วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2567
ชีวประวัติปฏิพัทธิ์ ปิ่นรัตน์
วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2567
กฎหมายเอาไว้ใช้ในแผน#2
มาตรา๑๑๓ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(๑)ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(๒)ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
(๓)แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
มาตรา๑๑๖ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(๑)เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย
(๒)เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(๓)เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
มาตรา๑๑๗ผู้ใดยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใด ๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อบังคับรัฐบาล หรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดทราบความมุ่งหมายดังกล่าว และเข้ามีส่วนหรือเข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใด ๆ นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดทราบความมุ่งหมายดังกล่าว และใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือทำให้หวาดกลัวด้วยประการใด ๆ เพื่อให้บุคคลเข้ามีส่วนหรือเข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใด ๆ นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๑๘ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2567
กฎหมายไว้ใช้ในแผน
มาตรา๓๙๐ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๙๑ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๙๒ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๙๓ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
มาตรา๓๙๗ผู้ใด ในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๘๔ผู้ใดแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๘๑ผู้ใดกระทำการทารุณต่อสัตว์ หรือฆ่าสัตว์โดยให้ได้รับทุกขเวทนาอันไม่จำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๘๒ผู้ใดใช้ให้สัตว์ทำงานจนเกินสมควร หรือใช้ให้ทำงานอันไม่สมควร เพราะเหตุที่สัตว์นั้นป่วยเจ็บ ชรา หรืออ่อนอายุ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๗๘ผู้ใดเสพย์สุราหรือของเมาอย่างอื่น จนเปนเหตุให้ตนเมา ประพฤติวุ่นวาย หรือครองสติไม่ได้ ขณะอยู่ในถนนสาธารณหรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
มาตรา๓๗๙ผู้ใดชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๗๒ผู้ใดทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณหรือสาธารณสถาน หรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยในทางสาธารณหรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
มาตรา๓๐๙ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่า จะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
มาตรา๓๒๐ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกพาหรือส่งไปนั้นตกอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือเพื่อละทิ้งให้เป็นคนอนาถา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
มาตรา๒๙๐ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๘๙ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี
