห่งหนึ่ง ห้างปิดแล้ว เขาใช้กระดาษเจาะรูเป็นตัวอักษรที่เขาเตรียมเอาไว้วางลงกับพื้นหน้าห้างทอง เทสีทับ ลอกเอากระดาษออกเป็นข้อความว่า 'ถ้าอยากปล้นเงินร้อยล้านบาทให้มาที่บ้านร้างกลางทุ่งหญ้าร้างที่อำเภอนครหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยานี่แค่แสดงฝีมือให้ดูเท่านั้นและนี่ยังไม่ได้ทุ่มสุดกำลังถ้าทุ่มสุดกำลังผมทำได้มากกว่านี้' จอห์นนี่ใช้เสียมที่เตรียมมางัดฝาท่อระบายน้ำออก ลงไปในท่อ วางถังไนโตรเซลลูโลสจำนวนสิบถัง ถังไนโตรเซลลูโลสทุกถังมีชนวนเป็นของตัวเองแต่ปลายของชนวนทุกเส้นถูกมัดติดรวมกัน จอห์นนี่ขึ้นจากท่อระบายน้ำใช้ไฟแช็กจุดชนวนจากนั้นเขาก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วและเงียบ ฝั่งห้างทอง ถังไนโตรเซลลูโลสทั้งสิบถังในท่อระบายน้ำระเบิดขึ้นพร้อมกันทำให้ฐานรากของห้างทองเสียหายน้ำในท่อระบายน้ำทะลักเข้าฐานรากของห้างทองจนฐานทรุดไปทั้งแถบแล้วห้างก็พังจากฐานรากที่พังทลายนั้น นับตั้งแต่เกิดการระเบิดขึ้นทุกคนในแถบนั้นล้วนสะดุ้งตกใจตื่นกันหมด เช้าวันรุ่งหนึ่งเรื่องห้างทองโดนระเบิดฐานรากนั้นก็กลายเป็นข่าวดังทางทีวีไปทั่ว สภาพห้างทองที่พังและข้อความที่ถูกเขียนไว้บนพื้นหน้าห้างทองเป็นที่รู้กันทั่ว จอห์นนี่ ดาร์กเนสที่นั่งดูข่าวทีวีในเช้าวันนั้นหัวเราะแบบไม่มีเสียง
ทางฝั่งตำรวจที่สืบสวนคดีนี้ออกเสาะหาบ้านร้างกลางทุ่งหญ้าร้างในอำเภอนครหลวงทจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งตำรวจเจอบ้านร้างกลางทุ่งหญ้าร้างที่ว่า ตัวบ้านเป็นบ้านร้างสองชั้น เมื่อตำรวจเดินเข้าไปในทุ่งหญ้าที่เป็นที่ตั้งของบ้านร้างตำรวจหลายนายตกลงไปในหลุมพราง เมื่อตำรวจนายอื่นจะเข้าไปช่วยตำรวจนายที่ตกหลุมพรางไปนั้นก็ตกหลุมพรางกันจนหมดแล้วก็มีกลไกบางอย่างของหลุมพรางทำงานมีแผงไม้ปิดหลุมพรางเอาไว้ ภายในหลุมพรางนั้นกลไกบางอย่างทำงานผนังดินภายในหลุมพรางล้มลงเผยให้เห็นว่าเป็นอุโมงค์ ตำรวจทุกนายเดินไปตามอุโมงค์
ที่ตัวบ้านร้าง จอห์นนี่ ดาร์กเนสหลบซ่อนตัวอยู่ที่ชั้นสองของตัวบ้าน ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้น เมื่อเสียงเดินเงียบไปเขาคิดว่าตำรวจติดกับดักกันหมดแล้ว เขารอเวเลา จนกระทั่งเขารู้สึกว่าไม่มีตำรวจแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินไปดูที่หน้าต่างเขาก็เห็นกลไกของกับดักทั้งหมดที่เขาสร้างขึ้นถูกเปิดใช้งานทั้งหมด
เมื่อถึงตอนกลางคืน มีรถสองคันขับเข้ามา รถคันแรกถูกเปิดประตูมีคนหนึ่งลงมาจากรถ เป็นชายร่างกำยำมีนามว่าโจ้ รถคันที่สองถูกเปิดประตูออกมีคนหนึ่งลงมาจากรถ เป็นชายหน้าติ๋มมีนามว่าแบงค์ ทั้งสองคนเดินเข้าไปในบ้านร้าง ชั้นแรกของบ้านร้างถูกจุดตะเกียงไว้ จอห์นนี่ ดาร์กเนสกำลังย่างปลาดุกอยู่ "จะไปปล้นกับเขาเหมือนกันเหรอ?"โจ้ถาม จอห์นนี่จึงว่า"เปล่า ผมนี่แหละที่เขียนข้อความไว้" โจ้ถามว่า"จะปล้นกันที่ไหน?" จอห์นนี่ก็ตอบว่า"เงินหมื่นล้านเป็นของแก๊งมาเฟียแก๊งหนึ่ง ตอนนี้มันทะเลาะกับแก๊งอื่นถ้าปล้นทั้งสองแก๊งจะได้เงินมากกว่าหมื่นล้านอีก ผมมีแผน ผมมีทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้แล้ว ทุกอย่างที่ผมเตรียมไว้อยู่ชั้นบน" แล้วจอห์นนี่ก็ถือตะเกียงพาโจ้กับแบงค์ขึ้นชั้นบน โจ้ก็ถามว่า"ชื่ออะไร?" จอห์นนี่ก็ตอบกลับ"จอห์นนี่ ดาร์กเนส" โจ้ก็บอกชื่อว่า"โจ้" แบงค์ก็บอกชื่อว่า"แบงค์" เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนแล้วชั้นบนมีแผ่นกระดาษหลายแผ่นทุกแผ่นถูกจดบันทึกข้อมูลของแก๊งมาเฟียสองแก๊งและแผนการปล้นด้วยปากกา จอห์นนี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น