วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

  ที่ว่าบ่อยกว่านี่ เรื่องอะไร กี่ครั้ง เมื่อไหร่

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

 ที่ว่าร้องไห้บ่อยกว่านี่ เรื่องอะไร กี่ครั้ง เมื่อไหร่

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

 ผมได้อะไรจากเหตุการณ์โกเบงเหลง

ความน่ากลัวของการกวาดล้างกลุ่มอำนาจอื่นชนิดที่ว่าไม่เหลือตระกูลโจกุมอำนาจสำคัญๆในการเมืองอีกเลย ทำให้ไม่มีใครมีอำนาจแบบสุมาอี้อีกต่อไป อำนาจทั้งหมดที่มีเลยตกอยู่ในกำมือตระกูลสุมาทั้งหมด และเท่ากับว่าสุมาอี้จะไม่เหลือศัตรู ไม่เหลือผู้ขัดขวางอีกต่อไป (มีกบฏต่อต้านสุมาอี้ด้วย แต่ก็อย่างที่เห็น ถูกปราบทั้งหมด) คนอื่นอาจบอกว่าสุมาอี้อดทน รู้จักรอคอยจังหวะ ลับดาบสิบปีเพื่อเชือดฟันครั้งเดียว(ประโยคมาจากซีรี่ส์ฉบับ2010 ซึ่งเราจะเห็นประโยคนี้บ่อยมากบนเฟซบุ๊ก) แต่สำหรับผม "ผมกลัวสุมาอี้ครับ" และ "ผมจะบอกว่าสุมาอี้โคตรน่ากลัวเลยครับ"

การทำตัวเองของโจซอง โจซองเอานักร้องกับกองทัพของฮ่องเต้มาเป็นของตัวเอง ขโมยมาแบบหน้าด้านๆ ตั้งน้องชายสองคนของตัวเองเป็นแม่ทัพ ดำเนินราชสำนักเอง ยกเลิกกองทหารสองกองแล้วเอามาเป็นกองทัพของตัวเอง สุมาอี้คัดค้านว่า "นี่ระบบของฮ่องเต้องค์ก่อน" แต่โจซองไม่ฟังและไม่ทำด้วย มีตอนหนึ่ง โจซองอยากโชว์พาวยกทัพบุกจ๊กก๊ก หลายคนคัดค้านโจซองว่า "จ๊กก๊กเป็นดินแดนภูเขาสูงเสียดฟ้า หุบเขาเยอะแยะเต็มก๊กไปหมด ทหารไม่พร้อม เสบียงไม่พร้อม โจซองไม่ฟัง ยกทัพบุกจ๊กก๊กอยู่ดี แล้วเรื่องเสบียงก็ไม่จัดการเตรียมการให้พร้อม ผลสุดท้าย ถูกอองเป๋งซุ่มโจมตีที่ภูเขา แตกมันทั้งทัพ เรียกว่า เห็นแก่ตัวเต็มที่ สุมาอี้ตัดสินใจอะไรในการเมืองไม่ได้ ช่วงเวลานี้ไป สุมาอี้แกล้งป่วยแล้ว หลังจากสุมาอี้ก่อการเมื่อโจฮองกับสามพี่น้องโจซองไปโกเบงเหลง ฮวนห้อมบอกว่า"อ้างฮ่องเต้รวมกำลังต่อต้านสุมาอี้"แต่โจซองลังเล และแผนนี้ก็ไม่ถูกใช้ แล้วโจซองก็ยอมแพ้สุมาอี้ เพราะอยากอยู่ในตำแหน่งและอยากอยู่แบบรวยๆต่อไปได้(แม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลยนี่หว่า) (อะไรต่อมิอะไรที่ได้ก็ไปขโมยเขามา) ถึงแม้จะได้กลับบ้าน แต่ก็ถูกสุมาอี้จับตาดูตลอดเวลา สามพี่น้องโจซองไม่สบายใจเลยไปขอข้าวจากสุมาอี้ ปรากฏว่าสุมาอี้ให้ข้าวด้วยเว้ย ทีนี้ สามพี่น้องโจซองไม่ระมัดระวังอะไรแล้ว ต่อมา เตียวต๋องที่คัดนักร้องของฮ่องเต้ไปให้โจซองถูกสุมาอี้จับมาสอบสวนบนศาล แล้วเตียวต๋องรับสารภาพว่าจะก่อกบฏร่วมกับโจซองกับคนสนิทของโจซองอีกห้าคน คนที่ทำหน้าที่สืบสวนคดีโจซองก็เป็นพวกเดียวกันกับโจซองเลยทำหน้าที่เต็มที่อย่างมากเพราะคิดว่าถ้าทำอย่างเต็มที่จะรอดชีวิต หลังจากสืบหาว่าใครร่วมกบฏกับโจซอง ปรากฏว่าสุมาอี้บอกว่า"มีอีกคนหนึ่งนะ" คนที่สืบคดีโจซองถามทันที"ใช่ข้าหรือเปล่า?" แล้วก็มีคนบอกสุมาอี้ว่า"ฮวนห้อมหาว่าท่านกบฏ" สุมาอี้ตอบสั้นๆ"กล่าวหาคนอื่นกบฏมีโทษสถานใด" อีกฝ่ายตอบกลับ"โทษเดียวกันกับกบฏ" สุดท้าย สามพี่น้องโจซอง คนสนิทโจซองห้าคน เตียวต๋อง คนสืบคดีโจซอง ถูกลงโทษข้อหากบฏประหารสามชั่วโคตรกันทั้งแก๊ง