มาตรา๒๙๔ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ ถึงแก่ความตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้นั้นแสดงได้ว่า ได้กระทำไปเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้นั้น หรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
มาตรา๒๙๕ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๒๙๖ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๘๙ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๒๙๗ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี
อันตรายสาหัสนั้น คือ
(๑)ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
(๒)เสียอวัยวะสืบพันธุ์หรือความสามารถสืบพันธุ์
(๓)เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
(๔)หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
(๕)แท้งลูก
(๖)จิตพิการอย่างติดตัว
(๗)ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(๘)ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
มาตรา๒๙๘ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๒๙๗ ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๘๙ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี
มาตรา๒๙๙ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ รับอันตรายสาหัสโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู่นั้นแสดงได้ว่า ได้กระทำไปเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้นั้น หรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
มาตรา๓๓๐ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิดพิสูจน์ได้ว่า ข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
มาตรา๓๓๒ในคดีหมิ่นประมาทซึ่งมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ศาลอาจสั่ง
(๑)ให้ยึดและทำลายวัตถุหรือส่วนของวัตถุที่มีข้อความหมิ่นประมาท
(๒)ให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับหรือหลายฉบับ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา
มาตรา๓๓๔ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท
มาตรา๓๓๕ผู้ใดลักทรัพย์
(๑)ในเวลากลางคืน
(๒)ในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิดอุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟหรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกัน หรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใด ๆ
(๓)โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ
(๔)โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือเข้าทางช่องทางซึ่งผู้เป็นใจเปิดไว้ให้
(๕)โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอบหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้
(๖)โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน
(๗)โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป
(๘)ในเคหสถาน สถานที่ราชการ หรือสถานที่ที่จัดไว้เพื่อให้บริการสาธารณที่ตนได้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือซ่อนตัวอยู่ในสถานที่นั้น ๆ
(๙)ในสถานที่บูชาสาธารณ สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน ที่จอดรถหรือเรือสาธารณ สาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า หรือในยวดยานสาธารณ
