วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568


 



 

 https://www.instagram.com/p/DLWfksFhKEu/?igsh=MWtkdng2MnRwYWN2Zg==


Gen Z ไม่ได้เลือกว่าจบอะไรดี แต่เลือกว่า อยากเป็นอะไร โดยทำได้เลย ไม่รอปริญญาก็ได้ . หลายคนยังคิดว่า Gen Z จะหันไปทำงานด้านเทคโนโลยีกันทั้งหมด หรือใครที่ไม่จบมหาวิทยาลัยจะมีโอกาสน้อยในตลาดแรงงาน แต่ข้อมูลใหม่ล่าสุดกลับมาบอกเล่าความจริงที่น่าแปลกใจ . ผลวิจัยจาก LinkedIn's 2025 Grad Guide เผยให้เห็นภาพชัดเจนของตลาดแรงงานยุคใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลง คนหนุ่มสาวไม่ได้ติดอยู่กับความคิดเก่าๆ ที่ว่าต้องจบปริญญาถึงจะประสบความสำเร็จ หรือต้องทำงาน Tech เท่านั้นถึงจะรวย . Sarah Bregel นักเขียนจาก Fast Company ที่ติดตามเทรนด์ตลาดแรงงาน ระบุชัดเจนว่า "คนรุ่นใหม่กำลังหาทางเข้าสู่สายงานที่เคยต้องใช้ปริญญา โดยไม่ต้องใช้เส้นทางการศึกษา 4 ปี และหลายคนที่จบมหาวิทยาลัยกลับไปทำงานในสาขาที่ไม่ต้องใช้ปริญญา" โดยมีปัจจัยและเทคนิคที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จดังนี้ . 1. เลือกเมืองให้เหมาะกับเป้าหมายการทำงาน เพราะสถานที่ทำงานกำหนดโอกาสที่ได้รับ . คนจบใหม่มีปริญญากำลังย้ายไปอยู่เมืองใน Sun Belt states อย่าง Tucson, Dallas, Tulsa, Knoxville และ Chattanooga เพราะเมืองเหล่านี้มีต้นทุนการครองชีพต่ำ แต่โอกาสในการเติบโตสูง ในขณะที่คนไม่จบปริญญากลับเลือกเมืองใหญ่อย่าง San Francisco, Los Angeles, New York, Boston เพราะเมืองเหล่านี้เปิดโอกาสให้คนที่มีทักษะเฉพาะทางเข้าทำงานได้ง่ายกว่า . 2. ทำลายกำแพงระหว่างจบ-ไม่จบปริญญา ด้วยการเลือกสาขาที่เน้นทักษะมากกว่าวุฒิการศึกษา . ข้อมูลจาก LinkedIn แสดงให้เห็นว่า คนไม่จบปริญญากำลังเข้าทำงานในสาขา Financial Services ซึ่งเคยเป็นสาขาที่ต้องใช้วุฒิการศึกษาสูง ส่วนคนจบปริญญากลับไปทำงาน Construction ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากตลาดงานที่ให้ความสำคัญกับทักษะจริงมากกว่าคุณวุฒิ . 3. เก็บเกี่ยวทักษะจากยุคดิจิทัล แปลงประสบการณ์ออนไลน์เป็นอาชีพหลัก . Gen Z ที่เติบโตมาพร้อมกับ Social Media กำลังใช้ประโยชน์จากทักษะที่พัฒนามาตั้งแต่เด็ก สาขาการตลาดปรากฏอยู่ในรายชื่อ 3 ครั้งในตำแหน่งที่เติบโตเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Marketing Specialist, Social Media Marketing Specialist และ Marketing Coordinator ทักษะเหล่านี้สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้นอกห้องเรียน . . มีต่อ 4. โอบกอดเทคโนโลยีใหม่เป็นโอกาสทอง AI Engineer ขึ้นแท่นงานที่เติบโตเร็วที่สุด . สำหรับคนจบใหม่ที่มีปริญญา ตำแหน่ง Artificial Intelligence Engineer กลายเป็นงานที่เติบโตเร็วที่สุด สะท้อนถึงความต้องการ AI ในทุกอุตสาหกรรม แม้จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่อุปสงค์สูงมากจนเปิดโอกาสให้คนที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแรงงานได้รับเงินเดือนสูงตั้งแต่เริ่มต้น . 5. ขยายโอกาสในอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม Real Estate, Customer Service และ Education กำลังเป็นที่ต้องการ . อุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับคนไม่จบปริญญา ได้แก่ Customer Service, Education และ Real Estate ซึ่งเป็นสาขาที่ต้องการทักษะด้านการสื่อสาร การแก้ปัญหา และการสร้างความสัมพันธ์ มากกว่าองค์ความรู้เชิงทฤษฎี สาขาเหล่านี้เปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถเฉพาะทางเติบโตอย่างรวดเร็ว . ตลาดงานยุคใหม่ไม่ได้กำหนดมูลค่าของคนจากแค่กระดาษปริญญา แต่จากทักษะที่นำไปใช้งานได้จริง Gen Z กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าการเลือกเส้นทางที่เหมาะกับตัวเอง ผสมผสานกับการเรียนรู้ทักษะที่ตลาดต้องการ สามารถสร้างอนาคตที่สดใสได้ไม่แพ้การเดินตามเส้นทางแบบเดิมๆ . "อนาคตของงานไม่ได้อยู่ที่คุณวุฒิ แต่อยู่ที่ทักษะและความสามารถในการปรับตัว" . . เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH ——— 100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน . #Business #100WEALTH #ไปให้ถึง100ล้าน . อ้างอิง https://bit .ly/43rpf3Z