  ผมได้อะไรจากเหตุการณ์โกเบงเหลง

ความน่ากลัวของการกวาดล้างกลุ่มอำนาจอื่นชนิดที่ว่าไม่เหลือตระกูลโจกุมอำนาจสำคัญๆในการเมืองอีกเลย ทำให้ไม่มีใครมีอำนาจแบบสุมาอี้อีกต่อไป อำนาจทั้งหมดที่มีเลยตกอยู่ในกำมือตระกูลสุมาทั้งหมด และเท่ากับว่าสุมาอี้จะไม่เหลือศัตรู ไม่เหลือผู้ขัดขวางอีกต่อไป (มีกบฏต่อต้านสุมาอี้ด้วย แต่ก็อย่างที่เห็น ถูกปราบทั้งหมด) คนอื่นอาจบอกว่าสุมาอี้อดทน รู้จักรอคอยจังหวะ ลับดาบสิบปีเพื่อเชือดฟันครั้งเดียว(ประโยคมาจากซีรี่ส์ฉบับ2010 ซึ่งเราจะเห็นประโยคนี้บ่อยมากบนเฟซบุ๊ก) แต่สำหรับผม "ผมกลัวสุมาอี้ครับ" และ "ผมจะบอกว่าสุมาอี้โคตรน่ากลัวเลยครับ"

การทำตัวเองของโจซอง โจซองเอานักร้องกับกองทัพของฮ่องเต้มาเป็นของตัวเอง ขโมยมาแบบหน้าด้านๆ ตั้งน้องชายสองคนของตัวเองเป็นแม่ทัพ ดำเนินราชสำนักเอง ยกเลิกกองทหารสองกองแล้วเอามาเป็นกองทัพของตัวเอง สุมาอี้คัดค้านว่า "นี่ระบบของฮ่องเต้องค์ก่อน" แต่โจซองไม่ฟังและไม่ทำด้วย มีตอนหนึ่ง โจซองอยากโชว์พาวยกทัพบุกจ๊กก๊ก หลายคนคัดค้านโจซองว่า "จ๊กก๊กเป็นดินแดนภูเขาสูงเสียดฟ้า หุบเขาเยอะแยะเต็มก๊กไปหมด ทหารไม่พร้อม เสบียงไม่พร้อม โจซองไม่ฟัง ยกทัพบุกจ๊กก๊กอยู่ดี แล้วเรื่องเสบียงก็ไม่จัดการเตรียมการให้พร้อม ผลสุดท้าย ถูกอองเป๋งซุ่มโจมตีที่ภูเขา แตกมันทั้งทัพ เรียกว่า เห็นแก่ตัวเต็มที่ สุมาอี้ตัดสินใจอะไรในการเมืองไม่ได้ ช่วงเวลานี้ไป สุมาอี้แกล้งป่วยแล้ว หลังจากสุมาอี้ก่อการเมื่อโจฮองกับสามพี่น้องโจซองไปโกเบงเหลง ฮวนห้อมบอกว่า"อ้างฮ่องเต้รวมกำลังต่อต้านสุมาอี้"แต่โจซองลังเล และแผนนี้ก็ไม่ถูกใช้ แล้วโจซองก็ยอมแพ้สุมาอี้ เพราะอยากอยู่ในตำแหน่งและอยากอยู่แบบรวยๆต่อไปได้(แม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลยนี่หว่า) (อะไรต่อมิอะไรที่ได้ก็ไปขโมยเขามา) ถึงแม้จะได้กลับบ้าน แต่ก็ถูกสุมาอี้จับตาดูตลอดเวลา สามพี่น้องโจซองไม่สบายใจเลยไปขอข้าวจากสุมาอี้ ปรากฏว่าสุมาอี้ให้ข้าวด้วยเว้ย ทีนี้ สามพี่น้องโจซองไม่ระมัดระวังอะไรแล้ว ต่อมา เตียวต๋องที่คัดนักร้องของฮ่องเต้ไปให้โจซองถูกสุมาอี้จับมาสอบสวนบนศาล แล้วเตียวต๋องรับสารภาพว่าจะก่อกบฏร่วมกับโจซองกับคนสนิทของโจซองอีกห้าคน คนที่ทำหน้าที่สืบสวนคดีโจซองก็เป็นพวกเดียวกันกับโจซองเลยทำหน้าที่เต็มที่อย่างมากเพราะคิดว่าถ้าทำอย่างเต็มที่จะรอดชีวิต หลังจากสืบหาว่าใครร่วมกบฏกับโจซอง ปรากฏว่าสุมาอี้บอกว่า"มีอีกคนหนึ่งนะ" คนที่สืบคดีโจซองถามทันที"ใช่ข้าหรือเปล่า?" แล้วก็มีคนบอกสุมาอี้ว่า"ฮวนห้อมหาว่าท่านกบฏ" สุมาอี้ตอบสั้นๆ"กล่าวหาคนอื่นกบฏมีโทษสถานใด" อีกฝ่ายตอบกลับ"โทษเดียวกันกับกบฏ" สุดท้าย สามพี่น้องโจซอง คนสนิทโจซองห้าคน เตียวต๋อง คนสืบคดีโจซอง ถูกลงโทษข้อหากบฏประหารสามชั่วโคตรกันทั้งแก๊ง