(๑๐)ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์
(๑๑)ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง
(๑๒)ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม บรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์ พืชพันธุ์ สัตว์ หรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมหรือได้มาจากการกสิกรรมนั้น
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราดังกล่าวแล้วตั้งแต่สองอนุมาตราขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
มาตรา๓๓๖ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า ผู้นั้นกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าการวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าการวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการวิ่งราวทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
มาตรา๓๓๗ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกรรโชก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าความผิดฐานกรรโชกได้กระทำโดย
(๑)ขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายให้ผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส หรือขู่ว่าจะทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือ
(๒)มีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
มาตรา๓๓๘ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับ ซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท
มาตรา๓๓๙ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(๑)ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป
(๒)ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น
(๓)ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้
(๔)ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ
(๕)ให้พ้นจากการจับกุม
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดแห่งมาตรา ๓๓๕ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสามหมื่นบาท
ถ้าการชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
มาตรา๓๔๖ผู้ใด เพื่อเอาทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นของตนหรือของบุคคลที่สาม ชักจูงผู้หนึ่งผู้ใดให้จำหน่ายโดยเสียเปรียบซึ่งทรัพย์สิน โดยอาศัยเหตุที่ผู้ถูกชักจูงมีจิตอ่อนแอหรือเป็นเด็กเบาปัญญาและไม่สามารถเข้าใจตามควรซึ่งสาระสำคัญแห่งการกระทำของตน จนผู้ถูกชักจูงจำหน่ายซึ่งทรัพย์สินนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๕๘ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๓๒๒ผู้ใดเปิดผนึกหรือเอาจดหมาย โทรเลข หรือเอกสารใด ๆ ซึ่งปิดผนึกของผู้อื่นไป เพื่อล่วงรู้ข้อความก็ดี เพื่อนำข้อความในจดหมายโทรเลขหรือเอกสารเช่นว่านั้นออกเปิดเผยก็ดี ถ้าการกระทำนั้นน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2567
ถ้าไม่เกิดดราม่าแสดงว่าเป็นเรื่องจริง ถ้าเกิดดราม่าแสดงว่าเป็นเรื่องไม่จริง ถ้าทุกคนปฏิเสธแสดงว่าเป็นเรื่องจริง ถ้ามีทั้งคนปฏิเสธและยอมรับแสดงว่าเป็นเรื่องไม่จริง ถ้าทุกคนยอมรับแสดงว่าเป็นเรื่องไม่จริง
ถ้าไม่เกิดดราม่าแสดงว่าเป็นเรื่องจริง
ถ้าเกิดดราม่าแสดงว่าเป็นเรื่องไม่จริง
