ชีวประวัติปฏิพัทธิ์ ปิ่นรัตน์ บท2
ชีวประวัติของผู้เขียนข้อความนี้
เขาแสดงถึงความไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์สังคมมนุษย์ในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงสังคมไทย โดยกล่าวถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาสังคมและการเมืองในมุมมองของตนเอง เป็นบุคคลที่มีการศึกษาและทัศนคติที่เฉียบขาดต่อประเด็นต่าง ๆ ของสังคมและการเมือง มีความสามารถในการเชื่อมโยงเรื่องราวจากภาพยนตร์ เช่น "Ghidorah, the Three-Headed Monster" (ฉายปี 1964) มาสู่การวิเคราะห์ปัญหาสังคมจริง และสะท้อนความคิดเชิงลบที่มีต่อพฤติกรรมมนุษย์
เขามีการสะท้อนความคิดเห็นและความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยใช้ภาษาที่รุนแรงและเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อม การบริหารราชการที่ไม่เป็นธรรม การคอร์รัปชัน ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ และบาปทางศีลธรรมของคนไทย เช่น ราคะ ตะกละ โลภ โกรธ เกลียด ความเกียจคร้าน เป็นต้น
เขาแสดงให้เห็นถึงความโกรธและความผิดหวังในสังคมมนุษย์และสังคมไทยโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า เขาเป็นบุคคลที่มีความต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าในสังคมและมีความรู้สึกไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากความเห็นวิพากษ์ที่เกี่ยวกับสังคมไทยแล้ว เขายังได้สะท้อนถึงปัญหาระดับโลก เช่น การกระทำของฮิตเลอร์ ญี่ปุ่นในสงครามโลก และอเมริกา โดยมีการใช้ภาษาที่รุนแรงในการวิจารณ์
โดยรวมแล้ว เขาเป็นบุคคลที่มีความคิดลึกซึ้งและเข้มแข็งในด้านความรู้สึกและความเชื่อของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันก็น่าจะมีความขัดแย้งภายในใจที่มาจากความผิดหวังในสังคมและมนุษยชาติ
ชีวประวัติ: ก็อตซิลล่า
ก็อตซิลล่าเป็นสัตว์ประหลาดในภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1954 โดยบริษัท Toho มันเป็นสัญลักษณ์ของการทำลายล้างและความเป็นอันตรายของเทคโนโลยีทางทหาร หลังจากที่ญี่ปุ่นประสบกับความเสียหายจากระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่สอง ก็อตซิลล่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเตือนถึงผลกระทบของอาวุธนิวเคลียร์และพลังงานนิวเคลียร์ที่มนุษย์ใช้กันอย่างไม่ระมัดระวัง
ในภาพยนตร์ "Ghidorah, the Three-Headed Monster" ฉายปี 1964 ก็อตซิลล่าได้รับบทบาทที่ต่างออกไป โดยได้ร่วมมือกับสัตว์ประหลาดอื่นๆ เพื่อปกป้องโลกจากการรุกรานของ King Ghidorah แต่ทว่าก็อตซิลล่ายังคงถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติในสายตาของหลายๆ คน
ข้อความจากโพสต์:
"ไม่มีเหตุผลที่จะต้องช่วยมนุษย์ มนุษย์ทำลายโลกตลอดเวลา" สะท้อนถึงทัศนคติของก็อตซิลล่าที่เห็นมนุษย์เป็นผู้ทำลายธรรมชาติและโลก มันเป็นเสียงสะท้อนของความไม่พอใจและการตำหนิมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
บาปของคนไทยในโพสต์ฉบับปรับปรุงนี้:
การวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยในโพสต์นี้สะท้อนถึงความไม่พอใจต่อความขี้เกียจ การเอารัดเอาเปรียบ ความเห็นแก่ตัว และการไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ซึ่งเหมือนกับในหนังที่ตัวร้ายชนะเรื่อง Saw สังคมไทยถูกเปรียบเทียบกับแอปเปิ้ลเน่าที่เต็มไปด้วยแก๊สพิษแห่งความวิบัติ และเป็นที่น่ารังเกียจ
ข้อบาปของคนไทยที่เพิ่มเข้ามา:
ความเห็นแก่ตัว (Selfishness) - สะท้อนถึงการที่คนไทยจำนวนมากสนใจแต่เรื่องของตัวเอง ไม่สนใจความทุกข์ร้อนของคนอื่น มุ่งหาประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม และมีพฤติกรรมที่แสดงถึงความไม่รับผิดชอบต่อสังคม เช่น การนินทา การเสือกเรื่องคนอื่น การดื่มแอลกอฮอล์สำมะเลเทเมา การขาดความรับผิดชอบในการทำงานและการใช้ชีวิต
การวิจารณ์สังคมและการเพิ่มข้อบาปนี้ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดและปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมของคนไทย ซึ่งทำให้สังคมมีปัญหาและไม่สามารถพัฒนาไปในทิศทางที่ดีได้
เขาเป็นบุคคลที่มีมุมมองวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสังคมและการเมืองไทยอย่างเข้มข้น โดยมีทัศนคติที่มองเห็นความเสื่อมโทรมและความขาดแคลนของจิตสำนึกสาธารณะในสังคมไทย เขาวิพากษ์วิจารณ์ว่าคนไทยมีความเกียจคร้าน มักง่าย และเห็นแก่ตัว ซึ่งส่งผลให้สังคมไทยไม่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เขายังเปรียบเทียบประเทศไทยกับญี่ปุ่นในแง่ของความเจริญและการจัดการสิ่งต่างๆ โดยให้ความเห็นว่าญี่ปุ่นมีความก้าวหน้ากว่าไทยมากทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและสังคม
เขาได้กล่าวถึงบาปต่างๆ ที่คนไทยพึงมี ได้แก่ ราคะ (lust) ตะกละ (gluttony) โลภ (greed) อัตตา/โทสะ (pride/wrath) และเกียจคร้าน (sloth) โดยเฉพาะเกียจคร้าน ซึ่งเขามองว่าเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้สังคมไทยไม่พัฒนา
เขาสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อสภาพสังคมและการเมืองในประเทศไทย โดยใช้ภาษาที่รุนแรงและคำวิจารณ์ที่เข้มข้น ซึ่งสะท้อนถึงความหวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในสังคมไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น