 

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568











 


 

 以下是将《三十六计》第十四计“借尸还魂”的原文及注释翻译为泰语的结果:


### กลยุทธ์ที่ 14: เจี่ยซือฮวนฮุน (借尸还魂 - ใช้ซากคืนวิญญาณ)  

"สิ่งที่มีประโยชน์ อย่าเพิ่งใช้①  

สิ่งที่ไร้ค่า กลับต้องแสวง②  

เมื่อใช้สิ่งไร้ประโยชน์ให้เป็นประโยชน์  

มิใช่เราร้องขอเด็กโง่  

แต่เด็กโง่ต่างหากที่มาหาเรา③"  


**คำอธิบาย:**  

① **"สิ่งที่มีประโยชน์ อย่าเพิ่งใช้"**: สิ่งที่มีคุณค่าชัดเจนมักควบคุมยาก เอามาใช้ไม่สะดวก  

② **"สิ่งที่ไร้ค่า กลับต้องแสวง"**: สิ่งที่ดูไร้ประโยชน์อาจถูกใช้เสริมพลังเราได้ ดังการ "คืนวิญญาณ" ที่ต้องอาศัย "ซากศพ" ที่ดูไร้ค่า กลยุทธ์นี้สอนให้ทหารฉวยโอกาสแม้จากสิ่งเล็กน้อย เปลี่ยนข้อเสียเป็นข้อได้เปรียบ  

③ **"มิใช่เราร้องขอเด็กโง่..."**: คัดจากตำราโหราศาสตร์อี้จิง (易经) "เด็กโง่" หมายถึงผู้เขลาที่ต้องพึ่งพาผู้รู้ นัยยะคือเราต้องวางตัวให้ผู้อื่นมาขอความช่วยเหลือ  


**บันทึกโบราณ:**  

เมื่อราชวงศ์ล่มสลาย การตั้งทายาทกษัตริย์เก่าเป็นเครื่องมือเพื่อเรียกร้องสนับสนุน คือแก่นของกลยุทธ์นี้ การให้ผู้อื่นถืออำนาจทหารแทนเรารบ ก็ใช้หลักการเดียวกัน  