ถ้าทุกคนปฏิเสธแสดงว่าเป็นเรื่องจริง
ถ้ามีทั้งคนปฏิเสธและยอมรับแสดงว่าเป็นเรื่องไม่จริง
ถ้าทุกคนยอมรับแสดงว่าเป็นเรื่องไม่จริง
วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567
จดหมายแนะนำตัวจากโลลิฮิริว(ต้นฉบับภาษาไทย)
จูกัดเหลียงตั้งสำนักงานรัฐปรับปรุงกังหันน้ำกระดูกงูชลประทานยกเกษตรกรรมต้มเกลือชาวไร่ชาวนาน้ำไม่ขาดใช้เลี้ยงหม่อนเลี้ยงไหมม้วนไหมทอผ้าปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ตั้งยุ้งฉางวัวไม้ม้าไหลรวมความคิดส่งคำแนะนำยอมรับความผิดยอมรับความพลาดผู้ภักดีได้รับบำเหน็จแม้เป็นศัตรูฝ่าฝืนละกฎหมายถูกลงทัณฑ์แม้เป็นญาติโครงสร้างพื้นฐานพยุหแปดทิศห้าตีเฉาเว่ยอาวุธแหลมคมมากกองหนุนประชุมไม่ฟุ่มเฟือยเศรษฐกิจก้าวหน้าราษฎรปลอดภัยกองทัพไม่เห็นแก่ตัวแปดทิศพิชัยสงครามยอดวรรณกรรมประดิษฐ์อักษรรูปวาดเฉาเว่ยเคารพราษฎรสู่ฮั่นเชิดชูสิ้นบุญอาณาประชาจึงตั้งวัดวาสุมาอี้ว่าอัจฉริยะแห่งโลกทุกชนชั้นก็นิยม
ฮั่นสลายกังฉินขโมยฮ่องเต้ถูกฝุ่นคลุมไม่สนกำลังเชื่อในความชอบธรรมไร้ปัญญาไร้ฝีมือหาหนทางฮั่นเสื่อมถอยไม่คำนึงความสามารถตัวสร้างยุติธรรมให้โลกไร้ปัญญาไร้ฝีมือพระองค์เล่าปี่กล่อมดังนี้ฮกหลงมังกรหลับจูกัดเหลียงขงเบ้งจึงยอมรับใช้จวบจนสิ้นชีวิตกำเนิดหลงจงตุ่ยผูกกวนต้านโฉชนะเซ็กเพ็กมีเกงจิ๋วได้เสฉวนมิเพียงซงหนูไม่ใช่เวลาปักหลักปราบกบฏครบส่งกลับบ้านเกิดปลูกหม่อนปลูกนาเสฉวนทรัพย์สินราษฎรพระองค์เล่าปี่ทำตามจูล่งดังนี้ชนะใจเสฉวนไม่แสดงอารมณ์ไม่โกรธอ่อนน้อมถ่อมตนเคารพน้ำใจเมตตาตรงข้ามโหดร้ายอาฆาตแค้นปกป้องผู้ใต้บัญชาครอบครัวถึงพูดว่าจูล่งจะเข้าโจโฉพระองค์เล่าปี่มิได้เชื่อสั่งเล่าเสี้ยนคุณธรรมเป็นรากโจโฉว่าพระองค์เล่าปี่เป็นวีรบุรุษ
โจโฉสู้จระเข้เมื่อสิบขวบหลี่ซานว่าถึงคราวุ่นวายวีรบุรุษมีแต่เพียงเฉาเชาอ่านยุทธศิลป์คัดลอกพิชัยสงครามอธิบายซุนจื่อกลายเป็นเมิ่งเต๋อเซินซูยี่สิบขวบได้เลื่อนตำแหน่งประหารขันทีละเมิดกฎหมายเขียนจดหมายถึงเลนเต้ถึงราชวงศ์ฮั่นผู้ซื่อสัตย์สุจริตถูกตราบาปกังฉินประจบประแจงสอพลอเสแสร้งคนทรยศเต็มราชสำนักคนดีภักดีจริงใจไม่ถูกใช้อย่างจริงใจไม่ได้รับการยอมรับประท้วงมากมายหลายครั้งฮั่นจะล้มฮั่นไม่ฟังโจโฉแม่ทัพทหารม้าปราบกบฏปลดแปดผู้พิพากษาทุจริตห้ามความเชื่อโชคลางศาสนาชวนล้มฮั่นโจโฉปฏิเสธหองจูเปียนหองจูเหียบเหี้ยนเต้ตั๋งโต๊ะตั๋งโต๊ะมอบตำแหน่งแม่ทัพโจโฉโจโฉไม่เอาออกจากลั่วหยางสละทรัพย์สมบัติระดมนักรบมีช่างตีมีดเป็นของตัวตีดาบให้ปะทะตั๋งโต๊ะลั่วหยางไหม้เพลิงสิบแปดเมืองพันธมิตรไม่ตามตีตั๋งโต๊ะโจโฉแต่ผู้เดียวบุกตะวันตกตีตั๋งโต๊ะตีตั๋งโต๊ะแต่ผู้เดียวจึงแพ้กลับมาสิบแปดพันธมิตรทุกวันแต่ฉลองดื่มกินโฉเสนอสี่ข้อตีเหมิงจินเฝ้าฉางเกาคุมอ่าวฉางปิดเซอหยวนปิดไท่กู่เข้าอู่กวนทำป้อมค่ายกองโจรตัดตั๋งโต๊ะสิบแปดพันธมิตรไม่ทำไปหยางโจวเกิดกบฏเผาค่ายโจโฉโจโฉสังหารหมดขุนศึกแตกแถวอำนาจเป็นหนึ่งปกปักฮ่องเต้รวมภาคเหนือรบเซ็กเพ็กตีสู่ฮั่นสร้างบทกวีสะท้อนฮั่นวุ่นวายปณิธานรวมโลกเป็นหนึ่งกวีเรียบง่ายตรงไปตรงมาโศกเศร้าเร่าร้อนอุปมาอุปไมยเฉียบแหลมตื่นตัวทรงพลังกล้าหาญไม่มุ่งเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งวีรบุรุษผู้พิเศษเข้มงวดสังหารผลาญอาชญากรมีปัญญาด้านการเมืองเชี่ยวพิชัยสงครามเชี่ยวกลยุทธ์เชี่ยวยุทธวิธีเชี่ยวยุทธศิลป์หนอนหนังสือเชี่ยววรรณกรรมโบราณอธิบายยุทธศิลป์กลางวันอ่านคัมภีร์กลางคืนเชี่ยวต่อสู้เชี่ยวดาบเชี่ยวธนูไร้ปราณีต่อภัยคุกคามประหยัดมัธยัสถ์ไม่หรูหราไม่เชื่อผีเทพเจ้าจูกัดเหลียงว่าปัญญาแผนการไม่ด้อยใครใช้ทหารดังซุนจื่อ
