ชายคนหนึ่งร่างกายระเบิดเลือดระเบิดทั้งเนื้อและเลือดกระจายเหมือนลูกแตงโมโดนยัดระเบิดแล้วเกิดระเบิดออกมาทั้งเนื้อแตงโมและน้ำแตงโมกระจาย เลือดค่อยๆเคลื่อนที่ด้วยตัวเองรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วไหลขึ้นปีนผนังแล้วไหลออกนอกหน้าต่างไป
เลือดนั้นไหลเข้าบ้านของชายอีกคนแล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณตัวเองขึ้นจนเลือดท่วมบ้านทั้งหลังจนชายคนนั้นจมเลือดตาย แล้วเลือดนั้นค่อยๆจางหายไปแช้วบ้านก็กลับสู่สภาพเดิมเหมือนฉากบางฉากในหนังบางเรื่องที่ฉากหนึ่งจางลงเผยให้เห็นฉากที่ถูกซ้อนทับ แล้วฉากที่จางลงก็หายไปเหลือไว้แต่ฉากที่ถูกซ้อนที่ชัดเจนแทน
ที่บ้านของคนๆสไตล์บ้านคนกรุงเทพหนึ่งนอกจากผู้ชายคนหนึ่งแล้วก็ไม่มีใครอีกเลย ไม่มีคน ไม่มีสัตว์ ไม่มีพืช หญ้าแค่ใบเดียวยังไม่มี ดินซักเม็ดเท่ารูเข็มก็ยังไม่มี นอกจากคนๆเดียวที่เป็นเจ้าของบ้านนี้แล้ว ก็ไม่มีกิจกรรมทางกายภาพหรือกิจกรรมทางชีวภาพใดๆอีก หน้าต่างเปิดตัวเอง บานหนึ่ง อีกบานหนึ่ง อีกบานหนึ่ง อีกบานหนึ่ง อีกบานหนึ่ง อีกบานหนึ่ง อีกบานหนึ่ง อีกบานหนึ่ง หลอดไฟเปิดตัวเองพร้อมกันทุกดวง โทรทัศน์เปิดตัวเอง วิทยุเปิดตัวเอง คอมพิวเตอร์เปิดตัวเอง(ทั้งที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก) โน๊ตบุ๊คที่พับไว้ก็ยกหน้าจอขึ้นเองแล้วเปิดตัวเอง แล้วก๊อกน้ำทุกก๊อกก็เปิดตัวเองน้ำไหลแรงสุดจนน้ำท่วมบ้าน แล้วกระจกหน้าต่างทุกอันก็ระเบิดแตกออกหมด ชายคนนั้นตกใจแล้วก็กรีดร้องวิ่งหนีสุดตีน สุดตีน สุดตีน เลือดออกจากดวงตาทั้งสองข้างของชายคนนั้นเหมือนน้ำตก เลือดออกจากรูจมูกทั้งสองข้างของชายคนนั้นเหมือนน้ำตก เลือดออกจากรูหูทั้งสองข้างของชายคนนั้นเหมือนน้ำตก เลือดออกจากใบหูทั้งสองข้างของชายคนนั้นเหมือนน้ำตก เส้นเลือดต้นขาของชายคนนั้นระเบิดออกเหมือนน้ำพุ เส้นผมของชายคนนั้นหลุดออกจากหัวมาทั้งรากผม หนังผมของชายคนนั้นลอกออกจนเห็นหัวกะโหลก กะโหลกหลุดออกจนเห็นสมอง น้ำอสุจิสีขาวพุ่งออกมาจากปลายองคชาติของชายคนนั้นจนน้ำอสุจิสีขาวท่วมพื้นบ้าน ผิวหนังลอกออกทั้งร่างกายเห็นแต่กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อลอกออก หลอดลมหลอดอาหารกระเพาะอาหารลำไส้เล็กลำไส้ใหญ่ตับไตถุงน้ำดีตับอ่อนกระดูกหลุดออกเป็นชิ้นๆเหมือนเลโก้ หลอดเลือดระเบิดเลือดท่วม