**การประยุกต์:**  

ในประวัติศาสตร์ การ "ใช้ซากคืนวิญญาณ" มักถูกใช้ช่วงเปลี่ยนแผ่นดิน โดยอ้างอิงทายาทราชวงศ์เดิมเพื่อรวมกำลัง ในสมรภูมิ ผู้บัญชาการต้องวิเคราะห์พลังต่างๆ อย่างชาญฉลาด แม้อยู่ในสถานะเสียเปรียบ หากใช้ความขัดแย้งของศัตรูและพลังรอบข้างให้เป็นประโยชน์ ก็พลิกสถานการณ์ได้  


**สรุปแนวคิด:**  

"借尸还魂" (ใช้ซากคืนวิญญาณ) หมายถึงการใช้อำนาจที่ไร้ประสิทธิภาพมาบรรลุเป้าหมายของเรา พลังที่ทั้งสองฝ่ายต้องการมักควบคุมยาก ส่วนพลังที่ถูกมองข้ามกลับแสวงหาที่พึ่ง เมื่อเราควบคุมพลังเหล่านี้ได้ ชัยชนะก็อยู่แค่เอื้อม  


---


### หมายเหตุการแปล:

1. รักษาคำเปรียบเทียบ "ซากศพ/วิญญาณ" ในชื่อกลยุทธ์โดยแปลตรงตัว  

2. อธิบายแนวคิดจากอี้จิง (易经) ด้วยคำว่า "ผู้เขลา-ผู้รู้ธรรม" เพื่อสื่อความหมายทางปรัชญา  

3. ใช้ศัพท์การทหารเช่น "พลิกสถานการณ์" (转被动为主动), "ข้อได้เปรียบ" (有利) ให้สอดคล้องบริบท  

4. เพิ่มตัวอย่างประวัติศาสตร์ใน "การประยุกต์" เพื่อความชัดเจน  

5. แบ่งส่วนเนื้อหาชัดเจนตามต้นฉบับ: กลอนหลัก → คำอธิบาย → บันทึกโบราณ → การตีความ  


หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ในประวัติศาสตร์หรือตัวอย่างเฉพาะ กรุณาแจ้งให้ทราบครับ

以下是对该历史事件的泰语翻译:


### การลุกฮือของเฉินเซิ่งและอู๋กว่าง: ต้นแบบ "ใช้ซากคืนวิญญาณ"

ในยุคราชวงศ์ฉินที่ปกครองด้วยความโหดร้าย ประชาชนทั่วหล้าถึงขั้น "ห้าครอบครัวจากสิบครัวเรือนพร้อมกบฏ" แม้ความปรารถนาจะล้มล้างราชวงศ์ฉินมีอยู่ทั่วไป แต่หากขาดผู้นำแข็งแกร่งและการจัดองค์กรก็ไม่อาจสำเร็จ


**จุดเริ่มต้นแห่งการปฏิวัติ**  

ปีแรกในรัชสมัยฉินเอ้อร์世 (秦二世) เฉินเซิ่งและอู๋กว่างถูกเกณฑ์ไปประจำการชายแดนหยูหยาง (渔阳) ขณะเดินทางถึงตำบลต้าเจ๋อเซียง (大泽乡) เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมขวางทาง ไม่สามารถเดินทางถึงหยูหยางทันกำหนดได้ ตามกฎหมายฉิน: ทหารที่ไปถึงจุดหมายไม่ทันเวลาต้องถูกประหารชีวิต ทั้งสองตระหนักว่าแม้ไปถึงก็ต้องตาย จึงตัดสินใจลุกขึ้นสู้หาทางรอด


**ยุทธศาสตร์ "ใช้ซากคืนวิญญาณ"**  

เฉินเซิ่งรู้ว่าทหารเกณฑ์ร่วมทางต่างมีจิตใจเดียวกัน แต่กังวลว่าตนมีฐานะต่ำต้อยอาจไม่เป็นที่ยอมรับ จึงใช้ยุทธวิธีสองประการ:

1. 借用ผู้ล่วงลับ: เปิดเผยใช้ชื่อบุคคลมีชื่อเสียงสองคนเป็นสัญลักษณ์  

   - ฟูซู (扶苏) : เจ้าชายรัชทายาทองค์แรกแห่งฉินซึ่งมีจิตใจดี แต่ถูกฉินเอ้อร์世ลอบสังหาร (ประชาชนไม่รู้ความจริง)  

   - เซี่ยงเหยียน (项燕) : แม่ทัพผู้เกรียงไกรแห่งรัฐฉู่ (楚) ที่สาบสูญหลังฉินยึดครองแคว้นทั้งหก  

2. สร้างความเชื่อมั่นทางจิตวิญญาณ:  

   - ซ่อนผ้าไหมเขียนคำว่า "เฉินเซิ่งหวาง" (陈胜王 - เฉินเซิ่งจงเป็นกษัตริย์) ในท้องปลาที่ทหารปรุงอาหาร  

   - อู๋กว่างแสร้งทำเสียงหมาป่าในวัดร้างกลางคืน พร้อมเสียงกระซิบว่า "ต้าฉู่ซิง เฉินเซิ่งหวาง" (大楚兴,陈胜王 - รัฐฉู่จงรุ่งเรือง เฉินเซิ่งจงเป็นกษัตริย์)  

   กลอุบายนี้ทำให้ทหารเชื่อว่าเฉินเซิ่งเป็นผู้ถูกเลือกโดยสวรรค์


**การจุดประกายกบฏ**  

เมื่อ时机成熟 (ช่วงเวลาอันสมควร) ทั้งสองนำทหารสังหารนายทหารฉิน เฉินเซิ่งประกาศ:  

>"เราตายแน่! 不如สู้ตายให้สมชาย! แม้ตาย也要ตายอย่างองอาจ!"  

จากนั้นจึงสถาปนาตนเป็นแม่ทัพ (将军) อู๋กว่างเป็นรองแม่ทัพ (都尉) บุกยึดต้าเจ๋อเซียง ประชาชนทั่วสารทิศร่วมแรงร่วมใจ (云集响应) กองทัพก้าวหน้าทุกทิศ (所向披靡) ในที่สุดเฉินเซิ่งถูกสถาปนาเป็น "อ๋าง" (王 - กษัตริย์) ตั้งราชอาณาจักร "จางฉู่" (张楚 - แผ่ขยายรัฐฉู่)


---


### หมายเหตุการแปล

1. รักษาชื่อเฉพาะด้วย **ระบบถอดเสียงภาษาจีนกลาง** เช่น  

   - ต้าเจ๋อเซียง (大泽乡) / หยูหยาง (渔阳)  

   - เฉินเซิ่ง (陈胜) / อู๋กว่าง (吴广)  

2. แปล **สำนวนสำคัญ** แบบให้สอดคล้องภาษาไทย:  

   - "十室有五" → "ห้าครัวเรือนจากสิบ" (เน้นสัดส่วนการต่อต้าน)  

   - "揭竿而起" → "ชักธงปฏิวัติขึ้น" (ใช้ภาพแทนการลุกฮือ)  

3. อธิบาย **ยุทธศาสตร์เชิงสัญลักษณ์** ผ่าน:  

   - การใช้ชื่อฟูซู→ "借用ผู้ล่วงลับ" (借尸)  

   - การสร้างลางบอกเหตุ→ "สร้างความเชื่อมั่นทางจิตวิญญาณ" (还魂)  

4. เน้น **บทพูดสำคัญ** ของเฉินเซิ่งด้วยเครื่องหมาย > และใช้ภาษาเร้าใจ  

5. สื่อ **ความรุ่งโรจน์ชั่วขณะ** ด้วยศัพท์เช่น "ก้าวหน้าทุกทิศ/ประชาชนร่วมแรงร่วมใจ"  