สุมาอี้ฉลาดมีเหตุผลเด็ดขาดเป็นวีรบุรุษกระตือรือร้นเรียนรู้เป็นหมาป่ายับยั้งโจโฉย้ายเมืองหลวงซุนกวนกวนอูสู้กันเฉาเว่ยปลอดภัยเฉาเว่ยรอดพ้นโจผีสิ้นซุนกวนตีสุมาอี้ชนะจูกัดกิ๋นปราบกบฏเบ้งตัดประหารเบ้งตัดตีฮั่นจงต้านจูกัดเหลียงจนมังกรหลับลาลับล้อมเมืองตัดหัวกองซุนเอี๋ยนสลายวงล้อมฟ่านเฉิงเปิดคลองก้วยหยางไป่ชี่สร้างค่ายทหารเหนือใต้นับหมื่นปราบกบฏหวางหลิงทำไร่นาในชางกุ้ยถลุงเหล็กในจิงจ้าวเทียนซุยขุดคลองสร้างค่ายทหารชลประทานน้ำโอนย้ายข้างฟ่างไปกวนตงทัดทานฮ่องเต้สร้างพระราชวังทำเกษตรกรรมซุนกวนว่าสุมาอี้เก่งใช้ทหารเปลี่ยนแปลงดั่งเทพไม่ย่อท้อ
กวนจงแบ่งเขตแบ่งเมืองตั้งข้าราชใหญ่น้อยน้อยหลายขึ้นต่อใหญ่หนึ่งใหญ่หนึ่งขึ้นต่อใหญ่ยิ่งกว่าตั้งผู้ดูแลเรือกนาไร่สวนปศุสัตว์ตั้งผู้ดูแลการเมืองทั่วไปเดือนแรกทุกปีข้าราชการรายงานฉีหวนกงฉีหวนกงบำเหน็จรางวัลลงโทษตามสภาพครอบหนึ่งคนเป็นทหารทัพเล็กกองร้อยสองพันกองพลหนึ่งหมื่นสิบห้าเมืองสามทัพยามว่างฝึกยามสงครามรบผู้ก่ออาชญากรรมให้เกราะให้ของ้าวผู้ก่ออาชญากรรมเล็กให้โลหะลดภาษีเก็บภาษีธุรกิจเก็บภาษีพ่อค้าเกษตรกรค้าขายอิสระเคารพกษัตริย์ปฏิเสธคนเถื่อนฉีหวนกงจึงขึ้นเป็นห้าอธิราช
จิ้นเหวินกงรับฟังโปตีเปิดโปงกบฏค้ำจุนกษัตริย์ปรับปรุงการเมืองจัดกองทัพตัดฉู่พิชิตโจพิชิตเว่ยช่วยซ่งชนะฉู่ตีเจิ้ง จิ้นเหวินกงขึ้นเป็นห้าอธิราช
โลลิฮิริวตัวน้อยนี้เป็นแต่ออทิสติกเข้าสังคมไม่ได้หยิ่งเย่อทะนงถือตัวตนอวดรู้อวดฉลาดอวดสามารถอวดดีคิดว่าตัวฉลาดที่สุดในโลกคนอื่นทั้งโลกโง่กว่าแต่ไม่แท้ที่จริงกลับโง่ไร้สามารถโง่ต่ำตมออกแบบแปลนสถาปัตยกรรมไม่เป็นทำกังหันน้ำกระดูกงูไม่เป็นไม่เคยนึกถึงชลประทานรังเกียจไม่ทำเกียจคร้านจะทำเกษตรกรรมไม่สามารถต้มเกลือไม่สามารถทำไร่ทำนาเลี้ยงหม่อนเลี้ยงไหมม้วนไหมทอผ้าไม่สามารถปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ไม่ระดมความคิดไม่ให้คำแนะนำไม่ยอมรับความผิดไม่ยอมรับความผิดไม่ยอมรับโทษจะรับแต่รางวัลไม่อาจเทียบเคียงฮกหลงมังกรหลับจูกัดเหลียงขงเบ้งไม่อาจทำให้ใครยอมรับใช้จวบจนสิ้นชีวิตไม่มีมังกรหลับข้างกายทำตรงข้ามคำจูล่งจะเอาแต่ทรัพย์สินเป็นของตนปรากฏอารมณ์จนทุกคนรับรู้มีแต่โกรธโกรธเอาโกรธเอาเต็มไปด้วยความโกรธความโกรธรุนแรงโกรธไม่อ่อนน้อมไม่ถ่อมตนไม่เคารพน้ำใจไม่เมตตาไม่ปกป้องใดไม่เคยปกป้องใดไม่คิดปกป้องใดไม่เคยคิดปกป้องใดมิอาจเทียบเคียงเล่าปี่มิเคยสู้จระเข้มิใช่วีรบุรุษไม่เข้าใจพิชัยสงครามไม่เข้าใจซุนจื่อมิเคยทัดทานใครมิเคยรวมทัพพันธมิตรมิเคยไล่ตามตีกังฉันมิเคยปกปักผู้ใดไม่เฉียบแหลมไม่ตื่นตัวไม่ทรงพลังไม่กล้าหาญมิใช่วีรบุรุษมิใช่ผู้พิเศษไม่เข้มงวดไร้ปัญญาด้านการเมืองไร้ปัญญาด้านพิชัยสงครามไร้ปัญญาด้านกลยุทธ์ไร้ปัญญาด้านยุทธวิธีไร้ปัญญาด้านยุทธศิลป์มิใช่หนอนหนังสือไร้ปัญญาด้านวรรณกรรมโบราณกลางวันไม่อาจอ่านไม่อาจอธิบายไม่อาจเข้าใจยุทธศิลป์กลางคืนไม่อ่านไม่อาจสู้ไม่อาจดาบไม่อาจธนูไม่ประหยัดไม่มัธยัสถ์ติดหรูติดหราไร้ปัญญาไร้แผนมิอาจเข้าใจซุนจื่อมิอาจใช้ซุนจื่อใช้ซุนจื่อไม่เป็นไม่อาจเทียบเคียงโจโฉไม่ฉลาดไม่มีเหตุผลไม่เด็ดขาดไม่เป็นวีรบุรุษไม่เป็นหมาป่