โหยไปหาจอห์นนี่ แล้วโหยพาจอห์นนี่ไปที่ทุ่งโล่งกว้างๆ ทั่วทั้งทุ่งมีกลุ่มศพคนในแผ่นฟอยล์ศพในฟอยล์เต็มไปด้วยเกลือและตายเพราะถูกเผาไฟ กลุ่มศพคนลอยอยู่ในบ่อน้ำที่ทั้งบ่อน้ำเต็มไปด้วยเลือด กลุ่มศพคนที่ตายเพราะถูกต้มในน้ำจนตาย กลุ่มศพคนที่ถูกต้นไม้เสียบ แล้วโหยก็พูดว่า "ก่อนหน้านี้มีเรื่องประหลาดยิ่งกว่านี้อีกนะ เลือดผู้ตายไม่มีฮีโมโกลบิน น้ำอสุจิก็ไม่มีเซลล์อสุจิอยู่ในนั้น แล้วองค์ประกอบของน้ำอสุจินี่ประกอบขึ้นมาจากองค์ประกอบของน้ำอสุจิของมนุษย์ แต่กลับมียีนสัตว์อยู่ในน้ำโดยที่ไม่ได้ปนเปื้อนมาจากข้างนอก แต่มาจากข้างใน ข้างในน้ำอสุจิ" จอห์นนี่ทวนคำ "ยีนสัตว์?" โหยตอบ "ใช่" แล้วก็เกิดลมหัวด้วนพัดอย่างรุนแรงเหมือนลมพายุฤดูฝน แล้วน้ำแข็งและหิมะก็ปกคลุมทุ่งโล่งนั้น แล้วจอห์นนี่ก็เห็นกูปรีตัวหนึ่ง จอห์นนี่วิ่งเข้าไปหากูปรีตัวนั้น แล้วกูปรีตัวนั้นก็ภาพจางลงแล้วก็กลายเป็นควันแล้วหายไป จอห์นนี่ก็ว่า "รู้ไหมว่าผีกรีกโบราณเป็นยังไงน่ะ?" โหยตอบ "เป็นยังไง?" จอห์นนี่ตอบ "มันจะโปร่งใสแล้วก็กลายเป็นควันลงสู่พื้น เรากำลังเจอกับวิญญาณสัตว์ทวงแค้น" โหยก็พูด"งั้นขอไปหาคาถา แล้วก็งัดพระไตรปิฎกมาใช้ปราบแปบหนึ่ง" จอห์นนี่ถาม "เอามาทำไม?" โหยตอบ "เอามาแผ่เมตตาไง ให้พวกมันเลิกแค้น ให้พวกมันอโหสิกรรมให้ ให้มันยกโทษให้ ให้มันปล่อยวาง จะได้ไปสู่สุคติ" จอห์นนี่ก็ตอบ "ถ้าทำแบบนั้นเราแพ้แน่" โหยก็ถาม "ทำไม?"
"แนวคิดที่พบในศาสดา ความดี ความชั่ว สิ่งที่ถูก สิ่งที่ผิด ธรรมชาติไม่สนใจหรอก แนวคิดที่ว่าการฆ่าฟันเป็นเรื่องที่ผิดไม่เคยปรากฏในธรรมชาติ แนวคิดที่ว่าการมีคู่ครองแค่หนึ่งเดียวเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็ไม่เคยปรากฏในธรรมชาติ แนวคิดเรื่องการขโมยเป็นเรื่องที่ผิดก็ไม่เคยปรากฏในธรรมชาติ นกโจรสลัดขโมยอาหารมาจากนกตัวอื่น นกกาเหว่าเอาไข่ตัวเองไปให้นกตัวอื่นเลี้ยง รู้ไหมว่าอะไรคือหัวใจสำคัญของทฤษฎีสิวัฒนาการ?"
โหยถาม "อะไร?" จอห์นนี่ตอบ "ยีน" จอห์นนี่ถามอีกครั้ง "รู้ไหมว่าอะไรคือจุดหมายปลายทาง คือจุดประสงค์ และวัตถุประสงค์สูงสุดและสำคัญที่สุดของการวิวัฒนาการ?" โหยถามต่อ "อะไร?" จอห์นนี่ตอบ "การผสมพันธุ์ และการดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์ ดังนั้น ธรรมชาติไม่สนใจเรื่องการมีคู่ครองเดียวหรอก ธรรมชาติไม่สนใจหรอกว่าละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไหม ธรรมชาติไม่สนใจเรื่องคุณธรรมศีลธรรมหรอก ธรรมชาติไม่สนใจเรื่องความชั่วร้ายหรอก ธรรมชาติไม่สนใจศาสนาหรอก หลายๆอย่างในธรรมชาติปฏิเสธศาสนา ธรรมปฏิเสธคุณธรรมศีลธรรมด้วย นกเงือกมีคู่ครองเดียว ผัวคอยดูแลเมีย ก็เพราะว่ามันไม่ใช่สัตว์นักล่า นกเงือกเป็นสัตว์อ่อนแอ ถ้าไม่มีคู่ครองเดียว ถ้าผัวไม่ดูแลเมีย นกเงือกก็อยู่ไม่รอดหรอก แมวเป็นสัตว์นักล่า แมวเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง มันก็ผสมตัวเมียไปทั่ว ตัวผู้ไม่ได้ดูแลลูกไม่ได้ดูแลเมีย แมวก็ไม่ได้คิดจะมีคู่ครองแค่ตัวเดียว ถามว่าทำไม ก็เพราะว่าแมวไม่จำเป็นต้องให้ผัวดูแลเมีย แมวล่าเหยื่อด้วยตัวเองตัวเดียวได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ตัวอื่นช่วย เสือโคร่งก็เหมือนกัน พวกเสืออยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ไม่มีนักล่าธรรมชาติอื่น แมวก็เลยไม่ได้มีผัวเดียวเมียเดียว เพราะมันอยู่รอดกันเองได้ ไม่จำเป็นต้องทำแบบที่นกเงือกทำเพื่ออยู่รอด แล้วอิงตามศาสนาการกระทำของนกโจรสลัดมีคุณธรรมไหมล่ะ? การกระทำของนกกาเหว่าของนกกาเหว่ามีคุณธรรมไหมล่ะ? แต่พวกมันก็ยังทำ เพราะถ้ามันไม่ทำพวกมันจะอยู่ไม่รอดในธรรมชาติ ศาสนา คุณธรรม ศีลธรรม ความชั่วร้าย ธรรมชาติไม่สนใจหรอก ธรรมชาติสนใจแค่ว่าอยู่รอดหรืออยู่ไม่รอด ผสมพันธุ์สำเร็จหรือผสมพันธุ์ไม่สำเร็จ ถ้าผสมพันธุ์ไม่สำเร็จก็สูญพันธุ์ แนวคิดนามธรรมของมนุษย์นั้นด้อยกว่าจักรวาลรูปธรรมมาก ก็อย่างที่บอกว่าธรรมชาติไม่สนใจเรื่องพวกนั้น แผ่เมตตาก็ไม่เกิดอะไรขึ้นหรอก ไม่มีทางที่วิญญานสัตว์จะหายไปได้ เพราะธรรมชาติสนใจแค่เรื่องอยู่รอด แค่เรื่องผสมพันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์เท่านั้น ดังนั้น พวกวิญญาณสัตว์ทวงแค้นมันไม่อโหสิกรรมให้มนุษย์เราแน่นอน เพราะพวกมันแค่ต้องการอยู่รอดและผสมพันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์เท่านั้นเอง"
แล้วเงาปีศาจสีดำเรืองแสงสีแดงก็ปรากฏ
"เหมียว" จอห์นนี่จำเสียงร้องนี้ได้ เป็นเสียงร้องของแต้มแมวสามสีที่จอห์นนี่เลี้ยงไว้ที่ตายไปตั้งแต่เมื่อ10ปีก่อน
"แต้มเหรอ?" แล้วแมวสามสีตัวนั้นก็ปรากฏออกมาจากเงามืด จอห์นนี่นั่งยองๆ แมวสามสีชื่อแต้มตัวนั้นก็วิ่งเข้ามาหาจอห์นนี่กระโดดขึ้นบนตัวจอห์นนี่ "นี่แกรวมอยู่ในวิญญาณแค้นนี้ด้วยเหรอ?" แล้วแต้มก็กระโดดลงวิ่งกลับเข้าไปในเงาดำปีศาจ แล้วทั้งเงาดำปีศาจทั้งแต้มก็เลือนหายไป
การที่แต้มปรากฏขึ้นมาจากเงาปีศาจต่อหน้าจอห์นนี่ แล้ววิญญาณแค้นของสัตว์หายไปหลังจากได้เจอจอห์นนี่ ยังคงไม่ทราบเหตุผลจนถึงทุกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น