หากต้องการวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ "กลยุทธ์ที่ 14" ในเหตุการณ์นี้ หรือข้อมูลเชิงลึกทางประวัติศาสตร์ โปรดแจ้งให้ทราบครับ

以下是对三国时期刘备入川战略的泰语翻译:


### การรุกเข้าสู่เสฉวนของเล่าปี่หลังยุทธการผาแดง

หลังศึกผาแดง (ค.ศ. 208) แม้อำนาจของเล่าปี่ (刘备) จะเติบโตแต่ยังไม่มั่นคง ทั้งเล่าปี่และซุนกวน (孙权) ต่างหมายปองมณฑลเสฉวน (四川) ซึ่งมี**ทำเลยุทธศาสตร์ดี** (地理位置好) และ**ทรัพยากรอุดม** (资源丰富) เป็นฐานทัพในอุดมคติ


**สถานการณ์ติดขัด:**  

โจโฉ (曹操) ผู้ตั้งใจรวมดินแดนกลาง (中原) ไว้ใต้อำนาจ **คุกคามอย่างหนัก** (虎视眈眈) โดยเฉพาะต่อซุนกวน ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถรุกเข้าเสฉวนได้


**จุดเปลี่ยนสำคัญ (ค.ศ. 215):**  

1. โจโฉโจมตีฮันตง (汉中) → เตียวโป้ (张鲁) ยอมจำนน  

2. หลิวจาง (刘璋) ผู้ครองเอ๊กจิ๋ว (益州) **ตกอยู่ในภาวะวิกฤต** (形势危急) จากการแก่งแย่งอำนาจภายใน (争权夺利)  

3. หวั่นเกรงโจโฉจะรุกต่อ → ตัดสินใจ **"เชิญเล่าปี่มาช่วยต้านโจโฉ"**  


**จังหวะทองของเล่าปี่:**  

เมื่อได้ข่าว เล่าปี่ **"ดีใจแทบไม่อยากเชื่อ"** (喜不自胜) เพราะเป็นโอกาสเข้ายึดเสฉวนตามแผน  

→ สั่งกวนอู (关羽) คุมเกงจิ๋ว (荆州)  

→ นำทหารราบหมื่นนาย (步卒万人) บุกเอ๊กจิ๋ว  


**กลอุบายทางการเมือง:**  

หลิวจางแต่งตั้งเล่าปี่เป็น:  

- **"ต้าเซือหมา"** (大司马) ผู้บัญชาการสูงสุด  

- **"ซือหลี่เซี่ยวเวย"** (司隶校尉) ผู้ตรวจการภาคกลาง  

ส่วนตนรับตำแหน่ง:  

- **"เจิ้นซีต้าเจียงจฺวิน"** (镇西大将军) แม่ทัพใหญ่ปราบตะวันตก  

- **"เอ๊กจิ๋วโหม่ว"** (益州牧) ผู้ว่าการมณฑลเอ๊กจิ๋ว  


---


### กลยุทธ์ซ่อนเร้นในคำแปล

1. **เน้นความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์:**  

   - เสฉวน → "ฐานทัพในอุดมคติ" (大展宏图的好地方)  

   - โจโฉ → "คุกคามอย่างหนัก" (虎视眈眈)  


2. **ถ่ายทอดจิตวิทยาผู้นำ:**  

   - เล่าปี่: "ได้โอกาสตามที่แอบคาดหวัง" (正中下怀)  

   - หลิวจาง: "ตัดสินใจเพราะหวาดกลัว" (深怕...心想不如...)  


3. **ระบบตำแหน่งราชการ:**  

   - ใช้**คำทับศัพท์+คำอธิบาย** เช่น:  

     *ต้าเซือหมา (大司马): ตำแหน่งเสนาบดีทหารสูงสุด*  

     *โหม่ว (牧): ผู้ว่าการเขตปกครอง*  


4. **ลำดับเหตุการณ์เชิงรุก:**  

   >โจโฉบุก → เตียวโป้ยอม → หลิวจางตื่นตระหนก → เชิญเล่าปี่ → เล่าปี่ฉวยโอกาส  


หากต้องการการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับ:  

- การใช้กลยุทธ์ "借尸还魂" (ใช้ซากคืนวิญญาณ) ผ่านการรับตำแหน่งจากหลิวจาง  

- ผลลัพธ์การยึดอำนาจในภายหลัง  

โปรดแจ้งให้ทราบครับ

### จุดจบของ "มิตรภาพปลอมๆ" ระหว่างเล่าปี่กับหลิวจาง

**ความขัดแย้งปะทุ:**  

เมื่อเล่าปี่ได้รับจดหมายจากเกงจิ๋วว่ามหาาอโจโฉกำลังโจมตีซุนกวน จึงขอให้หลิวจางส่ง:

> - **ทหารชั้นยอดสามหมื่นนาย** (三万精兵)  

> - **ข้าวสิบหมื่นเกวียน** (十万斛军粮)  

เพื่อร่วมสู้รบ


**ปฏิกิริยาของหลิวจาง:**  

หวั่นเกรงจะสูญเสียกำลัง → ส่งแค่ **"ทหารเก่าสามพันนาย"** (三千老兵) เท่านั้น  


**ฉากเฉลยแผนซ่อนเร้น:**  

เล่าปี่ฉวยโอกาสนี้ **"ประกาศตัดสัมพันธ์"** (乘机大骂) อย่างเผ็ดร้อน:  

> _"ข้าช่วยท่านสู้โจโฉ ท่านกลับตระหนี่ทรัพย์!  

> จะให้คนอย่างเจ้าอยู่ร่วมโลกด้วยอย่างไร!"_  


### การปิดเกม "ใช้ซากคืนวิญญาณ"

- **เปิดศึกทันที:** เล่าปี่ประกาศสงคราม (宣战)  

- **บุกถล่มเฉิงตู:** รุกกระหน่ำอย่างสายฟ้าแลบ (乘胜直捣成都)  

- **ยึดเสฉวนสมบูรณ์:** บรรลุแผนยึดมณฑลเสฉวน (占领四川的计划)  


**ยุทธศาสตร์แฝง:**  

> "เล่าปี่ใช้ 'ศพ' หลิวจาง (借刘璋这个尸)  

> ขยายอำนาจ (扩充实力) → ยึดเสฉวน (占据了四川) →  

> วางรากฐานสร้างราชอาณาจักร" (为以后建国打下了基础)


---


### เฉลยกลลวงในคำแปล

1. **ถ่ายทอดอารมณ์คำด่า:**  

   - "ตระหนี่ทรัพย์" (吝惜钱财) → แสดงความขมขื่น  

   - "คนอย่างเจ้า" (你这种人) → สะท้อนการเหยียดหยาม  


2. **ภาพยนตร์การรบ:**  

   - "บุกถล่มเฉิงตู" (直捣成都) → สื่อความเร็วและฤทธิ์เดช  

   - "รุกกระหน่ำ" (乘胜) → เน้นโมเมนตัมชัยชนะ  


3. **เชื่อมโยงหลักกลยุทธ์:**  

   ใช้โครงประโยค **"ใช้ศพ...ขยาย...ยึด...วางราก..."**  

   เพื่อตอกย้ำแนวคิด "借尸还魂" จากตอนก่อน  


4. **ข้อมูลเชิงลึก:**  

   > "การส่งทหารเก่าสามพันนาย" ของหลิวจางไม่ใช่แค่การประหยัด  

   แต่คือ **ความกลัวถูกยึดอำนาจ** ที่เล่าปี่จงใจยั่วยุ!  


หากต้องการแผนที่การโจมตีหรือรายละเอียดขั้นตอนการยึดเฉิงตูเพิ่มเติม โปรดแจ้งให้ทราบครับ


 


 



 


 

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568