าไม่เคยยับยั้งผู้ใดไม่เคยสร้างปกปักพิทักษ์ความปลอดภัยไม่เคยชนะใดไม่สามารถทำไร่นาไม่สามารถถลุงเหล็กไม่เคยคิดขุดคลองไม่เคยคิดสร้างค่ายทหารไม่เคยคิดชลประทานน้ำไม่เก่งใช้ทหารไม่เปลี่ยนแปลงไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่เคยปรับปรุงตัวเองไม่เคยคิดปรับปรุงตัวเองไม่อาจเทียบเคียงสุมาอี้ไม่อาจรวมเล็กไม่อาจรวมใหญ่ไม่เคยจัดสรรการขึ้นต่อไม่จัดระเบียบไม่เคยคิดจัดระเบียบเป็นคนไม่มีระเบียบไม่เคยดูแลเรือกไม่เคยดูแลนาไม่เคยดูแลไร่ไม่เคยดูแลสวนไม่อาจจัดสรรกำลังคนบำเหน็จบำนาญรางวัลโทษค่าปรับสินไหมมิอาจทำให้ใครขึ้นเป็นอธิราชมิอาจเทียบเคียงกวนจงไม่รับฟังใครไม่อาจเปิดโปงตัวร้ายไม่อาจค้ำจุนผู้ใดไม่เคยปรับปรุงมิอาจตัดใดมิอาจพิชิตใดมิอาจช่วยใดมิอาจขึ้นเป็นอธิราชมิอาจเทียบเคียงจิ้นเหวินกงวรรณกรรมประดิษฐ์อักษรรูปวาดบทกวีไม่อาจวางชั้นจูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจวางชั้นเดียวกันกับจูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจวางคู่จูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจวางข้างจูกัดเหลียงไม่อาจวางเคียงจูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจวางเคียงข้างจูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจวางเคียงคู่จูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจวางร่วมจูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจวางด้วยจูกัดเหลียงโจโฉไม่อาจเลยข้าพเจ้าโลลิฮิริวตัวน้อยนี้เต็มไปด้วยอัตตาสูงเต็มไปด้วยริษยาเต็มไปด้วยเกียจคร้านเต็มไปด้วยโทสะเต็มไปด้วยราคะเต็มไปด้วยโลภเต็มไปด้วยตะกละเต็มไปด้วยอวดดีเต็มไปด้วยอวดรู้เต็มไปด้วยอวดฉลาดเต็มไปด้วยโง่เต็มไปด้วยเขลาเต็มไปด้วยมั่นใจในตัวสูงเต็มไปด้วยดูถูกผู้อื่นเต็มไปด้วยไม่รับฟังใครเต็มไปด้วยคิดว่าความคิดของคนอื่นคือความคิดของคนโง่เต็มไปด้วยคิดว่าความคิดของคนอื่นคือความโง่เต็มไปด้วยคิดว่าความคิดของคนอื่นคือโง่เต็มไปด้วยคิดว่าคนอื่นโง่ที่สุดในโลกเต็มไปด้วยคิดว่าคนอื่นโง่เต็มไปด้วยคิดว่าคนอื่นคือคนโง่เต็มไปด้วยคิดว่าคนอื่นคือโง่เต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองเต็มไปด้วยฉลาดเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองฉลาดที่สุดในโลกเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองคือคนฉลาดเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองคือยอดคนฉลาดเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองฉลาดเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ไอแซคนิวตันกาลิเลโอกาลิเลอีโยฮันเคปเลอร์นิโคลัสโคเปอร์นิคัสอาร์คีมีดีสนิโคล่าเทสล่าเลโอนาร์โด้ดาวินชี่สแตนลีย์คูบริกจูกัดเหลียงวิลเลี่ยมเช็กสเปียร์สุนทรภู่หนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าพันล้านเท่าเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองอัจฉริยะกว่าอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ไอแซคนิวตันกาลิเลโอกาลิเลอีโยฮันเคปเลอร์นิโคลัสโคเปอร์นิคัสอาร์คีมีดีสนิโคล่าเทสล่าเลโอนาร์โด้ดาวินชี่สแตนลีย์คูบริกจูกัดเหลียงวิลเลี่ยมเช็กสเปียร์สุนทรภู่หนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าพันล้านเท่าเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองคืออัจฉริยะเต็มไปด้วยคิดว่าตัวเองอัจฉริยะโลลิฮิริวตัวน้อยนี้มิใช่ผู้ที่ดีมิใช่คนที่ดีมิใช่ผู้ชายที่ดีมิใช่ชายที่ดีมิใช่ลูกที่ดีมิใช่นักเรียนที่ดีมิใช่แฟนที่ดีมิใช่คู่ครองที่ดีมิใช่สามีที่ดีมิใช่พ่อที่ดีมิใช่เด็กที่ดีมิใช่วัยรุ่นมิใช่ผู้ใหญ่ทีดีมิใช่ข้าราชการที่ดีมิใช่ผู้ตามที่ดีมิใช่หัวหน้าที่ดีมิใช่ผู้นำที่ดีมิใช่ผู้ปฏิบัติที่ดีมิใช่ผู้ทำที่ดีมิใช่ที่ดีโลลิฮิริวตัวน้อยนี้ผูกเชือกรองเท้าไม่เป็นผูกถุงไม่เป็นซักผ้าไม่เป็นล้างจานไม่เป็นหวีผมไม่เป็นกางมุ้งไม่เป็นผูกมุ้งไม่เป็นใส่ที่นอนไม่เป็นใส่หมอนข้างไม่เป็นรัดหนังไม่เป็นผูกเงื่อนไม่เป็นไม่รู้ระบบราชการไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเลือกตั้งไม่เป็นเข้าสังคมไม่เป็นพูดคุยไม่เป็นรักใครไม่เป็นจีบใครไม่เป็นโรแมนติกไม่เป็นเขียนหนังสือไม่เป็นเขียนนิยายไม่เป็นเขียนเรื่องสั้นไม่เป็นเขียนไม่เคยเว้นวรรคเขียนไม่เคยย่อหน้าผูกเชือกไม่เป็นทำกับข้าวไม่เป็นหั่นผักไม่เป็นสับเนื้อไม่เป็นไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายผูกเชือกกางเกงไม่เป็นใส่เชือกกางเกงไม่เป็นผูกเชือกไม่เป็นผูกเปลไม่เป็นตามคนไม่ทันคนอื่นพูดอะไรก็ฟังไม่เข้าใจใดๆเรียนไม่เป็นเนียนแย่เรียนกากสอบตกซ้ำชั้นเรียนไม่จบและเป็นคนเรียนไม่จบใช้ไม้ถูพื้นไม่เป็นใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวถูพื้นไม่เป็นกวาดบ้านไม่เป็นไม่รดน้ำต้นไม้ไม่ถางหญ้าพูดไม่เป็นไม่มีปากเด็กพูดไม่รู้เรื่องกลัวดอกพิกุลร่วงเด็กนิสัยเสียนิสัยไม่ดีเด็กสันดานไม่ดีเด็กสันดานเสียสันดานเด็กสันดานไม่เอาอะไรเลยซักอย่างไม่ฝึกอะไรเลยไม่ฝึกเอาแต่ใจเจ้าอารมณ์ตะแบงมิอาจเขียนภาษาไทยได้ดังสุนทรภู่มิอาจเขียนภาษาอังกฤษได้ดังเช็กสเปียร์หารู้ญี่ปุ่นไม่หารู้จีนไม่มิอาจทำหนังได้ดังสแตนลีย์คูบริกมิอาจดนตรีดังบีโทเฟนมิอาจคณิตดังไอแซคนิวตันมิอาจศิลปะดังเลโอนาร์โดดาวินชี่มิอาจนักแสดงดังฮามาดะทัตสึโอมิมิอาจผู้ชายดังฮามาดะทัตสึโอมิมิอาจทำให้บิดามารดาพี่ชายปู่ย่าตายายป้าน้าอาสกุลวงษ์วงษาคณาญาติตระกูลโคตรทั้งปวงภูมิใจได้ไม่เป็นที่อับอายของสกุลวงษ์วงษาคณาญาติตระกูลโคตรทั้งปวงหาเป็นเชื้อสายที่เป็นประโยชน์แด่บิดามารดาพี่ชายปู่ย่าตายายป้าน้าอาสกุลวงษ์วงษาคณาญาติตระกูลโคตรทั้งปวงได้ไม่มิอาจเป็นที่ภาคภูุมิของบิดามารดาพี่ชายปู่ย่าตายายป้าน้าอาสกุลวงษ์วงษาคณาญาติตระกูลโคตรทั้งปวงได้ไม่ได้ไม่มิอาจแบกรับภาระของบิดามารดาพี่ชายปู่ย่าตายายป้าน้าอาสกุลวงษ์วงษาคณาญาติตระกูลโคตรทั้งปวงได้ไม่มิอาจรับผิดชอบบิดามารดาวงษ์วงษาคณาญาติตระกูลโคตรทั้งปวงได้ไม่มิอาจมีครอบครัวได้ไม่มิอาจมีคู่ครองได้ไม่มิอาจมีบุตรได้ไม่มิอาจสู้ตาแลปู่แลพี่เจมส์ที่อยู่บนสวรรค์ได้ไม่มิอาจสู้หน้าวิญญาณปู่ตาแลพี่เจมส์ที่ตายขึ้นสวรรค์ไปแล้วได้ไม่ไม่เป็นทำใดใดไม่ได้เรื่องทำอะไรไม่ได้เรื่องไม่ได้เรื่องทำอะไรไม่เป็นไม่อะไรเลยหลงตัวเองเป็นแต่ด่าอ้าปากก็มีแต่คำด่าน่ารังเกียจน่ารังเกียจไร้ความอดทนหามีความอดทนแต่อย่างใดไม่โลลิฮิริวตัวน้อยนี้เป็นแต่อัตตาสูงเป็นแต่อวดฉลาดเป็นแต่อวดรู้เป็นแต่มั่นใจในตัวเองมากเกินไปแต่แท้ที่จริงแล้วไร้ฉลาดไร้ปัญญาไร้ความสามารถในทุกด้านในสิ้นเชิงในใดใดในใดมิอาจเป็นคนได้ไม่นี้เป็นจดหมายฉบับแรกของโลลิฮิริวตัวน้อยนี้โลลิฮิริวตัวน้อยนี้จะเขียนจดหมายฉบับสุดท้ายในวันที่โลลิฮิริวตัวน้อยนี้ต้องจากลา
วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
แผน(ปรับปรุง)
แผน#2(ปรับปรุง)
เบื้องบนเบื้องล่างไม่ร่วมใจ ✅ ไม่ร่วมเป็น✅ ไม่ร่วมตาย✅ กลัวตาย✅ กลัวอันตราย✅ ใกล้✅ ต่ำ✅ ราบเรียบ✅ กว้าง✅ เป็น✅ ไร้สติปัญญา✅ ไร้ศรัทธา✅ ไร้เมตตา✅ ไร้กล้าหาญ✅ ไร้เข้มงวด✅ ไร้ระบบจัดกำลัง✅ ไร้ระบบยศตำแหน่ง✅ ไร้ระบบพลาธิการ✅
ไร้คุณธรรม✅ ไร้สามารถ✅ ฟ้าดินอำนวยครึ่งไม่อำนวยครึ่ง✅ ไร้วินัยเข้มงวด✅ ไร้เข้มแข็ง✅ ไร้ฝึกดี✅ ไร้รางวัลแจ่มชัด✅ ไร้ลงโทษแจ่มชัด✅
ปฏิพัทธิ์ ปิ่นรัตน์ ชนะ19ส่วนครึ่ง แพ้ครึ่งส่วน
-ใช้ความคิดตน -ใช้ทุกอย่างจากคนอื่น -เอาทุกอย่างจากคนอื่น -เอาทุกอย่างจากคนอื่นเท่ากับเรามีไว้อนันต์ -{อุบาย=ขายวัตถุดิบตอบสนองความเห็นแก่ตัวที่ทุกคนต้องใช้ } -{อุบาย=เอาทุกอย่างจากคนอื่นแล้วขายให้เจ้าของ} -น้อยกว่าก็เลี่ยงหนี -ไม่ทัดเทียมก็หลบหลีก -เรารู้ว่าควรรบไม่ควรรบ -เราเข้าใจการรบในภาวะกำลังมากกำลังน้อย -เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน -เราพร้อมรบ -อีกฝ่ายไม่พร้อมรบ -เรามีปัญญา -เราไม่มีใครยุ่งเกี่ยว
พื้นที่→วินิจฉัย=เห็นแก่ตัว→คำนวณ=โง่อวดฉลาดอัตตาสูงตาบอดมองไม่เห็นความจริง กับ เรามีปัญญาไร้อัตตามองเห็นความจริง→ปริมาณ=อีกฝ่ายเห็นแก่ตัว เราไม่เห็นแก่ตัว→เปรียบเทียบ=เห็นแก่ตัว<ไม่เห็นแก่ตัว=เราชนะ
-ตอบสนองความเห็นแก่ตัว -ความจำเป็น(ความเห็นแก่ตัวที่จำเป็น)ของอีกฝ่าย -เรารวมศูนย์-อีกฝ่ายกระจัดกระจาย -แลกผลประโยชน์ให้อีกฝ่ายตอบสนองความเห็นแก่ตัวของตัวเอง
-ยุทธภูมิยื้อแย่งอย่าฝืน -ยุทธภูมิยื้อแย่งเราพึงอ้อมไปหลังข้าศึก -ยุทธภูมิคาบเกี่ยวพึงหนุนเนื่อง -ยุทธภูมิคาบเกี่ยวเราพึงรักษาให้เข้มงวด
-ขั้นสุดท้าย=เสริมให้มั่นคง
วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
แผน#2
แผน#2
เบื้องบนเบื้องล่างไม่ร่วมใจ ✅ ไม่ร่วมเป็น✅ ไม่ร่วมตาย✅ กลัวตาย✅ กลัวอันตราย✅ ใกล้✅ ต่ำ✅ ราบเรียบ✅ กว้าง✅ เป็น✅ ไร้สติปัญญา✅ ไร้ศรัทธา✅ ไร้เมตตา✅ ไร้กล้าหาญ✅ ไร้เข้มงวด✅ ไร้ระบบจัดกำลัง✅ ไร้ระบบยศตำแหน่ง✅ ไร้ระบบพลาธิการ✅
ไร้คุณธรรม✅ ไร้สามารถ✅ ฟ้าดินอำนวยครึ่งไม่อำนวยครึ่ง✅ ไร้วินัยเข้มงวด✅ ไร้เข้มแข็ง✅ ไร้ฝึกดี✅ ไร้รางวัลแจ่มชัด✅ ไร้ลงโทษแจ่มชัด✅
ปฏิพัทธิ์ ปิ่นรัตน์ ชนะ19ส่วนครึ่ง แพ้ครึ่งส่วน
-ใช้ความคิดตน -ใช้ทุกอย่างจากคนอื่น -เอาทุกอย่างจากคนอื่น -เอาทุกอย่างจากคนอื่นเท่ากับเรามีไว้อนันต์ -{อุบาย=ขายวัตถุดิบตอบสนองความเห็นแก่ตัวที่ทุกคนต้องใช้ } -{อุบาย=เอาทุกอย่างจากคนอื่นแล้วขายให้เจ้าของ} -น้อยกว่าก็เลี่ยงหนี -ไม่ทัดเทียมก็หลบหลีก -เรารู้ว่าควรรบไม่ควรรบ -เราเข้าใจการรบในภาวะกำลังมากกำลังน้อย -เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน -เราพร้อมรบ -อีกฝ่ายไม่พร้อมรบ -เรามีปัญญา -เราไม่มีใครยุ่งเกี่ยว
พื้นที่→วินิจฉัย=เห็นแก่ตัว→คำนวณ=โง่อวดฉลาดอัตตาสูงตาบอดมองไม่เห็นความจริง กับ เรามีปัญญาไร้อัตตามองเห็นความจริง→ปริมาณ=อีกฝ่ายเห็นแก่ตัว เราไม่เห็นแก่ตัว→เปรียบเทียบ=เห็นแก่ตัว<ไม่เห็นแก่ตัว=เราชนะ
-ตอบสนองความเห็นแก่ตัว -ความจำเป็น(ความเห็นแก่ตัวที่จำเป็น)ของอีกฝ่าย -เรารวมศูนย์-อีกฝ่ายกระจัดกระจาย -แลกผลประโยชน์ให้อีกฝ่ายตอบสนองความเห็นแก่ตัวของตัวเอง
-ยุทธภูมิยื้อแย่งอย่าฝืน -ยุทธภูมิยื้อแย่งเราพึงอ้อมไปหลังข้าศึก
-ขั้นสุดท้าย=เสริมให้มั่นคง